เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพานแล้ว พระบรมสารีริกธาตุ รอยพระพุทธบาท พระพุทธปฏิมาถูกใช้เป็นเครื่องระลึกถึงพระองค์จนถึงทุกวันนี้
การห่มผ้าพระธาตุคืออะไร
การห่มผ้าพระธาตุ คือการนำผ้าที่สะอาดบริสุทธิ์ นิยมผ้าสีเหลือง สีขาว และสีแดง นำไปถวายองค์พระธาตุโดยการห่มที่องค์พระธาตุหรือองค์พระเจดีย์นั้น กล่าวก็คือการถวายผ้าเป็นพุทธบูชาโดยการห่มที่องค์พระธาตุซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ พระอรหันตธาตุ คัมภีร์พระไตรปิฎก อัฐบริขาร หรือพระพุทธรูปสำคัญ
คำว่า พระบรมธาตุ พระธาตุ พระบรมเจดีย์ พระเจดีย์ ในบทความนี้ ผมขอใช้ในความหมายเดียวกัน คือสิ่งก่อสร้างที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พระอรหันต์ธาตุ คัมภีร์พระไตรปิฎก อัฐบริขาร หรือพระพุทธรูปสำคัญ เพื่อเป็นเครื่องระลึกถึงพระพุทธเจ้า หรืออุทิศถวายพระพุทธเจ้า นับว่าเป็นปูชนียสถานที่สำคัญของชาวพุทธ
ทำไมต้องห่มผ้าพระธาตุ
การห่มผ้าพระธาตุเป็นเรื่องของบุญกุศล เป็นเรื่องของบุคคลผู้ต้องการทำบุญ หรือบางท่านมีความรู้สึกว่าตนเองมาร่วมสร้างพระบรมธาตุพระบรมเจดีย์ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุไม่ทัน แต่อยากมีส่วนร่วมด้วยจึงได้ถวายผ้าห่มองค์พระบรมธาตุนั้น
การห่มผ้าพระธาตุได้บุญอย่างไร มีประโยชน์อย่างไร
ประเด็นนี้สำคัญมาก การห่มผ้าพระธาตุได้บุญอย่างไร ทำไมต้องได้บุญ ทั้ง ๆ ที่พระธาตุก็สร้างเสร็จแล้ว พระธาตุไม่หนาวไม่ร้อน ไม่มีความจำเป็นที่ต้องห่มผ้าหรือว่าไปแล้วทำให้บดบังความงดงามขององค์พระธาตุเสียอีก ทำให้คนทัศนาพระบรมธาตุไม่ได้เต็มที่ บางครั้งคนต่างถิ่นตั้งใจจะมากราบไหว้พระบรมธาตุ ต้องการเห็นพระบรมธาตุเพื่อเป็นบุญตาเต็มทั้งสองตากลับมีผ้ามาบดบัง หรือบางครั้งคณะที่กำลังเดินแห่ผ้ารอบองค์พระธาตุเพื่อที่จะห่มองค์พระธาตุรบกวนบุคคลอื่นที่กำลังทำสมาธิสวดมนต์กราบไหว้บูชาพระธาตุก็มี นี่ผมกล่าวจากประสบการณ์จริงที่เดินทางไปกราบไหว้องค์พระธาตุ
เมื่อมีความตั้งใจที่จะห่มผ้าพระธาตุแล้ว ผมจึงขอกล่าวเฉพาะในส่วนที่เป็นบุญ และประโยชน์ที่ได้จากการห่มผ้าพระธาตุ
- เป็นการถวายผ้าเป็นพุทธบูชา
พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพานไปนานแล้ว พุทธศาสนิกชนผู้เกิดมาภายหลังไม่สามารถที่จะถวายผ้าจีวรแก่พระองค์ท่านได้ ซึ่งก็มีแต่พระพุทธรูป พระบรมธาตุ รอยพระพุทธบาท ทั้งหมดที่กล่าวล้วนเป็นพระเจดีย์คือเครื่องระลึกถึงพระพุทธองค์ เมื่อไม่สามารถที่จะถวายผ้า ดอกไม้ สิ่งของแก่พระองค์ได้โดยตรง พุทธศาสนิกชนจึงถวายผ่านพระบรมธาตุโดยการห่มผ้าพระธาตุ ถวายผ่านพระพุทธรูปโดยทำเป็นผ้าห่มพระพุทธรูป ถวายดอกไม้ธูปเทียนของหอมผ่านพระพุทธรูป พระธาตุ เพื่อเป็นพุทธบูชา ใครมีทองคำก็ถวายทองคำหุ้มพระธาตุเป็นพุทธบูชา ใครมีผ้าก็ถวายผ้าเป็นพุทธบูชา ใครมีดอกไม้ธูปเทียนก็ถวายดอกไม้ธูปเทียนเป็นเครื่องพุทธบูชา - เป็นการระลึกถึงพระพุทธคุณ
หมายความว่าก่อนที่จะถวายผ้าก็มีความตั้งใจระลึกถึงพระพุทธเจ้าผ่านทางพระธาตุที่จะไปห่ม ขณะที่กำลังแห่ผ้าเพื่อห่มพระธาตุก็ระลึกถึงพระพุทธคุณหรือสวดบทพุทธคุณ ขณะห่มผ้าพระธาตุก็ระลึกถึงพระพุทธคุณ คือได้บุญ เป็นบุญเพราะระลึกถึงพุทธคุณ - หล่อเลี้ยงศรัทธาของตนให้มั่นคงในพระศาสนา
ธรรมชาติของจิตใจคนเรากลับกลอกไปมา เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายไม่แน่นอน ฉะนั้น ต้องหากิจกรรมดี ๆ เป็นเครื่องหล่อเลี้ยงจิตใจให้ไปในทางดี หนึ่งในนั้นก็คือการเข้าวัดทำบุญนั่นเอง เป็นการเสริมศรัทธาของเราให้มั่นคงในพระศาสนายิ่งขึ้นและตลอดไป - สร้างความศรัทธาให้กับผู้ที่ได้พบเห็นหรือได้ยินข่าว
เราเข้าวัด ทำบุญห่มผ้าพระธาตุถือว่าเป็นกิจกรรมที่ใครได้เห็นได้ยินได้ฟังก็อนุโมทนาตามด้วย บางคนไม่มีโอกาสได้ห่มผ้าพระธาตุด้วยตนเอง แต่เห็นคนอื่นกำลังแห่ผ้าเพื่อห่มผ้าพระธาตุก็มีใจพลอยอนุโมทนาสาธุด้วย หรือบางท่านอยู่ต่างประเทศไม่มีโอกาสได้ห่มผ้าพระธาตุแต่เราเล่าให้เขาฟังหรือได้เห็นรูปจากเว็บไซต์เขาก็พลอยมีจิตยินดีอนุโมทนาด้วย เป็นการสร้างบุญให้เกิดขึ้นกับคนอื่นด้วย - เป็นการปฏิบัติทาน ศีล ภาวนา
การห่มผ้าพระธาตุถือว่าเป็นการปฏิบัติทานศีลภาวนาไปในตัว ซึ่งทั้งหมดเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า การถวายผ้าห่มเป็นพุทธบูชาถือว่าเป็นทาน การระลึกถึงศีลของตนด้วยการสำรวมกายวาจาในขณะทำพิธีจัดว่าเป็นศีล การสำรวมใจสวดมนต์ภาวนาระลึกถึงพระพุทธคุณในขณะนั้นจัดว่าเป็นภาวนา - เป็นการเผยแผ่พระพุทธศาสนา
การจัดพิธีกรรมห่มผ้าพระธาตุถือว่าเป็นการเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้โลกรับรู้วิธีหนึ่ง เพราะมีการบอกกล่าว ชักชวนให้ผู้คนมาร่วมด้วย และยังเผยแพร่รูปภาพกิจกรรมนั้นให้โลกรับรู้ด้วย แม้ว่าจะเป็นแค่เปลือกหรือกระพี้ของศาสนาก็ตาม แต่ก็ยังเป็นสิ่งที่ให้คนได้รู้เห็นและเป็นแรงจูงใจให้เขาได้มาศึกษาพระพุทธศาสนา - เป็นการสร้างความสามัคคีในครอบครัวหรือชุมชน
การห่มผ้าพระธาตุ ถ้าจัดทำกันเฉพาะคนในครอบครัวก็เป็นการสร้างความสามัคคีให้เกิดขึ้นด้วยกิจกรรมดี ๆ ถ้าทำในกลุ่มเพื่อน บริษัท สำนักงาน ก็เป็นการสร้างความสามัคคีให้เกิดขึ้นในกลุ่มเพื่อนหรือองค์ก่อน ถ้าทำในระดับชุมชนก็เป็นการสร้างความสามัคคีให้เกิดขึ้นในชุมชนนั้น ๆ
คำกล่าวถวายผ้าห่มพระธาตุ พระเจดีย์
ยัคเฆ ภันเต สังโฆ ปะฏิชานาตุ, มะยัง ภันเต, อิมัง วัตถัง, สะปะริวารัง, พุทธัสสะ, ปูชะนัตถายะ, สังฆัสสะ, นิยยาเทมะ, สาธุ โน ภันเต, อะยัง, อิมินา วัตเถนะ, พุทธัสสะ, ปูชา, อัมหากัญเจวะ, มาตาปิตุอาทีนัญจะ, ปิยะชะนานัง, ทีฆะรัตตัง, หิตายะ, สุขายะ, สังวัตตะตุ.
ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ, ขอพระสงฆ์จงรับทราบ, ข้าพเจ้าทั้งหลาย, ขอมอบถวายผ้าผืนนี้, พร้องกับของบริวาร, แก่สงฆ์, เพื่อเป็นพุทธบูชา, ขอการบูชาพระพุทธเจ้าด้วยผ้าผืนนี้, ของข้าพเจ้าทั้งหลาย, จงเป็นไปเพื่อประโยชน์, เพื่อความสุข, แก่ข้าพเจ้าทั้งหลายด้วย, แก่ปิยชนทั้งหลาย, มีมารดาบิดาเป็นต้นด้วย, ตลอดกาลนานเทอญ.
คำอธิษฐานหลังถวายผ้าห่มพระธาตุ พระเจดีย์ พระพุทธรูป
อธิษฐานได้ตามความปรารถนา ตามเจตนาของถวาย อันที่จริงคำอธิษฐานไม่จำเป็นต้องเลียนแบบหรือ copy คำอธิษฐานของคนอื่น ขอให้ตั้งจิตมั่นทำการอธิษฐานเอง แม้ไม่อธิษฐานอะไรเลยก็สำเร็จเป็นบุญได้เช่นกัน ฉะนั้น ไม่ต้องกังวลในเรื่องแบบฟอร์มคำอธิษฐาน หรือจะกล่าวคำอธิษฐาน ดังนี้
พุทธะปูชา มะหาเตชะวันโต
ธัมมะปูชา มะหาปัญญะวันโต
สังฆะปูชา มหาโภคะวาโห
มะหาเตชา มะหาปัญญา มะหาโภคา ภะวันตุ เม
อานิสงส์ของการห่มผ้าพระธาตุ
คนเราไม่ควรประมาทในบุญหรือบาปว่าเป็นของเล็กน้อย ทำบุญย่อมเกิดบุญ ทำบาปย่อมเกิดบาป แต่จะมากหรือน้อย เมื่อไหร่ อย่างไร เท่านั้นเอง การทำบุญห่มผ้าพระธาตุก็เหมือนกัน เชื่อว่าเกิดอานิสงส์ผลบุญ เป็นต้นว่า
- ทำให้เป็นผู้มีผิวพรรณดี ผิวพรรณผ่องใส
- เป็นผู้มีใจเบิกบาน
- ทำให้เป็นผู้มีสุขภาพดี
- เป็นผู้มีโรคน้อย โดยเฉพาะโรคผิวหนังอาจจะไม่เกิดขึ้นเลย
- ทำให้เป็นผู้มีชื่อเสียงดีงาม
- เป็นที่รักของคนทั้งหลาย
- เป็นผู้มีบริวารมาก
- เป็นผู้มียศตำแหน่งสูง
- เป็นที่เคารพนับถือของผู้อื่น
- อยู่ที่ไหน เดินทางไป ณ ที่ใดก็ได้รับการคุ้มครองจากผู้ใหญ่ แคล้วคลาดปลอดภัย
- สร้างความรักสามัคคีให้เกิดขึ้นกับคนในครอบครัว เพื่อนร่วมงาน
- เชื่อว่าแก้ดวงตก ยกชะตาชีวิตให้สูงขึ้น มีโชคลาภวาสนา
บทความแนะนำ >>>ถวายผ้าห่มพระพุทธรูป-พระเจดีย์ อานิสงส์เป็นสง่าราศีแก่ตนเองและครอบครัว