ตามคำภีร์ในพระพุทธศาสนาแล้วท่านกล่าวว่า “สัตว์ (สัตว์ทุกประเภทรวมถึงมนุษย์เทวดาด้วย) ที่ไม่เคยเกิดเป็นพ่อแม่ลูก สามีภรรยากันนั้นไม่มี” หมายความว่าเราทุกคนที่ยังเวียนวายตายเกิดอยู่เคยเป็นพ่อแม่ลูกสามีภรรยาพี่น้องเพื่อนฝูงกันมาแล้ว นั่นหมายความว่าเคยทำกรรมร่วมกันมาไม่ชาติใดก็ชาติหนึ่ง บางชาติก็อาจจะทำกรรมดีต่อกัน บางชาติอาจจะกระทบกระทั่วลงพยาบาทอาฆาตต่อกัน ซี่งเรารู้ไม่ได้ และไม่ควรประมาท บทความนี้ ผมจึงขอนำคำขอขมาลาโทษเจ้ากรรมนายเวรของหลวงพ่อจำเนียร วัดถ้ำเสือ จังหวัดกระบี่มาฝากทุกท่าน ก่อนที่จะเข้าสู่บทขอขมาเรามาทำความเข้าใจกับคำว่าเจ้ากรรมนายเวรกันก่อน
คำว่าเจ้ากรรมนายเวรต่อกันนี้ มันอธิบายยากเหมือนกัน ไม่ได้หมายความว่าคนที่ทำกรรมชั่วต่อกันอย่างเดียว แม้ทำกรรมดีต่อกันไว้ ก็เป็นเครื่องผูกมัดต่อกันได้ เช่น บางคนอาจจะอธิษฐานต่อกันว่าขอเป็นเนื้อคู่กันทุกภพทุกชาติ แต่อายุขัยของคนเราไม่เหมือนกันทำให้เกิดมาไม่ได้พบเจอกัน หรือบางคนเกิดการเบื่อหน่ายเกิดมาชาตินี้ต้องการออกบวช ไม่ต้องการใช้ชีวิตคู่ จึงต้องทำการขอขมาลาโทษบุคคลอื่น ๆ ตั้งแต่อดีตมาจนถึงพ่อแม่พี่น้อง เพื่อนฝูงในปัจจุบันนี้ เจ้ากรรมนายเวร ไม่ได้หมายความมีวิญญาณอะไรตามมาประกอบเสมอไป ถ้ายกตัวอย่างในอดีต อาจจะกล่าวได้ว่าพระเทวทัตเป็นคู่จองต่อพระพุทธเจ้า แต่ให้สังเกตว่าชาติต่รง ๆ ที่พระเทวทัตจองเวรต่อพระพุทธเจ้าจะต้องอยู่ในภพชาติที่สามารถเข้าถึงกันได้ เห็นกันได้ สัมผัสกันได้ เช่น ถ้าพระพุทธเจ้าเสวยพระชาติเป็นสัตว์ พระเทวทัตเองก็เกิดเป็นสัตว์ด้วยหรือเกิดเป็นมนุษย์ซี่งสามารถเห็นกันได้ สัมผัสกันได้ ถ้าพระพุทธเจ้าเกิดเป็นมนุษย์พระเทวทัตก็เกิดเป็นมนุษย์หรือสัตว์ที่สัมผัสกันได้ ไม่ใช่ว่าพระพุทธเจ้าเป็นมนุษย์แล้วพระเทวทัตเป็นวิญญาณร้ายมาแอบอยู่
แต่อย่างไรก็ตาม ถ้ามีเจ้าเวรเจ้ากรรมจริง ก็เป็นเรื่องของกรรม การให้ผลของกรรม ซึ่งการให้ผลของกรรมนั้น กรรมบางประเภทไม่เกี่ยวกับบุคคลที่เราทำกรรมด้วย แต่กรรมที่เราทำไปก็ย่อมส่งผล เช่น เราด่ามารดาบิดา ด่าพระ ถึงท่านจะให้อภัย ไม่ยินดียินร้าย แต่กรรมนั้นเราได้ทำไปแล้ว และกรรมนั้นอาจจะส่งผลที่ไม่ดีต่อเราได้
พูดกถึงเรื่องกรรมก็อธิบายเข้าใจยากเหมือนกัน เป็นอันว่าเป็นกฎของธรรมชาติอย่างหนึ่ง ที่มันสัมพันธ์กัน ดึงดูดกัน แต่ทุกอย่างที่เราได้รับผลทุกวันนี้ ก็ไม่ใช่เรื่องของกรรมในอดีตหรือเจ้ากรรมนายเวรเสมอไป อย่างเป็นหวัดมันก็อาจจะเป็นเรื่องของปัจจุบันที่เราอยู่เราทำเป็นเรื่องของฤดูกาล (แต่มันก็เหมือนกรรมอยู่นั่นแหล่ะ งงล่ะสิ เพราะกรรมคือการกระทำแม้ในปัจจุบัน เช่นนอนดึก เล่นเกมส์ พักผ่อนน้อย ผลคือทำให้เป็นหวัด จะเรียกว่าเพราะการกระทำกรรมคือนอนดึกเล่นเกมส์ก็ได้ แต่ไม่ใช่เรื่องของอดีตชาติหรือเจ้ากรรมนายเวร
มาดูคำขอขมาลาโทษเจ้ากรรมนายเวรของหลวงพ่อจำเนียรดู ถ้าใครไม่เห็นด้วย ก็อย่าเพิ่งตำหนิท่าน เพราะคนที่ด่าตำหนิก็คือคนที่กำลังสร้างกรรมต่อท่านอยู่ ก็เพราะมีคนประเภทนี้ ท่านจึงมีคำขอมา
คำขอขมาลาโทษตามแบบ (หลวงพ่อจำเนียร สีลเสฎฺโฐ) วัดถ้ำเสือ อ.เมือง จ.กระบี่
กายกรรม ๓ วจีกรรม ๔ มโนกรรม ๓ กรรมดีอันใด เป็นบุญกุศล ที่ข้าพเจ้าได้กระทำแล้ว ด้วยกาย วาจา ใจ ในอดีตชาติก็ดี ปัจจุบันชาติก็ดี ขอให้ถึงแก่ท่านทั้งหลาย ที่มีภพมีภูมิ มีชาติเป็นแดนเกิด มีชรามรณะ มีจิต มีชีวิต มีวิญญาณ มีขันธสันดาน มีวิบากแห่งกรรม มีการกระทำ เจ้ากรรมนายเวร เจ้าการบัญชี จตุโลกบาลทั้ง ๔ ยมบาล มนุษย์ ๑ สวรรค์ ๖ พรหม ๒๐ อบายภูมิทั้ง ๔ บัดนี้ ข้าพเจ้า ได้สร้างกองการกุศล มีผลทานผลศีล ผลภาวนา ผลแผ่เมตตา ขอให้ถึง แก่ท่านทั้งหลาย ที่ข้าพเจ้า ได้ล่วงเกิน ทำกรรมไว้ ด้วยกายก็ดี ด้วยวาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี เจตนาก็ดี ไม่เจตนาก็ดี รู้ก็ดี ไม่รู้ก็ดี ต่อหน้ากันก็ดี ลับหลังกันก็ดี ขอให้ท่านทั้งหลาย จงอโหสิกรรม ให้แก่ข้าพเจ้า ตั้งแต่บัดนี้ เป็นต้นไป อย่ามีเวรภัย เกิดชาติหนึ่งภพใด ขอให้ได้สร้าง แต่กรรมดี สร้างบารมีของตน ให้พ้นภัยพาล ลุล่วงบ่วงมาร ในอนาคตกาล อันใกล้นี้ ด้วยเทอญ …
ข้าพเจ้าคิดจะประกอบกิจการอันใด ที่ไม่ผิดทำนองคลองธรรม ขอให้สำเร็จสมปรารถนา เป็นอัศจรรย์ เหนือมนุษย์ทั้งปวง..
ผมอ่าน ๆ ดูแล้วก็เป็นการสรุปว่า เป็นการอุทิศบุญไปนั่นเอง เพราะกล่าวถึงทำบุญ อ้างถึงบุญที่ตนได้กระทำมา แล้วก็ให้ท่านได้มีส่วนอนุโมทนา ถ้าเขาอนุโมทนา ถ้าใครอนุโมทนาด้วยก็แสดงว่าเขายินดีกับเรา เขาเป็นมิตรกับเรา การให้อนุโมทนาบุญต่างจากการให้อาวุธหรือให้ข้าวให้น้ำนะ ให้อาวุธให้ข้าวให้น้ำ เขารับไปกินอิ่มอาจจะมีความแค้นกับเรามาทำร้ายเราไดั แต่การให้บุญแล้วเขาอนุโมทนาเขาจะเป็นมิตรกับเราไม่ทำร้ายเรา แต่ถ้าเขาไม่ยินดีกับเราแสดงว่าเขาไม่ได้อนุโมทนากับเราด้วย