เราสามารถอุทิศบุญให้กับคนเป็นที่ยังมีชีวิตอยู่ได้ไหม
ผมต้องออกตัวก่อนว่า ผมเองไม่ได้ศึกษาพระอภิธรรมมาก่อน ตำราก็อ่านบ้างนิดหน่อย แต่ไม่เต็มที่ ไม่ต่อเนื่อง สิ่งต่าง ๆ ที่ผมเขียนจึงเป็นความรู้ความทรงจำที่สะสมมา หากมีองค์ความรู้อื่นที่ถูกต้องกว่า น่าเชื่อถือได้ มีที่อ้างอิงในพระไตรปิฎกที่ชัดเจนกว่า ให้ท่านถือเอาความรู้นั้นเป็นหลัก
คำว่าอุทิศบุญให้คนเป็นหมายถึงคนอื่น บุคคลอื่น เช่น พ่อแม่ ญาติ พี่น้อง คนป่วย ที่ยังมีชีวิตอยู่
การอุทิศบุญหรือการอุทิศส่วนกุศล (โดยความเป็นจริงบุญและกุศลต่างกัน แต่ผมขอใช้แทนกันในบทความนี้) นิยมทำหลังจากที่เราทำบุญอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ทำบุญตักบาตร ถวายสังฆทาน ให้ทาน ถวายกฐิน ผ้าป่า สวดมนต์ภาวนา เป็นต้น หรือ เมื่อเรานึกถึงบุญที่เราเคยทำมาด้วยวิธีการที่ได้กล่าวมา
การอุทิศบุญให้คนอื่นนั้นไม่ใช่การโอนบุญให้คนอื่น ไม่ใช่การเทบุญไปให้เขา ไม่ใช่การนำบุญนั้นมาหั่นแล้วยื่นให้เขา ไม่ใช่บุญที่เราอุทิศนั้นจะไหลไปหาเขา ผมกล่าวว่าบุญก็ยังอยู่กับคนอุทิศเหมือนเดิม การอุทิศบุญคือการบอกบุญที่ตนเองได้ทำให้เขาได้รับทราบโดยการบอกเจาะจงไปที่เขา ให้เขาได้รับทราบและอนุโมทนาบุญนั้นด้วย
ถามว่า บุญจะเกิดขึ้นกับบุคคลที่เราอุทิศไปให้ได้อย่างไร ตอบว่า บุญจะเกิดขึ้นกับคนที่เราอุทิศไปให้ด้วยกุศลเจตนาของเขาเอง เขามีจิตยินดีในการทำบุญของเราแล้วอนุโมทนา การอนุโมทนานั้นแหล่ะเป็นวิธีการทำบุญของเขา เรียกว่าปัตตานุโมทนามัย บุญสำเร็จด้วยการอนุโมทนานั้น
ถ้าหากว่าการอุทิศบุญแล้วบุญไหลไปหาเขาเอง โดยที่เขาไม่ได้ทำอะไร ก็จะขัดแย้งกับคำที่ว่า บุญกรรมต้องทำด้วยตนเอง บุญต้องทำด้วยตนเอง ทำแทนกันไม่ได้
ตัวอย่างการอุทิศบุญและการอนุโมทนาบุญ
นาย ก ทำบุญโดยการขุดบ่อก่อศาลา สร้างสะพาน สร้างถนนให้คนได้เดินทางสะดวกสบาย เมื่อเขาทำบุญเสร็จแล้วเขาจึงโทรศัพท์บอกนาย ข ที่อยู่ต่างประเทศทราบ นาย ข ได้รับทราบการทำบุญของนาย ก แล้วมีจิตยินดีเกิดกุศลจิตขึ้น อนุโมทนาบุญนั้น (อนุโมทนา คือมีจิตยินดีในการทำบุญของนาย ก ไม่ใช่การส่งเงินมาช่วยสร้าง เพราะนาย ก สร้างเสร็จแล้ว) นาย ข ได้ชื่อว่าทำบุญด้วยการอนุโทนา ได้บุญเพราะการอนุโมทนา แต่ไม่ได้บุญเพราะการขุดบ่อก่อศาลา สร้างสะพาน สร้างถนน นาย ข ไม่ได้มาขุดบ่อก่อศาลา สร้างสะพาน สร้างถนนด้วยกับนาย ก นี่เป็นตัวอย่างหนึ่งของการทำบุญที่ต้องทำด้วยตนเอง ทำแทนกันไม่ได้
สรุปคือ การอุทิศบุญเป็นกุศลเจตนาของผู้ทำบุญในการแผ่การทำบุญนั้นให้ผู้อื่นได้รับทราบและอนุโทนาด้วย เราจึงสามารถอุทิศให้ใครก็ได้ทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่และล่วงลับไปแล้ว สามารถอุทิศให้ใครก็ได้ในจักรวาลนี้ แต่….บุญจะเกิดขึ้นกับผู้ที่เราอุทิศให้หรือไม่ ถ้าเป็นมนุษย์ด้วยกันก็ต้องอาศัยการบอกให้เขารับทราบ เมื่อเขาทราบแล้ว หากเขาอนุโมทนาด้วยบุญก็เกิดขึ้นแก่เขา หากเขาไม่อนุโมทนาก็ไม่เกิดบุญใด ๆ ถ้าเป็นผู้ที่ล่วงลับตายไปแล้ว เราไม่รู้ว่าเขาอยู่ ณ ที่ใด เราจึงต้องตั้งจิตอุทิศบุญไปด้วยกรรมวิธีมีการกรวดน้ำเป็นต้น อาศัยเจตนาเป็นที่ตั้ง เมื่อเขาทราบแล้ว หากเขาอนุโมทนาด้วยบุญก็เกิดขึ้นแก่เขา หากเขาไม่อนุโมทนาก็ไม่เกิดบุญใด ๆ