มีน้องคนหนึ่งส่งข้อความมาถาม “ทำด้วยอะไร ทำบุญอย่างไรเพื่อให้แฟนกลับมา” ถึงแม้ผมจะตอบคำถามนี้ไม่ได้อย่างชัด นอกจากพูดตามความเชื่อ แต่ผมก็ดีใจว่าสิ่งที่เธอถามนั้นเป็นบุญ เธออ้างเอาบุญมาหนุนนำชีวิตคู่ หากได้ลองทำดูแล้ว แฟนจะมาหรือไม่มาก็ยังเป็นบุญแก่ตัวเธอ เพราะสิ่งที่ทำนั้นเป็นบุญ ไม่ใช่ไปให้หมอเสน่ห์สวดนั่นนี่แล้วรับเงินไป แฟนจะมาหรือไม่มาหมอเสน่ห์ก็ไม่คืนเงินให้เพราะถือว่าได้ทำไปแล้ว เขาไม่รองรองผลหรอกครับ
น้องมีความเชื่อเรื่องบุญ ก็ต้องมีความเชื่อเรื่องบาปซึ่งเป็นสิ่งที่คู่กันด้วย เชื่อเรื่องเวรกรรม เชื่อเรื่องคู่ครอง เชื่อเรื่องบุพเพสันนิวาส ฉะนั้น หากทำบุญแล้วไมได้ น้องก็ต้องมีความเชื่อต่อไปว่าบุญของเราและเขาอยู่ได้แค่นี้ ไปกันได้แค่นี้ และต้องเข้าใจในประเด็นนี้ แล้วต้องดำเนินชีวิตต่อไปและต้องไม่ทิ้งบุญเช่นเดิม
ทำบุญด้วยอะไรให้แฟนกลับมา
อันนี้เป็นความเชื่อของผม ผมไม่มีคัมภีร์ใด ๆ มารองรับ และผมก็ไม่ได้บอกว่าพระพุทธเจ้าตรัสว่าให้ทำบุญอย่าง ๆ ถวายทานแบบนี้ แฟนถึงจะกลับมา แต่ยังเป็นส่วนการทำบุญในทางพระพุทธศาสนาอยู่ ส่วนเรื่องเจตนาในการทำบุญนั้นเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล ห้ามกันไม่ได้ครับ
ทำบุญถวายค่าไฟ / ค่าโทรศัพท์ หรือถวายโทรศัพท์ให้แก่วัด
อานิสงส์หวังเชื่อมต่อสัมพันธ์ระหว่างเรากับเขาไม่ให้ขาดสาย ดึงบุญใหม่ บุญเก่าของเขาและเราเข้าหากัน และเราก็ต้องไปหาเขาด้วย ติดต่อเขาได้ ไปให้เขาเห็นหน้า เมื่อเห็นหน้ากันก็พูดคุยกัน ถามถึงความเชื่อเหลือต่อกัน เป็นอย่างไรบ้าง มีอะไรให้ช่วยไหม สิ่งไหนที่เห็นอยู่เฉพาะหน้าแล้วไม่ต้องถาม ช่วยเลย เช่นเห็นเขาหิ้วของอยู่ ก็ขอเข้าไปช่วยหิ้วเลย นี่เป็นการเชื่อมสัมพันธ์ต่อกันและกัน ให้หาตัว รวดเร็วเหมือนสายฟ้า
ถวายสายประคดเอวพระ
ประคดเอว คืดเข็มขัดของพระ ใช้รัดผ้าสบงให้อยู่กับกาย ให้แน่นอยู่ เป็นของคู่กัน มีสบงก็ต้องมีประคดสำหรับรัดไว้ การถวายนี้เราอธิษฐานหวังอานิสงส์เผื่อให้บุญที่ทำมาดึงรัดคนรักให้กลับมาหวนระลึกถึงความดีของเราบ้าง มีมีใจต่อกันบ้าง ในทางปฏิบัติ คุณก็ควรไปหาเขา ให้เครื่องประดับแก่เขา ซื้อสิ่งของให้เขาบ้าง เป็นการผูกใจเขาไว้ด้วยสิ่งของเครื่องใช้ที่เขาชอบ เขาคงเห็นความดีของคุณ และกลับมารักคนเหมือนเดิมอีกครับ
ถวายพรมเช็ดเท้า
ถวายพรมเช็ดเท่าให้แก่วัด ใครได้มาก็เช็ด ใครจะไปก็เช็ดอีก แต่พรมไม่เคยบ่นสักคำ ไม่ได้รังเกียจว่าคนเช็ดเท่าจะเป็นเจ้านายใหญ่โตยศอะไร หรือคนที่เช็ดจะเป็นคนขอทายากไร้ พรมก็ยังเป็นพรมเช็ดเท้าและทำหน้าที่ของตนเองเสมอมา สามีภรรยาคู่ครองก็เหมือนกัน บางทีเราควรทำตนให้เป็นเหมือนพรมเช็ดเท้าของกันและกัน หมายความว่าดูแลซึ่งกันและกันให้ดูทั้งสองฝ่าย ทั้งฝ่ายญาติด้วย ไม่ดูหมิ่นไม่ดูแคลนกัน ว่าเขามาจากฐานะไหน มาพื้นเพเป็นมาอย่างไร การที่แฟนหนีคุณไป อาจจะเป็นไปได้คุณได้ดูถูกเขา ดูหมิ่นญาติของ ฉะนั้น ทำตัวเสียใหม่ รักเขาและรักญาติ ๆ ของเขาตามสมควรด้วยครับ
ถวายแจกัน หรือฉัตรคู่ บูชาพระ
การถวายแจกันหนึ่งคู่พร้อมดอกไม้หอม ถวายฉัตรเงินฉัตรทองหนึ่งคู่ เป็นการบ่งบอกว่าเราขอโทษในสื่งที่ผ่านมา เราขอขมาในสิ่งที่ไม่ดี และเราจะเริ่มต้นสิ่งใหม่ ๆ ที่ดีขึ้น ในทางปฏิบัติหากได้ไปหาเธอและคนรักได้กลับมาอีกครั้ง เราควรยกย่องนับถือคนรักในฐานะสามี/ภรรยา ยกย่องให้เกียรติอยู่เสมอ ว่านี่คือสามีเรา นี่คือภรรยาเรา
ถวายรองเท้าพระ
รองเท้าเป็นของประจำตัวเฉพาะบุคคล เป็นของใช้เฉพาะตน รองเท้าเป็นของใครก็ของผู้นั้น ไม่ใส่รองเท้าของคนอื่น แม้จะเป็นเพื่อนเป็นญาติเป็นพ่อแม่ลูก ต่างก็มีรองเท้าเป็นของตนเองทั้งนั้น การที่พูดถึงรองเท้าเพื่อสื่อให้รู้ว่า คู่ใครก็คู่มัน คู่ของคนนั้น ห้ามยิ่งคู่กัน ห้ามไปกับคู่คนอื่น คู่ไหน ควรอยู่ที่ไหน ก็ควรที่จะอยู่ด้วยกัน ห้ามแตกแยกคู่กัน หากแยกคู่กันแล้ว ก็ไม่มีประโยชน์และกลายเป็นสิ่งไร้ค่าหรือขยะไป คนเราก็เหมือนกัน หญิงชายถูกสร้างให้มาคู่กัน ฉะนั้น ต้องไปแยกจากกัน แม้จะถูกคนอื่นพรากจากไป อีกคนหนึ่งก็ต้องตามหาจนกว่าจะเจอ และกลับมาคู่กันเหมือนเดิม
เรื่องการทำบุญด้วยอะไร ถวายพระอะไร จึงทำให้คนรักกลับมานั้น เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผม ส่วนการทำบุญนั้น ไม่ใช่ความคิดเห็นส่วนตัว เพราะสิ่งที่ทำนั้นสามารถทำให้เกิดบุญขึ้นได้จริง ๆ และบุญก็เป็นของผู้ทำจริง ๆ ส่วนจะหนุนคนรักให้กลับมาหรือนั้น มันขึ้นอยู่กับบุญกรรมที่จะสมพันธ์กันต่อไป