เมื่อเราได้ธรรมเทศนาจากพระสงฆ์หรือคุณเจ้ารูปใดแล้ว เรามีความเลื่อมใสศรัทธาในการแสดงธรรมนั้น มีความยินดีที่จะบริจาคทาน ในขณะที่จิตเลื่อมใสในขณะนั้น ท่านว่ามีอานิสสงส์มาก เพราะเป็นเจตนาที่บริสุทธิ์ เป็นเจตนาที่เกิดขึ้นเฉพาะ เคยได้ยินเรื่องเล่าในอดีตว่า บางคนไม่มีอะไรจะถวายเป็นเครื่องบูชาพระธรรมที่ตนเองได้ฟังก็นำสิ่งที่ติดตัวมาด้วยถวายเป็นเครื่องบูชาพระธรรมเทศนา เป็นต้นว่า ผ้าห่ม ผ้าสะไบ หมากพลู บุหรี่เป็นต้น บางสิ่งไม่ได้ถวายเพื่อให้พระได้ใช้ แต่เป็นถวายหรือการแสดงออกด้วยความเคารพศรัทธาต่อองค์ผู้เทศนา จึงเป็นที่นิยมมาจนถึงทุกวันนี้ว่ หากพระขึ้นบนธรรมมาสก์เพื่อเทศน์ก็จะมีการถวายกัณฑ์เป็นธรรมเนียบปฏิบัติ
สิ่งของสำหรับถวายกัณฑ์เทศน์
- เป็นของใช้ในชีวิตประจำวัน เป็นต้นว่า สบู่ ยาสีฝัน น้ำยาซักผ้า
- ถวายผ้า เช่น ผ้าขาว ผ้าขาวม้า
- เป็นยารักษาโรค ยาสามัญประจำบ้าน
- เป็นผลไม้พื้นบ้าน
- เป็นของใช้ประจำตัว เช่น ไฟฉาย ปากกา นาฬิกาพก
- ของใช้ประจำ หรือประจำกุฏิ เช่น โคมไฟ นาฬิกา พัดลม โต๊ะ เตียง หมอน มุ้ง
- เป็นบริขาร บาตร เข็ม ผ้าไตร
- ปัจจัยสำหรับค่าเดินทาง หรือแล้วท่านจะนำไปใช้ตามสมควร
โอกาสในการถวายกัณฑ์เทศน์
เราสามารถถวายกัณฑ์เทศน์ในโอกาสต่าง ๆ ดังนี้
- ในงานเทศน์มหาชาติ
- ในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
- ในกิจกรรมที่มีพระขึ้นแสดงธรรม
- ในกิจกรรมสำคัญทางพระพุทธศาสนา เช่น วันวิสาขาบูชา วันอาสาฬหบูชา
- ในกิจกรรมวันสำคัญทางประเพณี เช่น วันสงกรานต์ วันขึ้นปีไหม
- ในงานทำบุญบ้าน ทำบุญบริษัท ที่เรานิมนต์พระมาเทศน์
วิธีถวายกัณฑ์เทศน์
ปกติการถวายกัณฑ์เทศน์นั้นจะถวายแก่พระผู้เทศก์บนธรรมาสน์ เมื่อท่านรับแล้วก็จะให้พรแก่เจ้าภาพผู้ถวาย หรือมิเช่นนั้น ท่านก็จะลงมาจากธรรมาสน์เสียก่อนแล้วให้เจ้าภาพทำการถวายกัณฑ์เทศน์ แต่นั้นท่านก็จะให้พร เป็นจบพิธี
อานิสงส์ของการถวายกัณฑ์เทศน์
สำหรับอานิสงส์ของการถวายกัณฑ์เทศน์นั้น ผมเชื่อว่าได้รับอานิสงส์เร็ว ได้บุญมาก เพราะเป็นเจตนาที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้าตามความเลื่อมใส แต่ก็ต้องเหตุว่า
- ก่อนที่จะถวายก็ต้องมีความศรัทธาในธรรมเทศนาอย่างแรงกล้า
- มีเจตนาที่จะถวายจริง ๆ มีใจที่จะสละจริง ๆ ไม่เสียดาย ไม่ลังเล
- นึกขึ้นทีไร ปลื้มใจทุกครา ไม่ลังเลยสังสัย ไม่เสียดาย คิดว่าตนเองได้ทำบุญไว้ในพระพุทธศาสนาดีแล้ว