
เบญจเครื่องราง 5 เครื่องรางสายเมตตา ที่ผมพกพาติดตัว
มีผู้สอบถามเครื่องรางสายเมตตามามาก เกือบทุกวัน โดยมากจะขอคำแนะนำวิธีใช้เครื่องรางต่าง ๆ คาถากำกับเครื่องสายเมตตา เครื่องรางเมตตามหานิยมไหนดีที่สุด ผมใช้เครื่องรางเมตตาอะไรบ้าง
โพสต์นี้ผมจะขอเปิดเผย เบญจเครื่องราง หรือ เครื่องราง 5 ประเภทสายเมตตาที่ผมพกพาติดตัว ผมขอใช้คำว่า 5 ประเภท ไม่ได้เจาะจงว่าต้องเป็นตัวนี้ ๆ แต่อยู่ใน 5 ประเภทนี้ที่ผมมี
1.สีผึ้ง
ผมเคยเขียนมาหลายบทความแล้วว่า เครื่องรางสายเมตตานั้น ผมยกให้สีผึ้งเป็นเครื่องรางอันดับหนึ่ง เพราะเป็นเครื่องรางที่มีมาแต่โบราณที่เกจิอาจารย์ทั้งหลายเกือบทุกสำนักสร้างมอบให้ลูกศิษย์ไว้ใช้ และถือว่าเป็นเครื่องรางที่เป็นอมตะ ไม่เสื่อม แม้เสื่อมก็มีคาถาเสกให้ขลังได้เหมือนเดิม เป็นเครื่องรางที่ใช้ง่ายได้ทุกโอกาส ได้ทั้งพกพาและสัมผัสเครื่องรางอย่างแนบชิดด้วยการอาราธนาขึ้นสีปากทาหน้าทาตัว
2.ลูกอม
ลูกอมนี้ ผมขอระบุชื่อเลย ได้แก่ลูกอมหลวงพ่อสงวน ผมใช้มาตลอด และทุกวันนี้ก็ใช้อยู่ เป็นลูกอมที่ท่านสร้างขึ้นมาเพื่อหวังผลทางด้านเมตตามหานิยมโดยเฉพาะ ส่วนลูกอมพระเกจิอาจารย์ท่านอื่น มีอานุภาพครอบจักรวาลตามแต่อธิษฐาน แต่สำหรับด้านเมตตามหานิยม ผมยกให้ลูกอมหลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ
3.ตะกรุด
ตะกรุดก็ถือว่าเป็นเครื่องที่เก่าแก่มีมาแต่สมัยโบราณ ที่เกจิอาจารย์มักจารมอบให้ศิษย์นำไปใช้ ซึ่งตะกรุดแต่ละดอกมีพุทธคุณที่แตกต่างกันไป แต่ตะกรุดที่ผมกล่าวถึงนี้คือตะกรุดสายเมตตาทั้งหลาย ซึ่งมีเกจิอาจารย์มากมายที่ทำได้ขลัง ท่านสามารถเลือกบูชาตามศรัทธาของท่านเอง
4.เครื่องรางรูปสัตว์ ปลัดขิก เมตตามหานิยม
เครื่องรางประเภทนี้ เป็นเครื่องรางพิเศษที่สร้างให้ขลังได้เฉพาะพระเกจิบางท่านเท่านั้น เช่น แพะหลวงพ่ออ่ำ นกสาริกาหลวงปู่ทิม นกสาริกาหลวงพ่อสนิท จิ้งจกหลวงปู่หน่าย รวมทั้งเครื่องรางปลัดขิกด้วย
5.คาถา
เครื่องรางสายเมตตาข้อสุดท้ายที่ขาดไม่ได้เช่นกัน นั่นคือตัวคาถา ซึ่งผมให้ความสำคัญอยู่ไม่น้อย คาถาเป็นตัวเชื่อม เป็นคำเชื่อม เป็นวิธีเชื่อมจิตของเราให้สัมพันธ์กับเครื่องรางนั้น ๆ บางท่านอาจจะไม่สวดคาถา แต่ใช้วิธีระลึกถึงครูอาจารย์ หรือเครื่องรางนั้น ๆ ก็ถือว่าใช้ได้ในระดับหนึ่ง แต่บางท่านไม่รู้วิธีการระลึกถึงครูอาจารย์ ไม่เคยเห็นหน้า ไม่รู้จะระลึกถึงอย่างไร จึงต้องใช้คาถาเป็นตัวเชื่อมจิตให้เข้ากับเครื่องราง ให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับเครื่องรางนั้น ๆ