11 ตุลาคม 2562 จากกรณีที่มีการขุดพบแร่ที่บริเวณก่อสร้างถนน 4 เลน สายกุฉินารายณ์- อำเภอหนองสูง จังหวัดมุกดาหาร มีสีเหลืองคล้ายทองคำนั้น นักวิชาการธรณีวิทยาชี้ชัดแล้วว่าคือ “ไพไรต์” เป็นที่รับรู้กันทั่วโลกว่ามันเป็น “Fool’s Gold” ทองคนโง่ แต่ไทยเราเรียกว่า “เพชรหน้าทั่ง”
ไพไรต์ (Pyrite)
Pyrite มาจากภาษากรีก (pyr) ซึ่งแปลว่า ไฟ เมื่อนำมันไปตีกระทบกับเหล็กกล้าก็จะเกิดประกายไฟ จึงได้เรียกอย่างนั้น สีของไพไรต์นี้บางครั้งคล้ายทองคำมาก จึงมีคนหลงผิดคิดว่าเป็นทองคำบ่อย ๆ มันจึงถูกเรียกอีกอย่างว่า ทองคนโง่ (Fool’s Gold)
สำหรับในประเทศไทยแล้ว พบแร่ไพไรต์ได้ทั่วไปมีเกือบทุกจังหวัดที่มีหินหรือมีภูเขาหิน ถือว่าเป็นแร่ธรรมดามาก ๆ ชนิดหนึ่ง ส่วนในต่างประเทศนั้นพบ ไพไรต์ มากที่ประเทศอังกฤษ เยอรมัน ฝรั่งเศส สหรัฐอเมริกา อิตาลี และ แถวสเปน
ประโยชน์ของแร่ Pyrite นั้น หากมีผลึกและสีสวย ๆ แล้วสามารถนำมาขายเป็นตัวอย่างแร่ธรรมชาติ หรือของที่ระลึกได้ หรือเป็นรัตนชาติที่ราคาถูกได้ ส่วนคนที่ซื้อไปก็เอาไปทำอะไรไม่ได้นอกจากไว้ดูต่างหน้า ไว้เป็นเครื่องประดับตู้โชว์ หรือให้คนอื่นไปอีกทีหนึ่ง
“Fool’s Gold” ตำนานทองคนโง่
เรื่องนี้เกิดขึ้นในศตวรรษที่ 15 เมื่อเซอร์มาร์ติน โฟรบิสเชอร์ นักผจญภัยชาวอังกฤษได้ไปพบกับก้อนแร่ชนิดหนึ่งมีสีเหลืองอร่ามมากมายบนเกาะแห่งหนึ่งในประเทศแคนาดา จากความสวยงามของแร่ชนิดนี้ เขาจึงคิดว่าโชคได้เข้าข้างเขาแล้วจึงได้ขนพวกมันกลับมาที่อังกฤษด้วยคิดว่าเป็นทองคำ แล้วจึงนำไปให้พ่อค้าทองพิสูจน์ดู แต่ปรากฏว่าเจ้าแร่นี้ไม่ใช่ทองคำ มันคือ “ไพไรต์” แต่ถึงนั้นพวกพ่อค้าเหล่านั้นก็มีความสนใจในวัตถุแร่จากต่างแดนและแอบหวังว่าน่าจะมีทองอยู่ จึงได้ให้เซอร์มาร์ตินกลับไปที่เกาะนั้นอีกรอบเพื่อขุดมันมาอีก เซอร์มาร์ติน ก็จัดให้ไปคราวนี้ขนกลับมาอีกราว 200 ตัน พ่อค้าเหล่ารับมาตรวจสอบก็พบว่ายังไม่ใช่ทอง แต่ยังแอบหวังอีกว่ามันน่าจะมีทองอยู่ใกล้ ๆ มัน จึงให้เขากลับไปขนมาอีก นี่แหล่ะเขาจึงเรียกว่าความหวังของคนเราละได้ยากจริง ๆ คราวนี้เซอร์มาร์ตินจัดชุดใหญ่ใหญ่ขนใส่ลำเรือมาเต็ม ๆ 1,100 ตัน พ่อค้าดีใจใหญ่ว่าคราวนี้ต้องใช่แน่ ๆ แต่ผลก็ออกมาเหมือนเดิมว่ามันไม่ใช่ทองคำ จำต้องขายหน้า และรับชะตากรรม เป็นที่ขบขันของชาวบ้านและผู้รู้ข่าว จึงป่าวประกาศกันว่า นี่ล่ะหนา “ทองคนโง่” ตั้งแต่บัดนั้นมา
เพชรหน้าทั่ง
สำหรับ “ไพไรต์” หรือ “ทองคนโง่” นั้น คนไทยแต่โบราณมาเรียกว่า “เพชรหน้าทั่ง” และกลายเป็นของขลังไป อะไร ๆ ที่แปลก ๆ ในเมืองไทยนั้นกลายเป็นของขลังไปหมด และมักจะมีเรื่องเล่าหรือตำนานที่แตะต้องไม่ได้ บ้างก็ว่าเป็นเพชรของเมืองลับแล เป็นเพชรของคนธรรพ์ ที่คนไทยเรียกว่า เพชร อาจจะเป็นเพราะว่าหินชนิดนี้มีประกายแวววาวสวยงาม และเชื่อว่าเป็น เพชรมหามงคล มีพุทธคุณ 108 ประการ ยกย่องกันว่าน้อง ๆ เหล็กไหล อันที่จริงแม้แต่ตัวเหล็กเองก็ไม่รู้ว่ามีใครเคยเห็นไหม หรือพอเห็นแล้วสรรพคุณกลับไม่เป็นดังว่าก็มี เอาไว้ผมเขียนบทความเกี่ยวกับเพชรหน้าทั่งดีกว่า ผมก็จะได้ยกสรรพคุณเพชรหน้าทั่งให้ฟัง
วิธีทดสอบว่าทองหรือ ไพไรต์
ลักษณะของเจ้าไพไรต์ นี้จะเป็นลักษณะสี่เหลี่ยม หกเหลี่ยม พูดง่าย ๆ เป็นเหลี่ยมนั่นแหล่ะ เล็กบ้าง ใหญ่บ้างจับกัน โดยปกติก็จะเป็นสีวาวเหมือนเงินยวง แต่ก็มีบางแห่งที่มีสีเหลืองคล้ายทองคำ จนเกิดความเข้าใจผิดคิดว่าเป็นทองคำ วิธีทำสอบว่าเป็นไพไรต์หรือทองคำนั้น ง่าย ๆ ให้นำแร่นี้มาขีดกับกระเบื้องหรือหินก็ได้ ถ้าเป็นไพไรต์ก็จะกลายเป็นสีดำ แต่ถ้าเป็นทองคำก็จะเป็นสีทองคำอยู่เหมือนเดิมครับ