เรื่องวิบากกรรม การให้ผลของกรรมนั้น พระพุทธเจ้าตรัสว่าเป็นอจินไตย คือปุถชนคนธรรมดาหรือแม้แต่บุคคลผู้บรรลุธรรมแล้วก็รู้ได้ยากว่า หรืออย่างมากก็รู้แต่อดีตที่ผ่านมา รู้แต่เรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว แต่ไม่สามารถชี้ชัดฟันธงเข้าไปได้ว่าเราทำกรรมแบบนี้ ๆ แล้วจะได้ผลแบบไหน เรารู้แต่ว่าทำดีได้ความดี ทำชั่วได้ความชั่ว หรือทำดีส่งผลดี ทำชั่วผลส่งชั่ว แต่ในอนาคตอันไกลถึงชาติหน้าเราก็รู้แต่ว่ากรรมนั้นจะส่งดีหรือชั่ว แต่ไม่รู้ว่าจะส่งแบบไหน เมื่อไหร่ และทำไมต้องส่งผลอย่างนี้ เวลานี้ เรื่องของกรรม วิบากกรรมเข้าใจยากครับ จึงมีคำพูดล้อเลียนเรื่องของกรรมมากมาย เช่น ทำดีได้ดีมีที่ไหน ทำชั่วได้ดีมีถมไป, ค่าของคนอยู่ที่คนของใคร, (ไม่ใช่อยู่ที่การกระทำ)
สำหรับเรื่องเพราะเหตุใด คุณจึงได้รับผลกรรมเช่นนี้ก็เหมือนกัน ไม่ใช่กฎตายตัวว่าคุณต้องทำสิ่งนั้นมาก่อน คุณอาจจะทำกรรมอย่างอื่นก็ได้ แต่มันก็ส่งผลแบบนี้ได้เช่นกัน เรื่องกรรมเพราะเหตุใดนี้เป็นเรื่องส่งต่อ ๆ กันมาจาก Mail Forward จึงไม่ทราบว่าใครเป็นคนเขียนไว้ และนำข้อมูลมาจาไหน แต่ใช้อ่านเพื่อเป็นแนวทางแห่งการละเว้นกรรมชั่ว ทำความดีได้ครับ
- เหตุใดคุณจึงมีเสื้อผ้าแพรพรรณอันงดงามสวมใส่มากมาย
เพราะชาติก่อนคุณเคยทำบุญถวายจีวรแด่พระสงฆ์ (ข้อนี้เป็นไปได้ หรือคุณอาจจะเคยให้ทานมาก่อนอย่างมากมาย หรือให้ทานแก่บุคคลที่ควรให้ ด้วยการให้ทานนั้น ส่งผลให้คุณเกิดมามีทรัพย์มาก เมื่อมีทรัพย์มากคุณจะเอาเสื้อผ้าแพรพรรณงดงามแค่ไหนล่ะ) - เหตุใดชาตินี้คุณจึงมีอาหารดี ๆ รับประทานอยู่เสมอ
เพราะชาติก่อนคุณเคยทำทานอาหารแก่คนยากจน (เป็นไปได้ อานิสงส์ทั่วไป) - เหตุใดชาตินี้คุณจึงอดอยากยากจน ไม่มีเสื้อผ้าดีดีสวมใส่
เพราะชาติก่อนคุณตระหนี่ขี้เหนียวไม่ยอมทำทานคนจน (เพราะไม่เคยให้ทาน ไม่ทำเหตุไว้) - เหตุใดชาตินี้คุณจึงมีบ้านเรือนใหญ่โต
เพราะชาติก่อนคุณเคยถวายข้าวสารเข้าวัด (สร้างวัด สร้างศาลา สร้างสาธารณประโยชน์ก็ได้จะได้อานิสงส์เช่นกัน) - เหตุใดชาตินี้คุณจึงมีความเจริญรุ่งเรืองและมีความสุขมาก
เพราะชาติก่อนคุณเคยถวายเงินสร้างวัด (ถวายเงินเข้าวัด สร้างวัด บูรณะปฏิสังขรณ์วัด สร้าง หรือ ซ่อมแซมสาธารณประโยชน์) - เหตุใดชาตินี้คุณจึงเป็นคนสวย และรูปงาม
เพราะชาติก่อนคุณเคยถวายดอกไม้สดบูชาพระด้วยความเคารพ (เป็นไปได้เช่นกัน อีกประการรักษาศีล รักษามารยาท ความประพฤติดีงาม ทำให้คุณสวยได้ทั้งชาตินี้และชาติหน้า) - เหตุใดชาตินี้คุณจึงเป็นคนฉลาดปราดเปรื่องมีปัญญาดี
เพราะชาติก่อนคุณเคยเป็นพุทธมามกะและทานมังสวิรัติ (เป็นไปได้ อีกประการ การคบหาสมาคมกับนักปราชญ์ การเป็นผู้ฟังมาก เรียนมาก ถามมาก จดมาก อ่านมาก คิดไตร่ตรองมาก ไม่ประมาท ก็ทำให้คุณฉลาดได้ตั้งแต่ชาตินี้เป็นต้นไป) - เหตุใดชาตินี้คุณจึงเป็นที่รักของทุก ๆ คนและมีเพื่อนมากมาย
เพราะชาติก่อนคุณเคยสร้างมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีต่อทุกคน (เห็นด้วยครับ การให้แบ่งปัน การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน การประพฤติตนสม่ำเสมอ ส่งผลให้ทุกคนรักคุณได้) - เหตุใดชาตินี้คุณจึงมีพ่อแม่อยู่พร้อมหน้า
เพราะชาติก่อนคุณเคารพและให้ความช่วยเหลือ ไม่ดูแคลนคนไร้ญาติ (เป็นไปได้ครับ) - เหตุใดชาตินี้คุณจึงเป็นเด็กกำพร้า
เพราะชาติก่อนคุณเคยยิงนก ตกปลา และพรากสัตว์ (เป็นไปได้เช่นกัน การฆ่าสัตว์ทำให้คุณอายุสั้นได้อีกด้วย) - เหตุใดชาตินี้คุณจึงมีอายุยืน มีร่างกายที่แข็งแรง
เพราะชาติก่อนคุณเคยปล่อยนก ปล่อยปลา ไม่เบียดเบียนสิ่งมีชีวิต (ไม่ฆ่าสัตว์ รักษาศีลข้อที่หนึ่งได้ดี) - เหตุใดชาตินี้คุณจึงอายุสั้น
เพราะชาติก่อนคุณเคยฆ่าสัตว์ ทำลายชีวิตสัตว์ (ฆ่าสัตว์ เบียดเบียดสัตว์ ทำให้อายุสั้น) - เหตุใดชาตินี้คุณจึงเป็นคนรับใช้
เพราะชาติก่อนคุณเคยดูถูกเหยียดหยามคนจน (เป็นไปได้ ดูถูกคนอื่น) - เหตุใดชาตินี้คุณจึงมีดวงตาสดใส
เพราะชาติก่อนคุณเคยเติมน้ำมันตะเกียงและจุดไฟบูชาพระ (เป็นไปได้ หากทำด้วยความเคารพศรัทธา มุ่งบูชาเป็นพุทธคุณ) - เหตุใดชาตินี้คุณจึงโง่ปัญญญญาอ่อนและหูหนวก
เพราะชาติก่อนคุณเคยด่าว่าและหยาบคายต่อหน้าพ่อแม่ (แม้ลับหลังก็ไม่ควรด่า) - เหตุใดชาตินี้คุณจึงต้องตายเพราะยาพิษ
เพราะชาติก่อนคุณเจตนาวางยาในต้นน้ำลำธารให้เป็นพิษ (เป็นไปได้ เรื่องของกรรมละเอียดอ่อน) - เหตุใดชาตินี้คุณจึงแขวนคอตาย
เพราะชาติก่อนคุณใช้ตะข่ายล่าและดักสัตว์ (กรรมตะข่ายล่าและดักสัตว์คงไม่ส่งผลให้ทุกคนต้องแขวนคอตายมั้ง อาจจะให้ผลอย่างอื่นก็ได้ เช่น เกิดในอบายภูมิ มีอายุสั้น ถูกคนอื่นรังแก ผิวพรรณไม่ดี มีโรคเบียดเบียน) - ถ้าชาตินี้คุณฆ่าเขา
ชาติหน้าเขาก็จะฆ่าคุณ และจะฆ่ากันไป-มาไม่มีสิ้นสุด (ไม่แน่นอนเสมอไปนะครับ หากมีกรรมดีอื่นมาตัดไป อย่างองคุลิมาล ฆ่าคนมามาก ไม่ตกนรก ไม่ไปสู่อบาย เพราะมีอรหันตมรรคมาตัดเสีย) - ถ้าชาตินี้คุณบอกเล่ากฏแห่งกรรม
ชาติหน้าคุณจะเป็นที่เคารพนับถือมากมาย (ชาตินี้ คุณก็อาจจะได้รับความเคารพนับถือเช่นกัน ไม่ต้องรอชาติหน้า)