ทำไมต้องสวดมนต์ข้ามปี คำถามนี้ มักจะเกิดขึ้นกับคนที่ไม่ค่อยสวดมนต์ (ผมเองก็ยอมรับว่าไม่ค่อยสวด แต่ก็สวดอยู่บ้าง และก็ไม่ได้ตั้งคำถามเชิงต่อว่าคนที่สวด) คำถามนี้มีในเว็บไซต์ดัง ๆ แต่ผมไม่มีโอกาสได้ไปพูดคุยสนทนา เพราะไม่ได้เป็นสมาชิกของเว็บไซต์นั้น ๆ แต่นำมาตอบตามความเข้าใจของผม ณ เว็บไซต์ของผมเองครับ
ทำไมต้องสวดมนต์ข้ามปี
ทำไมต้องสวดมนต์ข้ามปี ? คำถามนี้มีคำว่าต้อง ซึ่งมีความหมายทำให้เข้าใจว่าต้องทำ ไม่ทำไม่ได้ อันที่จริงไม่สวดก็ไม่บาป ถ้าคุณไม่ไปทำบาปอย่างอื่น แต่ประเด็นคือคุณจะคุมกายวาจาใจของคุณได้อย่างไรว่าคุณจะไม่ไปทำความชั่วอย่างอื่น คุณจะมั่นใจได้อย่างไรหากคุณไม่สวดมนต์ในเวลานั้น เพื่อนคุณอาจจะชวนคุณไปเล่นการพนัน ดื่มสุรา เคล้านารีก็ได้ คุณก็รู้ว่าสิ่งเหล่านี้มันสร้างความฉิบหายมามากแล้ว ไม่ต้องอธิบายหรือมีใครมาบัญญัติว่าดีหรือชั่ว คุณรู้แก่ใจอยู่แล้ว
ทำไมต้องสวดมนต์ข้ามปี สวดทุกวันไม่ดีกว่าหรือ ? แบบนี้ก็คิดแคบเกินไป แล้วใครห้ามคุณไม่ให้สวดทุกวันละครับ ปกติเราก็สวดกันทุกวันในบ้านของตนเองอยู่แล้ว แต่เราอาจจะจัดกิจกรรมสวดมนต์ด้วยกันกับผู้ที่มีอุดมการณ์เดียวกันปีละครั้งสองครั้งไม่ได้หรือ เหมือนเรากินข้าว ปกติเราก็กินทุกวันอยู่แล้วในบ้านของตนเอง เราจะรวมตัวกินข้าวกับเพื่อน ๆ ญาติ ๆ หรือเพื่อนร่วมงานกันบ้างไม่ได้หรือ หรือคุณจะกินแต่ในบ้านคุณทั้งชาติ (แต่ก็ไม่ผิดหรอก อิ่มเหมือนกัน)
ทำไมต้องสวดมนต์ข้ามปี ในเมื่อวันส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ไม่ใช่วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ? ไม่ใช่วันพระ ไม่ใช่วันขึ้น ๘ ค่ำ หรือ ๑๕ ค่ำ ไม่ใช่วันมาฆบูชาหรือวันวิสาขบูชา ผมว่าคนตั้งคำถามนี้ก็ใจแคบอีกนั่นแหล่ะ จะทำความดีทำไมต้องมีข้อแม้ อย่างที่กล่าวมา สวดมนต์สวดได้ทุกวัน วันคริสต์มาส วันวาเลนไทน์ ก็สวดได้ ทำบุญตักบาตรได้ มันผิดตรงไหน การที่จะกำหนดเอาวันส่งท้ายปีเก่า-ต้อนรับปีใหม่เป็นวันสวดมนต์แห่งชาติมันผิดตรงไหน ในเมื่อสิ่งที่ทำมันเป็นความดีอย่างหนึ่ง
ทำไมต้องสวดมนต์ข้ามปี สวดที่บ้านไม่ได้หรือ ? ถ้าคุณถามว่าสวดมนต์ข้ามปีที่บ้านได้ไหม ? นั่นแสดงว่าการสวดมนต์นั้นดี เพียงแต่คุณมีข้อแม้ในสถานที่สวด ฉะนั้น คุณไม่ควรตำหนิการไปสวดมนต์ที่อื่นของบุคคลอื่น หรือกลุ่มอื่น ๆ ที่จัดกลุ่มสวดมนต์เพราะนั่นเป็นความประสงค์ของพวกเขาเอง การสวดมนต์นั้นจะสวดที่บ้าน หรือในสถานที่ที่เขาจัดสวดมนต์ข้ามปีก็ดีทั้งนั้น เป็นการสวดมนต์เหมือนกัน ขอให้คุณสวดจริงเถอะ สวดไหมล่ะ
สวดมนต์ข้ามปีทำไม ถูกพระหลอกเปล่า ? คำถามนี้ คนถามต้องอธิบาย ไม่ใช่พูดออกมาลอย ๆ โดยอาศัยอคติ
- ถูกพระหลอกยังไง ?
- คุณมาแล้ว คุณไม่ได้สวดมนต์หรือ ? ถึงบอกว่าถูกพระหลอกให้มา
- สวดมนต์แล้วมันไม่ดี เป็นบาปหรือ ?
- พระบอกว่าสวดมนต์แล้วคุณจะได้โทรศัพท์เครื่องใหม่ ได้งานใหม่ ได้สาวสวย ได้กิ๊กเพิ่ม เป็นชู้กับใครแล้วไม่ผิด พระหลอกแบบนี้หรือ ?
- พระหลอกให้คุณไปให้บริจาคทานอย่างนั้นหรือ หลอกยังไง ในเมื่อเงินอยู่ในกระเป๋าคุณ และการบริจาคทานเป็นความดีไหม เป็นหนึ่งในคำสอน ทาน ศีล ภาวนาไหม การบริจาคทานเป็นการปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นการปฏิบัติบูชาต่อพระพุทธเจ้าด้วยซ้ำ ถ้าคุณตระหนี่ ก็ไม่ต้องบริจาคสิ
ทำไมต้องสวดมนต์ข้ามปี มันเป็นแค่กุศโลบายในการทำบุญเท่านั้นหรือ ? อันที่จริงผมไม่เข้าใจคำว่ากุศโลบายในคำถามนี้ ประเด็นที่คุณควรใช้ปัญญาในการพิจารณา การสวดมนต์เป็นบุญหรือเป็นบาป ? กุศลเพิ่มขึ้นหรือลดลง การสวดมนต์ขัดขวางอกุศลได้หรือมือ จะหลอกให้ทำหรือไม่ ประเด็นคือสิ่งที่ทำนั้นมันคืออะไร ดีหรือไม่ต่างหาก
สวดมนต์ข้ามปี ดีอย่างไร
สำหรับอานิสงส์ของการสวดมนต์นั้น เว็บไซต์อื่น ๆ ได้เขียนบรรยายไว้มากแล้วครับ เห็นเว็บไซต์หนึ่งเขียนไว้ ผมขอสรุปมาไว้อีกที
- ดีต่อสุขภาพกายใจ (กายดี วาจาดี ใจดี)
- ขจัดความขี้เกียจ ความหดหู่ใจ
- ทำให้นอนหลับสบาย ไม่ฝันร้าย
- จิตเป็นสมาธิดี
- ใช้จิตพิจารณาเป็นหนทางให้เกิดปัญญาได้
- เป็นสิริมงคลแก่ตนเองและคนรอบข้าง
- เหมือนได้เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า
นี่เป็นการแสดงอานิสงส์แบบพื้น ๆ ทั่วไป ที่เราสามารถสัมผัสได้ด้วยตนเองในชาตินี้ หากกายดี วาจาดี ใจดี ย่อมเป็นอานิสงส์ส่งไปถึงชาติหน้า
บทความแนะนำ
รู้หรือยัง 15 ข้อดีของการสวดมนต์ข้ามปี