
การถวายข้าวพระพุทธคือการแต่งสำรับข้าว อาหาร ขนมหวาน ผลไม้ และ น้ำ ที่ปราณีตที่สุด แล้วนำไปบูชาไว้หน้าโต๊ะหมู่บูชาอันเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูป ย้ำว่าการถวายข้าวพระพุทธไม่ใช่ถวายเพื่อให้พระองค์เสวย พระองค์ไม่ต้องการใช้อาหารนี้แล้ว แต่เป็นการบูชาในสิ่งที่เรามีอยู่ ในสิ่งที่เราคิดว่าดี ในสิ่งที่เราคิดว่าปราณีต เพื่อเป็นเครื่องเชื่อมโยงให้เราอยู่ในกระแสแห่งพุทธานุสสติ เหมือนการจุดธูปเทียน ถวายดอกไม้ของหอม ถวายผ้าห่มพระพุทธรูป การเปลี่ยนเครื่องทรงพระพุทธรูปนั่นแหล่ะครับ เราไม่ได้จุดธูปเทียนให้ท่านสูดดมแต่อย่างใด แต่เป็นการบูชาด้วยสิ่งที่เรามีอยู่ ตามฐานะของเรา มีฐานหน่อยก็ใช้ดอกบัวทองคำ ฝังเพชรเป็นเครื่องบูชา ใช้เครื่องทรงทองคำฝังเพชรเป็นเครื่องบูชา บางทีถวายแหวน มงกุฎเครื่องทรงแบบกษัตริย์ หรือเครื่องทรงตามฤดูกาลเป็นพุทธบูชา ความศรัทธาของเรา เป็นเครื่องสักการะบูชา เป็นเครื่องน้อมระลึกถึงพระพุทธคุณเท่านั้น การถวายข้าวพระพุทธก็เช่น หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าถวายให้พระพุทธเจ้าเสวย แล้วพูดต่อต้านดูหมิ่นคนทำการบูชาก็มี
ตำนานการถวายข้าวพระพุทธ
ตำนาน หรือประวัติความเป็นมาของการถวายเข้าพระพุทธนั้นมีอยู่หลายนัยเป็นต้นว่า
- ถือคติในสมัยพุทธกาลที่ว่า “พุทฺธปฺปมุโข ภิกฺขุสงฺโฆ : พระภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประธาน” จะนิมนต์พระเจริญพระพุทธมนต์ก็ต้องตั้งพระพุทธรูปเป็นประธาน นิมนต์พระฉันภัตตาหารก็ตั้งพระพุทธรูปเป็นประธาน จึงต้องจัดสำรับภัตตาหารถวายพระพุทธด้วย เปรียบเสมือนถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประธานนั่นเอง
- พระอานนท์นั้นมีความเคารพในพระพุทธเจ้ามาก แม้พระพุทธเจ้าจะเสด็จปรินิพพานแล้ว ก็ยังปูลาดอาสนะ ตั้งน้ำใช้น้ำฉันไว้เช่นเดิม ทำทุกวัน ไม่ได้ตั้งเพื่อให้พระพุทธเจ้าเสวย แต่ทำเป็นพุทธบูชา เป็นพุทธานุสสติ แสดงความกตัญญูกตเวที พุทธศาสนิกชนคนรุ่นหลัง เห็นตัวอย่างนี้ จึงได้ใช้พระอานนทเถระเป็นแบบอย่างจนมาจนถึงทุกวันนี้
ตำนานการถวายข้าวพระพุทธจะด้วยเหตุใดก็ตาม ผู้ทำได้ทำด้วยจิตอันเป็นกุศล ทำเป็นพุทธบูชา ไม่ได้ถวายเพื่อให้พระองค์เสวยแต่อย่างไร
วิธีถวายข้าวพระพุทธ
- จัดอาหารที่ปราณีตที่สุด เหมือนของที่ถวายพระสงฆ์ฉันนั่นแหล่ะ หรือจะปราณีตกว่าดีกว่าก็ได้ ไม่ควรใส่ใบตองหรือภาชนะเล็ก ๆ เหมือนเซ่นไหว้ผี หรือมองดูแล้วไม่เจริญตา ภาชนะไม่สะอาด ดูไม่เรียบร้อย ไม่สวยงาม ถ้าไม่สามารถทำให้ปราณีตหรือให้ดีได้ ก็ไม่ต้องทำไม่ต้องจัดถวาย
- ปูผ้าขาวบนพื้นหรือบนโต๊ะ (ถ้าเป็นพื้นยกสูงได้ก็ดี)
- นำถาดหรือสำรับข้าวพระพุทธวางบนผ้าข้าว
- จุดธูป 3 ดอก เทียน 2 เล่ม หรือจะจุดแค่เทียน หรือแค่ธูป หรือไม่จุดอะไรก็ไม่ผิดไม่บาป อย่างที่กล่าว เป็นการบูชา
- กล่าวคำถวายข้าวพระพุทธ อิมัง สูปะพยัญชะนะสัมปันนัง สาลีนัง โภชะนัง อุทะกัง วะรัง พุทธัสสะ ปูเชมิ (ข้าพเจ้าขอบูชาด้วยโภชนะข้าวสาลี พร้อมด้วยแกงกับและน้ำอันประเสริฐนี้แด่พระพุทธเจ้า)
- เมื่อถึงเวลาอันสมควร (ถ้าในพิธีนิมนต์พระมาฉันที่บ้านก็เมื่อพระสงฆ์ฉันเสร็จแล้ว) ให้กล่าวคำลาข้าวพระพุทธ ด้วยคำว่า เสสัง มังคะลัง ยาจามิ. ข้าพระพุทธเจ้าทูลขอสิ่งที่เหลืออันเป็นมงคล
การถวายข้าวพระพุทธนี้ทำได้ทุกวันที่บ้าน หรือในเวลานิมนต์พระมาฉันภัตตาหารที่บ้าน บ้าน บางคนนิยมถวายแต่ผลไม้และน้ำเป็นพุทธบูชาเพื่อสะดวกแก่การเก็บรักษา ดูก็เจริญตาเจริญใจเป็นพุทธนุสสติ หากถวายเฉพาะผลไม้และน้ำ จะใช้คำถวายว่า อิมัง ผะลัง สัมปันนัง อุทะกัง วะรัง พุทธัสสะ ปูเชมิ ก็ได้ อยู่ที่เจตนาเป็นพุทธบูชา
ข้อควรระวังในการถวายข้าวพระพุทธ
- ตามที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น การถวายข้าวพระพุทธ ไม่ใช่ถวายเพื่อให้พระองค์เสวย อย่าไปเทียบกับการเซ่นไหว้ผี เลี้ยงผี แต่เป็นการบูชา เหมือนเราจุดธูปเทียนบูชา ไม่ใช่จุดเพื่อให้พระพุทธดมควันไฟ แต่เราจุดเพื่อบูชา เป็นสื่อให้เราระลึกถึงพระพุทธคุณ
- ภาชนะต้องสะอาด ดูสวยงาม เจริญตา เจริญใจ
- อาหารต้องปราณีต สะอาด
- หลีกเลี่ยงอาหารคาวหรือหวานที่เป็นสื่อล่อแมลงวันมามากเกินไป หากแมลงวันมารบกวนในพิธีมากเกินไปก็ดูไม่งามตาม อาจจะไม่เป็นมงคลแก่งานได้
- ไม่ควรถวายอาหารที่มีกลิ่นแรง เพราะกลิ่นอาหารจะรบกวนผู้ถวายหรือผู้อยู่อาศัย อาจจะทำให้เกิดความหงุดหงิด จิตไม่แจ่มใสได้
- ไม่ควรใส่ภาชนะเล็กจนเกินไปหรือดูไม่งามตา ภาชนะดูแล้วต้องให้แตกต่างจากการเลี้ยงผี หรือเซ่นไหว้ผี
- ไม่ควรให้สัตว์อื่น เป็นต้นว่า แมว หนู มารบกวนอาหารที่ถวายข้าวพระพุทธ ไม่ใช่สถานที่ให้อาหารแมว หรือหนู แม้แต่คนเวลานำมากินก็ยังต้องขอลาข้าวพระพุทธก่อน
- ข้าว อาหาร ที่ลาพระพุทธแล้ว สามารถนำมารับประทานได้ และต้องรับประทานลง ถ้าไม่รับรับประทานไม่ลงได้หรือไม่กล้ารับประทาน เพราะมีความรู้สึกว่าอาหารไม่สะอาด ภาชนะไม่สะอาด แสดงว่าทำยังไม่ปราณีตพอ
- ไม่ควรวางภาชนะที่บูชาข้าวพระพุทธบนพื้นที่ใช้นั่งหรือเดินไปมา หากจะวางถาดบูชาข้าวพระพุทธบนพื้นควรมีผ้าขาวปูรองเสียก่อน หรือมิเช่นนั้นก็จัดแท่นหรือพานยกสูงสำหรับวางข้าวพระพุทธ
อานิสงส์ถวายข้าวพระพุทธรูป
อานิสงส์การถวายข้าวพระพุทธนี้ อาจจะไม่ได้ตรง ๆ เหมือนถวายให้พระพุทธเจ้าเสวยหรือถวายให้พระสงฆ์ฉัน แต่เป็นการบูชาพระพุทธเจ้า ซึ่งท่านกล่าวว่า พุทธบูชา มหาเตชะวันโต การบูชาพระพุทธเจ้ามีเดชมีอำนาจมาก หากบูชาพระธรรมและพระสงฆ์ด้วยก็จะได้อานิสงส์เพิ่ม ธัมมบูชา มหาปัญโญ การบูชาพระธรรม มีปัญญามาก คือใคร่ครวญในพระธรรมจนเกิดปัญญา จิตเป็นสมาธิ สังฆบูชา มหาโภคะวะโห บูชาพระสงฆ์ นำมาซึ่งโภคะ เพราะเราใช้วัตถุเป็นเครื่องหมาย
การถวายข้าวพระพุทธเป็นพุทธานุสสติ ช่วงที่ยกข้าวถวาย ช่วงที่กล่าวคำถวาย เป็นพุทธานุสสติทั้งนั้น เพราะจิตเจาะจงไปที่พระพุทธเจ้า อานิสงส์แห่งพุทธนุสสติ มีพระพุทธเจ้าเป็นอารมณนั้นมีอานิสงส์มาก จิตใจเบิกบาน ผิวพรรณผ่องใส ได้ไปสู่สุคติ
โดยส่วนตัวผมแล้ว เชื่อว่าหากได้ทำด้วยเจตนาอันเป็นกุศลแล้วอานิสงส์ผลบุญมากกว่าที่ผมกล่าวมานี้ แต่หากทำด้วยความลังเลสงสัย กลัวคนตำหนิ กังวลคนอื่นจะว่า กังวลในการรักษาทำความสะอาด อย่าทำดีกว่า หาทำบุญวิธีอื่นก็ได้