กุมารทอง เป็นความเชื่อทางไสยศาสตร์ของไทย ที่เชื่อกันว่าเป็นวิญญาณของเด็กที่ตายในครรภ์มารดา หรือเด็กที่เสียชีวิตตั้งแต่ยังเล็ก ซึ่งถูกนำมาเลี้ยงไว้โดยผู้มีวิชาอาคม เพื่อให้ช่วยเหลือในด้านต่างๆ เช่น เรียกโชคลาภ คุ้มครองป้องกันภัย หรือให้โชคลาภในการค้าขาย
ประวัติความเป็นมา:
กุมารทองมีต้นกำเนิดมาจากความเชื่อในเรื่องวิญญาณและไสยศาสตร์ของไทย ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากคติความเชื่อของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู โดยในสมัยโบราณเชื่อกันว่ากุมารทองสร้างขึ้นจากศพเด็กที่ตายทั้งกลม (ตายในท้องแม่) แต่ในปัจจุบันนิยมสร้างจากวัสดุต่างๆ เช่น ดินป่าช้า ไม้รักซ้อน หรือโลหะ แล้วปลุกเสกตามพิธีกรรม
ลักษณะของกุมารทอง:
กุมารทองมักถูกสร้างเป็นรูปเด็กไว้จุก นุ่งโจงกระเบน มีเครื่องประดับต่างๆ เช่น สร้อย กำไล หรือแหวน มักมีท่าทางร่าเริง ยิ้มแย้มแจ่มใส
การบูชากุมารทอง:
ผู้ที่บูชากุมารทองต้องดูแลเหมือนลูกของตนเอง โดยการให้ข้าวปลาอาหาร ขนม น้ำแดง ของเล่น และสิ่งของต่างๆ ที่เด็กชอบ นอกจากนี้ยังต้องสวดมนต์บูชาและขอพรจากกุมารทองเป็นประจำ
ความเชื่อเกี่ยวกับกุมารทอง:
เชื่อกันว่ากุมารทองมีฤทธิ์เดชสามารถช่วยเหลือผู้ที่บูชาได้ในหลายๆ ด้าน เช่น
- เรียกโชคลาภ: ช่วยให้ค้าขายดี มีลูกค้าเข้าร้านมากขึ้น
- คุ้มครองป้องกันภัย: ปกป้องคุ้มครองผู้บูชาและครอบครัวจากอันตรายต่างๆ
- เตือนภัย: บอกเหตุร้ายล่วงหน้า หรือเตือนภัยอันตรายต่างๆ
- ให้โชคลาภในการเสี่ยงโชค: ช่วยให้ถูกลอตเตอรี่ หรือการพนันต่างๆ
ข้อควรระวัง:
การบูชากุมารทองเป็นความเชื่อส่วนบุคคล ควรใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจ และไม่ควรหลงงมงายจนเกินไป นอกจากนี้ การบูชากุมารทองควรทำด้วยความเคารพและศรัทธา ไม่ควรใช้ในทางที่ผิด หรือมิฉะนั้นอาจเกิดผลเสียตามมาได้
คาถาบูชากุมารทอง
คาถาบูชากุมารทอง มีหลายบทที่นิยมใช้กัน โดยส่วนใหญ่จะเริ่มต้นด้วยการตั้งนะโม 3 จบ ก่อนสวดคาถา ตัวอย่างคาถาบูชากุมารทองที่นิยมใช้กันมีดังนี้:
คาถาที่ 1 (เรียกโชคลาภ):
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (3 จบ)
“มามะ ปะริภุญชันตุ จะมหาภูตา อาคัจฉายะ อาคัจฉาหิ”
(สวด 1 จบ หรือ 3 จบ)
คาถาที่ 2 (ขอพรทั่วไป):
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (3 จบ)
“กุมาระ กุมารี ปุตตัง ธิตัง วา ทานัง วา เอหิ เอหิ อาคัจเฉยยะ อาคัจฉาหิ”
(สวด 1 จบ หรือ 3 จบ)
คาถาที่ 3 (ขอให้กุมารทองช่วยเหลือ):
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (3 จบ)
“โอม กุมารทอง มหาภูติ พุทธัง สะระติ ธัมมัง สะระติ สังฆัง สะระติ จิตตัง กุมาระ พุทธัง เอหิ ธัมมัง เอหิ สังฆัง เอหิ”
(สวด 1 จบ หรือ 3 จบ)
หมายเหตุ:
- คาถาเหล่านี้เป็นเพียงตัวอย่าง คาถาบูชากุมารทองอาจมีหลายรูปแบบแตกต่างกันไปตามแต่ละสำนักหรืออาจารย์ผู้สร้าง
- การสวดคาถา ควรสวดด้วยจิตใจที่สงบ ตั้งมั่น และมีสมาธิ เพื่อให้เกิดพลังแห่งความศรัทธา
- นอกจากการสวดคาถาแล้ว การดูแลกุมารทองให้ดีเหมือนลูกหลานก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน
คำแนะนำ:
หากคุณมีกุมารทองอยู่แล้ว ควรสวดคาถาที่ได้รับมาพร้อมกับกุมารทอง หรือสอบถามจากผู้รู้ เช่น พระสงฆ์ หรือผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านวัตถุมงคล เพื่อให้ได้คาถาที่ถูกต้องและเหมาะสมกับกุมารทองของคุณ