ถึงแม้ว่าเว็บไซต์ของผมจะเขียนเรื่องความเชื่อ ปาฏิหาริย์ โชคลาภต่าง ๆ แต่ผมก็ไม่เคยมีสิ่งที่เขาเรียกว่าพรายหรือวิญญาณ ไม่ว่าจะเป็น น้ำมันพราย สีผึ้งพราย กุมารทอง รักยม ผมยังไม่เคยมี ไม่ได้บอกว่าจะไม่มีนะครับ แต่ยังไม่เคยมาก่อน เคยมีแต่อิ่นไม้แกะ อิ่นหินแกะ อิ่นเนื้อผง อิ่นงาแกะ เท่านั้น และน้ำมันว่าน สีผึ้งธรรมดา
ต่อมาในวันพฤหัสบดีที่ 21 พ.ค 2563 ผมได้รับกุมารทองอุ้มทรัพย์ 1 ตน และกุมารดูดรกอนันตโชค 2 อีก 1 ตน จากพระอาจารย์ อารยธัมโม ภิกขุ ซึ่งผมได้ขอท่านไว้ และท่านก็ได้เมตตาส่งมา
สำหรับเนื้อกุมารดูดรกอนันตโชค 2 นั้น ผมไม่ทราบว่าท่านทำจากเนื้ออะไร หรือมีวิธีกรรมในการสร้างอย่างไร แต่เนื้อหอมมาก ๆ ไม่รู้สึกเบื่อที่จะอุ้มขึ้นชมเชย พูดง่าย ๆ ไม่รู้สึกเบื่อ ไม่รู้สึกรังเกียจที่จะอุ้มขึ้นมาสูดดม เพราะกลิ่นหอมอ่อนๆ คล้ายสีผึ้งหรือดอกว่าน
เมื่อผมได้มาแล้ว ก็กล่าวต้อนรับด้วยเมตตาจิต กล่าวประมาณว่า “ท่านจะเป็นใคร มาจากไหน หรืออาจารย์ผู้สร้างจะอัญเชิญเทพหรือวิญญาณใดมาสถิตย์ที่กุมารทั้งสองนี้ ข้าพเจ้ายินดีต้อนรับท่านทั้งสอง จะเป็นเทพ เป็นวิญญาณมีอานุภาพมากน้อยแค่ไหนก็ตาม หรือจะเป็นเด็กเล็กข้าพเจ้าก็ต้อนรับท่านด้วยดี คนเรามีความสามารถที่ต่างกัน ข้าพเจ้าอาจจะทำหรือช่วยตนเองหรือช่วยท่านได้ในบางเรื่อง แต่ไม่สามารถทำได้ทั้งหมด แม้ท่านเองก็อาจจะช่วยข้าพเจ้าได้ในบางเรื่องที่ข้าพเจ้าไม่สามารถทำได้ ฉะนั้น เราจะช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ข้าพเจ้าจะช่วยท่านในสิ่งที่ท่านไม่สามารถช่วยตัวเองได้ แม้ท่านก็ได้โปรดช่วยข้าพเจ้าในสิ่งที่ข้าพเจ้าช่วยตัวเองไม่ได้หรือทำให้เกิดความล้าช้า หากท่านต้องการสิ่งใดโปรดได้บอกหรือปรากฏเป็นนิมิตเครื่องหมายพอให้ข้าพเจ้ารู้ แต่เราจะไม่ทำความเดือดร้อนให้แก่กัน และไม่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่น……………ผมพูดประมาณนี้
จากนั้น ผมก็นำกุมารดูดรกอนันตโชค 2 วางไว้ในผอบสีเงิน นำกุมารทองที่ยืนอุ้มถุงทรัพย์ใส่ไว้ในขวดน้ำมัน วางไว้ใกล้ ๆ กัน ต่อมาผมนึกได้ว่ามี Milk Chocolate M&M อยู่ห่อหนึ่ง ผมจึงแกะออกมาวางให้กุมารดูดรกอนันตโชค 2 ที่ผอบจำนวน 5 เม็ด ส่วนกุมารที่ยืนอยู่ในขวด ผมเห็นว่าไม่มีที่วางMilk Chocolate M&M จึงไม่ได้วางให้กิน แล้วผมก็สวดคาถาที่ทางวัดให้มาพร้อมกุมาร
ผ่านไปประมาณ 10 นาที ผมได้ยินร้องคราง ฮือ ๆ จากกุมารดูดรกอนันตโชค 2 ซึ่งอยู่ห่างจากผมประมาณ 1 แขน คืออื้มมือหยิบได้ เพราะวางไว้ข้าง ๆ โน็ตบุค ผมได้ยินเสียง ฮือ ๆ อยู่ 3-4 ครั้ง จนในที่สุด ผมยื่นหน้าเข้าไปจ้องดูกุมารดูดรกอนันตโชค 2 ก็ได้ยินเสียงอีก 1 ครั้ง แล้วเสียงนั้นก็หายไป
เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง ผมไม่ได้บอกว่านี่เป็นของดีวิเศษ เพราะตราบใดถ้ายังไม่ได้ตามสิ่งที่ผมขอ ก็ยังไม่สำเร็จความวิเศษ ผมแค่เล่าว่าผมได้ยินอย่างนี้จริง ห้องผมเป็นห้องแอร์ ไม่มีจิ้งจก ไม่มีตุ๊กแก ไม่มีสัตว์อื่น ๆ ถ้าเป็นเสียงข้างนอกก็ต้องรู้ว่าเป็นอีกแบบหนึ่ง
ถ้าเป็น เสียงจาก Notebook ก็ไม่น่าใช่ Notebook ผมจะไม่มีเสียงแบบนี้ จะเงียบตลอด เพราะในห้องแอร์ เครื่องจะไม่ร้อน เสียงพัดลมก็ไม่มี
หากกล่าวถึงกุมาร เป็นไปได้ว่า เนื่องจากผมมีกุมารอยู่ 2 ตน แต่ผมให้ขนมMilk Chocolate M&M แก่กุมารตนเดียว คือให้แก่ กุมารดูดรกอนันตโชค 2 ส่วนกุมารอีกตนผมไม่ได้ให้ อาจจะเป็นไปได้ว่ากุมารตนที่ผมไม่ได้ให้นั้นเข้ามาขอกินด้วย หรือเข้ามาแย่ง จึงทำให้กุมารดูดรกอนันตโชค 2 เกิดความหวงหรือไม่อยากให้ จึงร้องครางฮือ ๆ นั่นผมคิดแบบเรา ๆ แต่อาจจะเป็นไปได้ว่า จริง ๆ แล้วกุมารทั้งสองไม่ได้แย่งขนมกันหรอก พวกเขาแค่ทำสัญญาณให้ผมรับรู้ว่าอีกตนหนึ่งยังไม่ได้ขนมเท่านั้น ตามที่ผมได้เคยพูดต้อนรับพวกเขาว่า ….หากท่านต้องการสิ่งใดโปรดได้บอกหรือปรากฏเป็นนิมิตเครื่องหมายพอให้ข้าพเจ้ารู้….
ในที่สุดผมจึงแบ่ง Milk Chocolate M&M ตนละ 5 เม็ด และวันอื่น ๆ ก็เพิ่ม Chocolate ให้อีก ในส่วนของอาหารการกิน ของเล่น ดอกไม้ ผมมองว่าเป็นเครื่องบูชา เครื่องบรรณาการ เป็นของที่ระลึกให้แก่กัน ไม่ใช่ของกินหลัก ของกินหลักน่าจะเป็นบุญ ฉะนั้น หมั่นทำบุญให้แก่เขานั่นแหล่ะดีที่สุด
เหมือนเรามอบของขวัญให้ใครสักคน ให้ขนม ให้บุหรี่ นั่นไม่ใข่ของกินหลัก แต่ของกินหลักคือข้าว หรือคนที่ตายแล้ว เรามอบดอกไม้ พวงหรีดให้ นั่นไม่ใช่ของกินหลัก ของกินหลักคือบุญต่างหาก การเลี้ยงกุมารทองก็เช่นกัน ควรให้ความรัก ความอบอุ่น ของเล่น ของกินพอประมาณ แต่ของกินหลัก ๆ ของเขาคือบุญ เราต้องหมั่นทำบุญ ตักบาตร ถวายสังฆทาน สวดมนต์ เพื่ออุทิศบุญให้แก่พวกเขา
คาถาบูชา กุมารดูดรกอนันตโชค
คาถาบูชาหรือคาถาเรียกกุมารดูดรกอนันตโชค อาจจะมีการถวายของตามสมควร
- ตั้ง นะโม 3 จบ
- สวดคาถา “มะมะ จะ มหาภูตา อนัตตะกุมาโรวา ปิยะชะนานัง อาคัจฉายะ อาคัจฉาหิ จิเจรุนิ มามะ มามา”
- อุทิศส่วนบุญตามที่เราเคยทำมาให้
- ขอตามความปรารถนา