สองสามวันมานี้ (แต่ไม่ได้นั่งคิดทั้งวันนะ แต่หมายความว่าคิดที่จะเขียนมาแล้วสองสามวัน แต่ไม่ได้โอกาสเขียน และไม่รู้จะเขียนอย่างไร) ผมพยายามคิดแยกความแตกต่างระหว่างวัตถุมงคล หรือเครื่องรางรู้ที่ รู้ผู้สร้าง กับเครื่องรางไม่รู้ที่ว่ามีความแตกต่างหรือให้ความรู้สึกที่แตกต่างกับผู้บูชาอย่างไร ทั้งหมดทั้งมวลก็เป็นแต่ความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้น
ในด้านพุทธคุณ
ผมมีความเชื่อว่า พุทธคุณหรืออิทธิคุณนั้น อยู่ที่วัตถุมงคล (ส่วนกำลังใจ หรือจิตใจผมจะว่าต่างหาก) ที่ผ่านการสร้างและปลุกเสกมาดีแล้ว การที่เราจะรู้ที่หรือไม่รู้ที่ ไม่ได้มีส่วนทำให้พุทธคุณของวัตถุมงคลนั้น ๆ ลดน้อยลง เหมือนดังพระพุทธเจ้า หรือหลวงปู่มั่น มีผู้เข้าเฝ้ากราบไหว้ฟังธรรมมากมาย คนจะรู้หรือไม่รู้ก็ตาม จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ตาม ก็ไม่ได้ทำให้ความเป็นพระพุทธเจ้าลดน้อยถอยลง หรือเปรียบเทียบใกล้เข้ามาหน่อย เหมือนดังงูเห่าหรืองูจงอาง คนที่เห็นจะรู้ว่าเป็นงูเห่าหรือไม่รู้ก็ตาม ก็ไม่ได้ทำให้พิษของงูนั้นลดน้อยถอยลง ยังมีพิษเท่าเดิมทุกประการ
แต่ข้อดีของการรู้ที่ หรือรู้ผู้สร้างนั้น ทำให้จิตของเราน้อมไปสู่ท่านผู้สร้างได้ง่ายขึ้น มากขึ้น เพิ่มความศรัทธายิ่งขึ้น เป็นอารมณ์ของพุทธานุสสติ หรือสังฆานุสสติได้เป็นอย่างดี เช่น เราได้ชานหมากมาเม็ดหนึ่ง หากเรารู้ว่านี่เป็นชานหมากของหลวงปู่ฝั้น ก็ทำให้จิตใจเรามุ่งมั่นต่อองค์หลวงปู่เป็นอารมณ์ ยึดมั่นในคุณงามความดีของท่าน ระลึกถึงองค์ท่านได้ง่ายขึ้น ชัดเจนขึ้น จึงเป็นการเพิ่มพูนศรัทธามากขึ้น เพิ่มกำลังแห่งจิตใจมากขึ้น เป็นผลให้เกิดความศักดิ์สิทธิ์มากยิ่งขึ้น
ในด้านการซื้อขาย
วัตถุมงคล เครื่องรางของขลังที่รู้ผู้สร้าง รู้ที่มาที่ไปที่ชัดเจน ย่อมเป็นที่น่าสนใจ เป็นที่ต้องการมากกว่าเครื่องรางไม่รู้ที่ ขายได้ราคาดี ยิ่งเป็นเครื่องรางที่ถูกกล่าวว่าเป็นของพระเกจิดัง ๆ ยิ่งมีราคาแพง แพงเพราะเป็นของพระเกจิหรือเชื่อว่าเป็นของพระเกจินั้น ๆ ส่วนในเรื่องพุทธคุณนั้นก็ยังเหมือนเดิมตามแต่เครื่องรางนั้น ๆ จะมีได้ แต่ไม่ได้หมายความว่ารู้ที่แล้วพุทธคุณจะเพิ่มขึ้น ที่เพิ่มขึ้นคือราคา หรือความศรัทธา ความเชื่อมั่น หรืออุปาทานความยึดมั่นที่เพิ่มขึ้น
บูชาวัตถุมงคล เครื่องรางไม่รู้ที่อย่างไรให้ศักดิ์สิทธิ์
เราสามารถบูชา (คำว่าบูชาในที่นี้ คือทำการสักการบูชา นอบน้อม ระลึกถึง ยกย่อง สรรเสริญ ไม่ได้หมายถึงการซื้อขาย) วัตถุมงคล พระเครื่อง เครื่องรางของขลังให้ศักดิ์สิทธิ์ เกิดเป็นบุญกุศลได้ แม้ไม่รู้ที่ก็ตาม
ยกตัวอย่างง่าย ๆ เราไปกราบไหว้พระแก้วมรกต หลวงพ่อพระพุทธโสธร พระพุทธชินราช หรือพระประธานในอุโบสถของวัดใดวัดหนึ่ง ซึ่งเรายังไม่จำเป็นต้องรู้มาก่อนว่าใครเป็นผู้สร้าง สร้างเมื่อไหร่ ด้วยโลหะอะไร ปลุกเสกหรือไม่ แต่เรากราบไหว้ลงอย่างสนิทใจ ด้วยความเลื่อมใสศรัทธา ระลึกถึงพุทธานุสสติเป็นอารมณ์ ข่มความรู้สึกฝ่ายต่ำไว้ได้ ใจย่อมเป็นบุญ บุญนี่แหล่ะจะเป็นกำลัง ส่งเสริมให้ขลังเกิดความอัศจรรย์ได้
วัตถุมงคล พระเครื่อง เครื่องรางของขลังอื่น ๆ ที่เราไม่รู้ที่ก็เช่นเดียวกัน หากเป็นพระพุทธรูป เราก็น้อมระลึกถึงพระพุทธเจ้าหรือพระพุทธคุณ โดยการตั้งนะโม หรือสวดมนต์ระลึกพระพุทธคุณ หรือสวดอะไรไม่ได้เลย ก็ภาวนาว่า พุทโธ พุทโธ หากเป็นพระสงฆ์ แม้ไม่รู้ที่ว่าสร้างที่ไหน เมื่อไหร่ ท่านบวชที่ไหน เมื่อไหร่ แต่เราน้อมระลึกถึงสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้าเป็นหลัก เครื่องรางอื่น ๆ ก็เช่นกัน น้อมระลึกบูชาถึงสิ่งที่เครื่องรางนั้น ๆ สื่อถึง โดยที่ไม่ต้องสนใจในเรื่องราคา ใครสร้าง สร้างเมื่อไหร่ด้วยอะไร แท้หรือไม่