วันนี้ ขอตามกระแสหน่อยนะครับ แต่ต้องทำความเข้าใจก่อนเสียว่า
- ผมยังไม่เคยดูการไลฟ์ขายชุดชั้นในที่ใช้แล้วกับใคร ที่ไหน หรือกลุ่มใดมาก่อน บทความนี้จึงไม่พาดพิงถึงบุคคลใด
- นี่เป็นความคิดเห็นส่วนตัว ไม่ใช่การตัดสินว่าใครผิดใครถูก
- ศีลธรรมที่จะกล่าวถึง หมายถึงศีลห้าในพระพุทธศาสนา เน้นศีลเป็นหลัก อาจจะไม่ครอบคลุมถึงจารีตประเพณีหรือความเชื่อคนไทย
ขายชุดชั้นในหรือกางเกงในที่ใส่แล้ว ผิดศีล (ธรรม) หรือไม่
ศีลคืออะไร ในบทความนี้ให้ความหมายศีลว่าข้อห้าม หรืองดเว้น สิ่งที่ไม่พึงปฏิบัติ (ส่วนธรรม หรือเบญจธรรม คือสิ่งที่พึงปฏิบัติ) ศีลห้า คือสิ่งที่พึงงดเว้น 5 ประการ ได้แก่
- เว้นจากการฆ่าสัตว์ การขายชุดชั้นในที่ใส่แล้ว ดูเหมือนไม่เกี่ยวข้องกับการฆ่าสัตว์ จึงไม่ผิดศีลข้อนี้ ยกเว้นคนขายมีโรคร้ายแรงที่สามารถติดต่อคนอื่นให้เสียชีวิตได้ และคนขายก็รู้อยู่ว่าตนเองมีโรคร้ายแรงที่อาจจะติดต่อผู้อื่นให้เสียชีวิตได้ แล้วขายชุดที่ใส่แล้วนั้น อย่างนี้ผิดทั้งศีลและกฎหมาย
- เว้นจากการลักทรัพย์ ถ้าคนขายไม่ได้ไปขโมยของคนอื่นมาขาย ก็ไม่ผิดศีล แต่หากหลอกลวงคนอื่นให้เสียทรัพย์แต่กลับได้ของไม่ตรงตามที่พูดไว้ เช่น บอกว่าเป็นของตนเองแต่เอาของคนอื่นมาขาย บอกว่าใส่สามวัน แต่จริง ๆ แล้วใส่ชั่วโมงเดียว อย่างนี้ทำให้คนซื้อเข้าใจผิดในสิ่งที่จะได้ ทำให้เขาเสียทรัพย์แต่กลับไม่ได้สินค้าตามที่คนขายพูดไว้ อย่างนี้ผิดศีลและอาจจะผิดกฎหมายด้วย
- เว้นจากประพฤติผิดในกาม ข้อนี้มีความละเอียดอ่อนอยู่เหมือนกัน แต่ขอพูดถึงเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการขายชุดชั้นในที่ใส่แล้ว คนขายชุดชั้นในที่ใส่แล้ว ไม่ควรพูดยั่วยุให้เกิดกามราคะแก่ผู้ซื้อไม่ว่ากรณีใด ๆ เช่น พูดถึงขั้นตอนการใส่ที่ทำให้คนซื้อเกิดกามราคะ หรือแนะนำวิธีการนำกางกางในที่ใส่แล้วไปใช้ทำอย่างนั้นอย่างนี้อันเหตุให้คนฟังหรือคนซื้อเกิดกามราคะ เพราะจะทำให้ผิดศีลธรรมและกฎหมายได้
- เว้นจาการพูดโกหก ถ้าคนขายชุดชั้นในที่ใส่แล้ว ไม่พูดโกหกหลอกลวง (ดูตัวอย่างศีลข้อที่ 2 ประกอบ) ไม่พูดคำหยาบ ไม่พูดเพ้อเจ้อ ไม่พูดลามกอนานาจาร ก็ไม่ผิดศีล
- เว้นจากการดื่มน้ำเมา การขายชุดชั้นในที่ใส่แล้ว ไม่น่าเกี่ยวกับศีลข้อนี้ แม้จะเป็นการมอมเมาก็ไม่เกี่ยวกับศีลข้อว่าด้วยการดื่มน้ำเมา
ศีลห้ามีนัยแห่งการอธิบายค่อนข้างละเอียดอ่อน แต่มีหลักเกณฑ์ในการตัดสินที่ชัดเจน ให้ดูบทความองค์แห่งศีลห้าประกอบ
มีหลักธรรมอีกหมวดที่ต้องกล่าวถึง เรียกว่า มิจฉาวณิชชา คือการค้าขายไม่ชอบธรรม เป็นสิ่งที่บุคคลไม่ควรทำการค้าขาย 5 อย่าง ได้แก่
1. ค้าขายเครื่องประหาร คือการค้าขายอาวุธทุกชนิด เช่น อาวุธปืน อาวุธเคมี ระเบิด นิวเคลียร์ อาวุธอื่น ๆ เป็นต้น
2. ค้าขายมนุษย์ เช่น การซื้อขายประเวณี การค้าขายเด็ก การค้าทาส ตลอดจนการใช้แรงงานเด็กและสตรีอย่างทารุณเพื่อผลกำไร
3. ค้าขายสัตว์เป็น สำหรับฆ่าเพื่อเป็นอาหาร คือค้าขายสัตว์เป็นที่ยังมีชีวิต สำหรับฆ่าเพื่อเป็นอาหารส่งเสริมทารุณกรรมและเป็นการส่งเสริมให้ทำผิดศีลข้อที่ 1 คือการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต
4. ค้าขายน้ำเมา คือการค้าขายสุราและของมึนเมา และยาเสพติดให้โทษ
5. ค้าขายยาพิษ หมายถึง การค้าขายยาพิษ ซึ่งเป็นอันตรายต่อผู้ใช้ รวมทั้งสารเคมีที่อันตรายต่อชีวิต คน, สัตว์
การค้าขาย 5 อย่างนี้ เป็นข้อห้ามอุบาสกอุบาสิกาไม่ให้ประกอบ การค้าขายสิ่งเหล่านี้ ถือว่าเป็นอันตรายต่อเพื่อนมนุษย์ต่อสัตว์และต่อสภาพแวดล้อม
ถ้าหากคนขายชุดชั้นในที่ใช้แล้ว ไม่ล่วงละเมิดศีลห้าและไม่ได้ค้าขายในสิ่งที่เรียกว่ามิจฉาวณิชชาตามที่กล่าวมาแล้ว ก็ไม่น่าจะผิดศีลธรรมข้อใด แต่อาจจะดูไม่งามและถูกมองในแง่ลบตามค่านิยมสังคมซุบซิบ บางคนวิจารณ์เสียอีกที่ทำศีลธรรมากกว่า เช่น พูดคำหยาบคาย พูดจาดูถูกคนอื่น ไม่ให้เกียรติ์คนอื่น หรือพูดในสิ่งตนเองก็ไม่รู้ไม่มีหลักฐานอันใด เช่น กล่าวหาว่าคนซื้อต้องเป็นโรคจิต ซื้อไปแล้วนำไปทำอย่างนั้นอย่างนี้
หากพิจารณาตามหลักศีลห้าและมิจฉาวณิชชาแล้ว คนขายปลาในตลาดสดอาจจะผิดศีลธรรมมากกว่า ถ้าคนขายฆ่าปลาให้คนซื้อด้วยก็ผิดศีลข้อที่หนึ่ง และผิดหลักมิจฉาวณิชชาข้อว่าด้วยค้าขายสัตว์เป็น สำหรับฆ่าเพื่อเป็นอาหาร แต่หากไม่ได้ฆ่าเองแค่ขายอย่างเดียวก็ผิดหลักมิจฉาวณิชชา ค้าขายสัตว์เป็น สำหรับฆ่าเพื่อเป็นอาหาร ส่งเสริมให้ผิดศีลข้อที่หนึ่งยังศีลให้เศร้าหมองได้ นี่เป็นการกล่าวตามหลักศีลธรรมในพระพุทธศาสนา ไม่เกี่ยวกับคำถามหรือข้อแม้ที่ว่า ถ้าไม่ขายปลา ไม่ฆ่าปลาจะกินอะไร จะเลี้ยงครอบครัวอย่างไร
ข้อเสียของการซื้อขายชุดชั้นในที่ใช้แล้ว (หรือจะเรียกว่าผิดศีลธรรมก็แล้วแต่จะเรียก)
- ไม่ถูกต้องตามหลักอนามัย (ใช้ศัพท์ถูกหรือเปล่าไม่รู้) คือไม่ผ่านการทำความสะอาดมาก่อน อาจจะนำมาซึ่งการแพร่ระบาดของโรคติดต่อบางชนิดได้
- ถูกสังคมดูแคลนว่าไม่มีความละอายหรือมีจิตไม่ปรกติได้
- หากคนในครอบครัวไม่เข้าใจ อาจเป็นเหตุให้เกิดการทะเลาะวิวาทและนำมาซึ่งความแตกแยกได้
- การการใช้สิ่งที่คนอื่นใช้แล้วโดยไม่ผ่านการทำความสะอาดให้ถูกต้องตามหลักอนามัยเสียก่อน เหมือนเป็นการใช้ของเหลือเดนหรือของที่คนอื่นทิ้งแล้ว เป็นการลดคุณค่าความเป็นคนลงหรือไม่ ผิดหลักมนุษยธรรมหรือไม่ (ตั้งคำถามให้คิดหาคำตอบเอง)
- ในส่วนของข้อกฎหมายว่าผิดหรือไม่ต้องไปถามทนายหรือนักกฎหมาย
แต่อย่างไรก็ตาม การซื้อและการสัมผัสแตะต้องเสื้อผ้าโดยเฉพาะกางเกงชั้นในที่คนอื่นใส่แล้ว โดยไม่ผ่านการทำความสะอาดมาก่อน มีความเสี่ยงต่อโรคติดต่อเป็นอย่างมาก และอาจจะถูกมองในแง่ลบได้