ในสภาวะอากาศที่ค่อนข้างเปลี่ยนแปลงบ่อย เชื่อว่าหลายคนไม่มีใครหรอกที่จะไม่ฮิตป่วยเป็นโรคภูมิแพ้ เห็นว่าโรคนี้แพร่กระจายเป็นกันทั่วทั้งเมืองเลยก็ว่าได้ แต่เป็นแล้วก็ไม่ได้เท่อย่างที่คิดกันหรอกจริงมั้ย ดังนั้น เรามาหาวิธีรักษาและป้องกันปัญหาโรคภูมิแพ้กันดีกว่าด้วยคำแนะนำ ดังนี้
รักษาโรคภูมิแพ้ด้วยอาหาร
- ทานอาหารเพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน
ทราบไหมว่าการทานผักผลไม้ที่มีสารแอนตี้ออกซิแดนท์สูงจากธรรมชาติสามารถช่วยสร้างระบบภูมิคุ้มกันสุขภาพให้แข็งแรงมากขึ้นได้ โดยอาหารเหล่านี้จะเข้าไปต่อกรการเกิดโรคต่างๆ อย่างโรคภูมิแพ้ ดังนั้น แนะนำให้ทานผักและผลไม้หลากหลายสีสัน ได้แก่ สีแดง สีเหลือง สีส้ม สีเขียวและสีม่วงให้เป็นประจำสุขภาพของคุณก็จะค่อยๆ แข็งแรงมากขึ้น
– ข้าวกล้องแหล่งสารแอนตี้ออกซิแดนท์สูง เนื่องจากสีน้ำตาลหรือสีแดงที่เคลือบบนตัวเม็ดข้าวกล้องนั้นก็คือสารแอนตี้ออกซแดนท์ชั้นเยี่ยมที่ร่างกายของเราควรได้รับ ส่วนข้าวขาวบริสุทธิ์หน้าตาน่าทานล้วนผ่านกระบวนการขัดสีจนไร้ซึ่งประโยชน์ใดๆ แล้ว เหลือก็เพียงแป้งและน้ำตาลเท่านั้น ยิ่งทานมากหากไม่ได้เผาผลาญออกจนหมดก็ทำให้ผู้ทานมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นได้ง่ายๆ และส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันสุขภาพมีประสิทธิภาพการทำงานที่ต่ำลงอีกด้วย
– อาหารต้านอาการอักเสบ เมื่อป่วยเป็นโรคภูมิแพ้ภายในร่างกายของคนเราจะมีอาการอักเสบตามมาพร้อมกัน ดังนั้น อาหารที่สามารถช่วยรักษาอาการอักเสบได้เป็นอย่างดีก็คือปลาทะเลน้ำลึก(ทั้งยังมีโอเมก้า 3 ที่ดีต่อสุขภาพด้วย) ต่อมาก็จะเป็นถั่ววอลนัทและถั่วเหลือง เป็นต้น
– ดีท็อกซ์สารพิษออกจากตับ โดยปกติตับของมนุษย์เรามีหน้าที่กำจัดสารพิษออกจากร่างกาย เมื่อไรที่ตับแข็งแรงก็จะยิ่งส่งผลให้ระบบอวัยวะต่างๆ ภายในร่างกายทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ดังนั้น หันมาเริ่มต้นช่วยตับกำจัดสารพิษหรือดีท็อกซ์ให้ตับด้วยการทานอาหารที่มีรสชาติขมอย่างผักผลไม้ที่หาได้รอบตัว เช่น มะระ หน่อไม้ฝรั่งและส้มโอ เป็นต้นกันเถอะค่ะ
– รักษาอาการภูมิแพ้อาหาร อาหารบางชนิดที่เราทานเข้าไปเมื่อสะสมเข้าไปอยู่ในร่างกายนานเข้าก็ย่อมส่งผลให้เกิดอาการโรคภูมิแพ้ขึ้นได้ ดังนั้น หากคุณพบว่าอาหารใดที่ทานเข้าไปแล้วมีความผิดปกติภายในร่างกาย ส่งให้เกิดอาการแพ้หรือภูมิแพ้ตามมา แนะนำให้หยุดทานอาหารประเภทนั้นๆ เป็นเวลาหนึ่งเดือน เพื่อให้ระบบต่างๆ ภายในร่างกายทำหน้าที่ปรับความเป็นสมดุลในตัวมันเอง
อาการของโรคภูมิแพ้ ผู้ที่มีอาการป่วยเป็นโรคภูมิแพ้มักมีอาการนอนไม่หลับ คันหน้าในลักษณะเป็นๆ หายๆ น้ำมูกไหลใสๆ ในตอนเช้า จามบ่อยครั้งและแน่นจมูก เวลาหลับก็มักจะหลับๆ ตื่นๆ มีอาการอ่อนเพลียแบบไม่ทราบสาเหตุ แม้ว่าโรคภูมิแพ้อาจจะเป็นอาการที่ไม่ได้รุนแรงมากนัก แต่ก็ส่งผลให้การดำเนินชีวิตในระหว่างวันติดขัดและเกิดอาการอ่อนเพลียมากจนกระทั่งร่างกายทรุดฮวบลงได้เช่นเดียวกัน
วิธีการป้องกันโรคภูมิแพ้
- ควรออกกำลังกายเป็นประจำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วันและหมั่นนั่งสมาธิบ้าง
– ปรับการใช้ชีวิตให้เกิดความสมดุลเพื่อให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง โดยควรเข้านอนเร็วให้เป็นเวลาและนอนพักผ่อนให้เต็มอิ่มที่สุด นอกจากนี้ การทานอาหารให้ครบคุณประโยชน์ก็สำคัญเช่นเดียวกัน
– อาหารสำหรับผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ แนะนำให้ทานผัก ผลไม้ อาหารจากธัญพืชที่ไร้การขัดสีและข้าวกล้องที่สำคัญควรมีสมาธิจดจ่อกับการทานอาหาร ไม่ควรทานอาหารไปและหันไปทำกิจกรรมอื่นๆ ไปพร้อมกัน เพราะมันจะส่งผลให้ระบบการไหลเวียนเลือดและออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงสมองได้ไม่เต็มที่ อีกทั้งยังส่งผลให้สมองสั่งการให้กระเพาะอาหารทำงานไม่มีประสิทธิภาพ ทำให้ระบบการย่อยอาหารเกิดปัญหาเนื่องจากถูกดึงมาใช้พลังงานในทางที่ผิดเพี้ยนไปด้วยนั่นเอง
– การทำอาหารทานเองจะดีต่อกระเพาะอาหารเป็นอย่างมากทีเดียว เนื่องจากในขณะที่เรากำลังอยู่ในขั้นตอนของการเตรียมอาหาร สมองจะกระตุ้นให้น้ำย่อยในกระเพาะออกมาเตรียมทำงาน หลังจากที่คุณทำอาหารเสร็จแล้วลงมือทาน น้ำย่อยเหล่านั้นก็พร้อมปฏิบัติการอย่างเต็มที่ไปด้วยนั่นเอง การทำระบบนี้กับตัวเองเป็นประจำทุกวันจะส่งผลให้ระบบการย่อยอาหารเป็นไปอย่างสมดุลและสามารถป้องกันการเกิดโรคต่างๆ ภายในร่างกายตามมาได้ด้วย
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ ใครที่รักสุขภาพและหวาดเกรงกับการเป็นโรคภูมิแพ้ จากนี้ไม่ต้องหันไปหาหมอกันบ่อยๆ ให้เสียเวลาแล้วล่ะ เพราะเพียงเรารู้จักเริ่มต้นดูแลตัวเองที่ต้นเหตุ ไม่ใช่รอให้เกิดขึ้นแล้วตามมารักษาที่ปลายเหตุก็ย่อมทำให้สุขภาพของเราได้เปรียบดีทีเดียว เพราะระบบภูมิคุ้มกันโรคแข็งแรงกันตั้งแต่ภายใน เท่านี้คุณก็สามารถรับมือและป้องกันการเกิดโรคภูมิแพ้ได้อย่างง่ายดายมากขึ้นแล้วค่ะ