การสวดมนต์นั้นเดิมมาจากการสาธยายบทพระธรรมคำสั่งสอนในทางพระพุทธศาสนา อาจจะเป็นพระสูตร พระวินัย หรือพระอภิธรรมก็ได้ ซึ่งเป็นการทรงจำแบบมุขปาฐะ ต่อมามีบทสวดมนต์อื่น ๆ เกิดขึ้นมากมายพร้อมทั้งมีการแสดงอานิสงส์แห่งบทนั้น ๆ ด้วยเพื่อเป็นแรงจูงใจหรือกุศโลบายให้มีการสาธยายทรงจำไว้ แต่ก็สรุปลงในพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ
การสวดมนต์ส่งท้ายปีเก่า คือการสวดมนต์ในวันที่ 31 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันสิ้นปี เป็นวันสุดท้ายแห่งปี การสวดมนต์ส่งท้ายปีนี้ หวังอานิสงส์ขจัดปัดเป่าสิ่งที่ไม่ดีออกไป ทิ้งสิ่งที่ไม่ดีที่เราได้ทำหรือพานพบในตลอดทั้งปี สวดมนต์เพื่ออาศัยพลังแห่งพุทธคุณมาเป็นกำแพงขวางกันไม่ให้สิ่งที่ไม่ดี บุคคลที่ไม่ดีที่เราได้ประสบพบเจอในปีนี้ได้ตามไปรังครานเราในปีใหม่ที่จะถึงนี้ หรือจะเรียกว่าสวดมนต์คว่ำบาตรทิ้งทวนสิ่งที่ไม่ดีออกไปก็ได้
การสวดมนต์ข้ามปีนั้นคือการสวดมนต์ในช่วงเวลาที่จะเข้าสู่ปีใหม่ตามปฏิทินสุริยคติ นิยมเริ่มสวดตั้งแต่เวลา 23.00 น. ของวันที่ 31 ธันวาคมเรื่อยไปจึงถึงเวลา 01.00 น. ของวันที่ 1 มกราคม ซึ่งถือว่าเป็นการก้าวเข้าสู่ปีใหม่แล้ว การสวดมนต์ข้ามปีนี้เรียกได้ว่าเป็นทั้งการสวดมนต์ส่งท้ายปีเก่าและสวดมนต์ต้อนรับปีใหม่ ซึ่งอานิสงส์ของการสวดมนต์ส่งท้ายปีเก่านั้นผมได้กล่าวแล้ว ส่วนอานิสงส์ของการสวดมนต์ต้อนรับปีใหม่ ผมจะกล่าวข้างหน้า อานิสงส์ของการสวดมนต์ข้ามปีหรือการสวดมนต์ส่งท้ายปีเก่าและสวดมนต์ต้อนรับปีใหม่นั้น เป็นการแสดงออกถึงบุคคลผู้มีความตั้งใจจริง มีความแน่วแน่ มีความตั้งมั่น ทำอะไรก็ทำจริงทำอย่างต่อเนื่องจนประสบความสำเร็จตามความมุ่งหมาย อานิสงส์จึงหวังได้ในการขจัดอุปสรรค์ต่าง ๆ ที่ขวางกั้น การขจัดหรือป้องกันสิ่งที่ไม่ดี บุคคลที่ไม่ดีที่จะตามมาจากปีเก่า และมุ่งสู่ความสำเร็จที่จะเกิดขึ้นจากความตั้งมั่นหรือความพยายามของเราซึ่งใคร ๆ หรืออุปสรรคใด ๆ ก็ขัดขวางไม่ได้
การสวดมนต์ต้อนรับปีใหม่ อันที่จริงที่ได้กล่าวมาในข้างต้นในเรื่องที่ว่า การสวดมนต์ข้ามปี หากได้สวดจนข้ามปีก็ถือว่าได้สวดมนต์ต้อนรับปีใหม่เช่นกัน แต่การสวดมนต์ต้อนรับปีใหม่ที่ผมจะกล่าวถึงในข้อนี้ คือการสวดมนต์ต้อนรับรุ่งอรุณแห่งวันขึ้นปีใหม่ ได้แก่ช่วงเวลาที่พระอาทิตย์กำลังจะขึ้น ในประเทศไทยก็เวลาประมาณ 05.30-06.30 น. ซึ่งการสวดมนต์ต้อนรับปีใหม่ หวังอานิสงส์การได้พบเจออะไรที่ใหม่ ๆ ความสดใสแห่งชีวิต แสงอาทิตย์ขจัดความมึดไปได้ฉันใด การสวดมนต์ต้อนรับรุ่งอรุณแห่งวันขึ้นปีใหม่ ก็ขจัดความมึดมิดแห่งชีวิตไปได้ฉันนั้น ดวงอาทิตย์ให้ความอบอุ่นให้แสงสว่างแก่เราฉันใด การสวดมนต์ต้อนรับรุ่งอรุณแห่งวันขึ้นปีใหม่ ก็ให้ความรุ่งเรืองสุดใสแห่งชีวิต หน้าที่การงาน การเงิน และให้ความสุขแก่เรา ฉันนั้น
สวดมนต์ข้ามปีดีไหม คำตอบคือดีแน่นอน ผมให้คำตอบว่าดีร้อยเปอร์เซ็นต์ด้วยซ้ำ แต่คุณต้องแยกแยะให้ออกระหว่างการสวดมนต์ การเดินทาง ความหนาว ความเพลีย หรือการให้ทาน การบริจาคใด ๆ หรือการเสี่ยงต่อการติดเชื้อ COVID-19 ซึ่งผมไม่ได้กล่าวว่าคุณต้องไปสวดมนต์ข้ามปีที่วัดนั้น หรือต้องไปสวดมนต์ข้ามปีเป็นกลุ่มหรือคณะ คุณสามารถสวดมนต์ข้ามปีคนเดียวที่บ้าน หรือกับครอบครัวที่อบอุ่นได้
สวดมนต์ข้ามปี พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนไว้ ไม่ได้ตรัสไว้ ไม่ได้บัญญัติไว้ ประเด็นนี้ก็ยกขึ้นมาพูดกันมาก ส่วนมากก็คนที่ไม่ชอบสวดมนต์นั่นแหล่ะนำมาประเด็น จริงอยู่ พระพุทธเจ้าไม่ได้บัญญัตไว้ว่าวันปีใหม่ต้องสวดมนต์ พระพุทธศาสนาไม่ได้กำหนดว่าต้องสวดมนต์ข้ามปี แต่การสวดมนต์ข้ามปีหรือสวดมนต์วันไหน ๆ ก็ไม่ผิดคำสอนในทางพระพุทธศาสนา เหมือนการพิมพ์หนังสือธรรมะพระพุทธเจ้าก็ไม่ได้บัญญัติไว้เพราะเมื่อก่อนมีแต่การทรงจำท่องสาธยายที่เรียกว่ามุขปาฐะทั้งนั้น แต่การพิมพ์หนังสือพระไตรปิฎกก็ไม่ได้ขัดต่อคำสอนในทางพระพุทธศาสนาแต่อย่างใด
พระพุทธศาสนาให้ความสำคัญกับปีใหม่ปีเก่าหรือไม่ มากน้อยแค่ไหน ในเรื่องนี้พระพุทธศาสนาอนุโลมหรืออนุวัตรตามธรรมเนียมของโลก คือมีการกำหนดนับปีพุทธศักราช หากใครได้ไปฟังธรรมในพระอารามหลวงจะสังเกตเห็นว่า ก่อนที่พระท่านจะแสดงธรรมได้มีการบอกศักราชเสียก่อน การบอกศักรราชคือการบอกวัน เดือน ปี ที่พระพุทธเจ้าได้อุบัติขึ้นมาแล้วและผ่านไปแล้วกี่ปี
สรุปก็คือ สวดมนต์ส่งท้ายปีเก่า สวดมนต์ข้ามปี สวดมนต์ต้อนรับปีใหม่ เป็นกิจกรรมหนึ่งที่พุทธศาสนิกชนควรกระทำ เสียสละเวลาแค่ 1 ชั่วโมงในการสงบสติอารมณ์ สวดมนต์ภาวนาส่งหรือทิ้งสิ่งที่ไม่ดีออกไป อีกยังช่วยป้องกันสิ่งไม่ดีเหล่านั้นตามมา สวดภาวนาเริ่มสิ่งใหม่ ๆ ที่ดีกว่า พบกับความสุขความสดใสตลอดทั้งปี