
ในโลกของเครื่องรางของขลังไทยที่เต็มไปด้วยวัตถุมงคลหลากหลายรูปแบบ มีเครื่องรางประเภทหนึ่งที่ได้รับการยอมรับนับถือว่าเป็นที่สุดแห่งของขลังจากธรรมชาติ นั่นคือ “คด” (Khot) ซึ่งไม่ได้ถูกสร้างขึ้นจากฝีมือมนุษย์ แต่ถือกำเนิดขึ้นเองจากความผิดปกติอันน่าอัศจรรย์ของธรรมชาติ และเชื่อว่ามีพลังอำนาจศักดิ์สิทธิ์สถิตอยู่ภายในตัวเอง
“คด” คืออะไร?
“คด” คือวัตถุที่เกิดการแปรสภาพจนแข็งกลายเป็นหิน (Petrified) ซึ่งถูกพบอยู่ภายในร่างกายของสิ่งมีชีวิต ไม่ว่าจะเป็นพืชหรือสัตว์ หรือในรังของสัตว์บางชนิด ความพิเศษของคดคือการที่มันไม่ได้กลายเป็นหินไปพร้อมกับซากทั้งหมด แต่เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นมาอย่างเฉพาะเจาะจง เช่น เมล็ดผลไม้ที่กลายเป็นหินอยู่ภายในผลที่ยังดูปกติ หรืออวัยวะของสัตว์ที่กลายเป็นหินอยู่ภายในร่างกาย
ในความเชื่อของไทย คดไม่ใช่แค่ฟอสซิลหรือหินธรรมดา แต่เป็น “ของกายสิทธิ์” หรือ “ทนสิทธิ์” คือมีฤทธิ์เดชและอานุภาพในตัวเองโดยไม่ต้องผ่านการปลุกเสกจากเกจิอาจารย์ใดๆ เชื่อกันว่าเป็นของที่เทวดาหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์สร้างขึ้นและมอบให้ไว้เป็นของวิเศษบนโลกมนุษย์

กำเนิดและความเชื่อ
ตามตำราโบราณเชื่อว่า การเกิดคดนั้นเป็นกระบวนการเหนือธรรมชาติ โดยมีองค์ประกอบของธาตุกายสิทธิ์ เช่น เหล็กไหล หรือมีจิตวิญญาณชั้นสูงอย่างพระฤาษีหรือเทวดาบันดาลให้เกิดขึ้น วัตถุนั้นจะค่อยๆ ดูดซับ天地 (พลังฟ้าดิน) และแร่ธาตุต่างๆ จนแปรสภาพแข็งแกร่งเป็นหิน และมีพลังศักดิ์สิทธิ์สถิตอยู่ภายใน ด้วยเหตุนี้ คดจึงถือเป็นของหายากอย่างยิ่ง และมีคุณค่าสูงในหมู่นักสะสมเครื่องราง
ประเภทของ “คด” ที่เป็นที่รู้จัก
คดสามารถจำแนกได้ตามแหล่งกำเนิด ซึ่งมีหลากหลายประเภท แต่ที่เป็นที่รู้จักและนิยมแสวงหากันมาก ได้แก่
1. คดจากพืช:
- คดขนุน: อาจเป็นเมล็ดหรือส่วนของเนื้อที่กลายเป็นหิน เชื่อว่ามีพุทธคุณโดดเด่นด้านการเกื้อหนุน ค้ำจุนชีวิตไม่ให้ตกต่ำ มีคนคอยอุปถัมภ์ค้ำชู
- คดมะพร้าว: มักเป็นลูกมะพร้าวขนาดเล็กที่กลายเป็นหินทั้งลูก หรือเป็นกะลาที่มีลักษณะผิดปกติ เช่น มีงอกคล้ายเขี้ยว เรียกว่า “มะพร้าวนาฬิเกร์” เชื่อว่ามีอานุภาพสูงในการป้องกันคุณไสย มนต์ดำ และภูตผีปีศาจ
- คดจากแก่นไม้: เกิดจากแก่นไม้ที่เป็นมงคล เช่น ไม้สัก ไม้พะยูง ที่มีส่วนหนึ่งแข็งเป็นหิน เชื่อว่ามีเทวดารักษา ให้คุณด้านอำนาจบารมีและความมั่นคง
2. คดจากสัตว์:
- คดปลวก: เกิดจากจอมปลวกที่แข็งกลายเป็นหิน เชื่อว่าโดดเด่นด้านโชคลาภ ค้าขาย และความสามัคคี เพราะปลวกเป็นสัตว์ที่ขยันและอยู่รวมกันเป็นหมู่คณะใหญ่
- คดหอย: ซากหอยโบราณที่กลายเป็นหินและมีรูปทรงสวยงาม เชื่อว่าเป็นตัวแทนของความอุดมสมบูรณ์และช่วยป้องกันภัยทางน้ำ
- คดไข่: ไข่ของสัตว์ต่างๆ เช่น ไก่ เต่า จระเข้ ที่กลายเป็นหิน เชื่อว่าให้คุณด้านคุ้มครองป้องกันภัย มีเมตตามหานิยม และทำมาหากินคล่องตัว

อานุภาพและความเชื่อ
ผู้ที่ครอบครองคดเชื่อว่ามีพุทธคุณครอบจักรวาล แต่ที่โดดเด่นที่สุดคือ:
- มหาอุตม์และคงกระพันชาตรี: ป้องกันศาสตราวุธและของมีคม ถือเป็นคุณสมบัติหลักของคดส่วนใหญ่
- แคล้วคลาดปลอดภัย: ช่วยให้รอดพ้นจากอุบัติเหตุและภยันตรายต่างๆ
- ป้องกันคุณไสยและสิ่งอัปมงคล: พลังกายสิทธิ์ในคดสามารถป้องกันและขับไล่สิ่งชั่วร้าย ภูตผีปีศาจ และมนต์ดำได้
- เมตตามหานิยมและโชคลาภ: คดบางชนิดให้คุณด้านเมตตามหานิยม ทำให้เป็นที่รักใคร่ และนำโชคลาภมาสู่ผู้ครอบครอง
บทสรุป
คด คือตัวแทนของความมหัศจรรย์แห่งธรรมชาติที่ผสานเข้ากับความเชื่อทางจิตวิญญาณได้อย่างลงตัว เป็นเครื่องรางที่ไม่ได้เกิดจากพิธีกรรม แต่เกิดจากพลังของธรรมชาติเอง ทำให้มันกลายเป็นสุดยอดวัตถุมงคลที่หายากและทรงคุณค่าสำหรับผู้ศรัทธา เป็นเครื่องยืนยันว่าพลังแห่งความศักดิ์สิทธิ์นั้นสามารถปรากฏขึ้นได้ในทุกสรรพสิ่งรอบตัวเรา
คาถาบูชาคด
เนื่องจาก “คด” เป็นเครื่องรางที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติและมีความศักดิ์สิทธิ์ในตัวเอง (ที่เรียกว่า “กายสิทธิ์” หรือ “ทนสิทธิ์”) จึง ไม่มีคาถากำกับที่ตายตัวบทเดียวเหมือนพระเครื่องที่สร้างจากเกจิอาจารย์ แต่จะนิยมใช้บทสวดกลางๆ ที่เป็นการบูชาพระคุณของพระรัตนตรัย อัญเชิญธาตุ และอาราธนาคุณของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สถิตอยู่ในคดนั้นๆ
ผู้ที่ครอบครองคดส่วนใหญ่นิยมสวดบูชาตามขั้นตอนต่อไปนี้ครับ
คาถาบูชาคด (ฉบับที่นิยมใช้กันทั่วไป)
ให้ตั้งจิตให้เป็นสมาธิ ถือคดไว้ในมือหรือวางไว้บนพานหน้ารูปพระ แล้วเริ่มต้นสวด
(ขั้นที่ 1) ตั้งนะโม 3 จบ “นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ” (3 จบ)
(ขั้นที่ 2) สวดคาถาหัวใจธาตุ (เพื่อปลุกธาตุในองค์คด) “นะ มะ พะ ทะ” (ภาวนา 3, 7 หรือ 9 จบ)
- (นะ คือ ธาตุน้ำ, มะ คือ ธาตุดิน, พะ คือ ธาตุไฟ, ทะ คือ ธาตุลม)
(ขั้นที่ 3) สวดคาถาบูชา “สิโร เม พุทธะเทวัญจะ นะลาเต พรหมะเทวะตา หะทะเย นารายะกัญเจวะ ทะเวหัตเถ จะ ปะระเมสุรา ปาเท วิษณุกัญเจวะ สัพพะกัมมา ประสิทธิ เม” (1 จบ)
จากนั้นสวดบทนี้ตาม “พุทธัง บังจักขุ ธัมมัง บังจักขุ สังฆัง บังจักขุ นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะภะกะสะ” (3 จบ)
(ขั้นที่ 4) อธิษฐานจิต หลังจากสวดคาถาจบแล้ว ให้ตั้งจิตอธิษฐานขอพรในสิ่งที่ดีงาม เช่น ขอให้คุ้มครองป้องกันภัย, ขอให้มีเมตตามหานิยม, ขอให้การงานราบรื่น เป็นต้น โดยคำอธิษฐานควรเป็นไปในทางที่ถูกที่ควร

ข้อควรรู้และหัวใจสำคัญในการบูชาคด
- ศรัทธาคือสิ่งสำคัญที่สุด: อานุภาพของเครื่องรางจะบังเกิดผลได้เต็มที่ก็ต่อเมื่อผู้ครอบครองมีความศรัทธาอย่างแท้จริง
- รักษาศีล: ผู้ที่บูชาของกายสิทธิ์ควรตั้งมั่นอยู่ในศีล 5 เป็นอย่างน้อย เพราะเชื่อว่าพลังของคดจะคุ้มครองผู้ที่เป็นคนดีมีศีลธรรม
- ทำบุญอุทิศส่วนกุศล: ควรทำบุญตักบาตรหรือสร้างกุศลต่างๆ แล้วอุทิศส่วนบุญให้กับเทพเทวดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่รักษาในองค์คดนั้นๆ เพื่อเป็นการเพิ่มพลังและแสดงความกตัญญู
โดยสรุปแล้ว แม้จะไม่มีคาถาเฉพาะเจาะจง แต่การใช้บทสวดสรรเสริญคุณพระรัตนตรัยและหัวใจธาตุ ก็ถือเป็นวิธีมาตรฐานและทรงพลังที่สุดในการบูชาคดและของกายสิทธิ์จากธรรมชาติทุกชนิดครับ