เรื่องหมอนนกกระแต หรือหมอนนกกระแตแต้แว้ดนี่ผมเองก็เพ่งได้ยินได้ฟังได้อ่านว่ามี พอค้นใน Google นอกจากหมอนนกกระแตแต้แว้ด ยังมีหมอนนกกระเต็น หมอนนกคุ้มอีก
เรื่องหมอนนกนี้ คิดอยู่ตั้งนานว่าจะเขียนอย่างไรดี ก็คงไม่แคล้วเขียนตาม ๆ กันนะครับ เพราะผมเองก็ไม่เคยได้เห็น แต่ในทางที่เป็นไปได้ก็มี การที่นกจะมีก้อนหินอยู่ในรังนก นกบางตัวอาจจะชื่นชอบในก้อนหินก็เป็นได้ หรืออาจจะนำก้อนหินมาใส่ในรังเพื่อหนุนนอน แต่ไม่ใช่หนุนแบบนอนหงายนะ ใช้กายหนุนเพื่อปรับอุณภูมิในร่างกายของนกเอง หรือนกบางตัวอาจจะหาก้อนหินที่คล้ายกับไข่ของตนเองเพื่อมาหลอกล่อนกตัวอื่นที่ใหญ่กว่าโฉบไปเป็นอาหาร นี่ผมก็เดาล้วน ๆ ครับ สำหรับหมอนนกที่มีคนพูดถึงมากที่สุดก็ได้แก่หมอนนกแต้แว้ด หรือ นกกระแตแต้แว้ด หรือ นกต้อยตีวิด หรือ นกกระต้อยตีวิด คือนกชนิดเดียวกันนะครับ แต่เรียกหลายชื่อ
ที่มาของหมอนนกแต้แว้ด
เรื่องนกแต้แว้ดนอนหงายนี้ มีปรากฏในคัมภีทางพระพุทธศาสนา (คำว่าปรากฏในคัมภีร์พระพุทธศาสนานี้ ไม่ได้ความต้องเป็นพระไตรปิฎก หรือไม่ได้หมายความว่าพระพุทธเจ้าตรัสไว้ หรือพระอรหันต์รูปใดรูปหนึ่งกล่าวไว้ หรือว่าผู้รจนาเชื่ออย่างนั้น แต่ผู้รจนาเก็บความเชื่อของคนท้องถิ่นมาเล่า คำพูดของใครบางคนแล้วยกขึ้นมาเป็นตัวอย่างไว้ ไม่ได้เกี่ยวกับเชื่อหรือไม่เชื่อ ไม่ได้เกี่ยวกับว่าจริงหรือไม่จริง) อรรถกถา มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์ เทวทหวรรค ปัญจัตตยสูตร ความว่า “……..เหมือนสัตว์ ๔ จำพวกเหล่านี้ ย่อมกลัวต่อสิ่งที่ไม่ควรกลัว (ดังมีที่มา) ว่า ข้าแต่มหาราช สัตว์ ๔ จำพวกแล ย่อมกลัวต่อสิ่งที่ไม่ควรกลัวแล ๔ จำพวกไหนบ้าง ข้าแต่มหาราช ไส้เดือนแลย่อมไม่กินดิน เพราะกลัวว่าแผ่นดินจะหมด ข้าแต่มหาราช นกกระเรียนย่อมยืนเท้าเดียว (บนแผ่นดิน) เพราะกลัวว่าแผ่นดินจะทรุด. ข้าแต่มหาราช นกต้อยตีวิดนอนหงาย เพราะกลัวว่าฟ้าจะถล่ม. ข้าแต่มหาราช พราหมณ์ผู้ประพฤติธรรมแลย่อมไม่ประพฤติพรหมจรรย์ (คือต้องมีภรรยา) เพราะกลัวว่าโลกจะขาดสูญ ฉะนั้น.
คนไทยแต่โบราณอาจจะถือเอาข้อความนี้ คือ “… นกต้อยตีวิดนอนหงาย เพราะกลัวว่าฟ้าจะถล่ม…” จึงเพิ่มเสริมเรื่องเข้ามาว่า นกแต้แว้ดมีหมอนสำหรับหนุนเพื่อที่จะนอนหงาย แต่อันที่จริงนกแต้แว้ดนั้นไม่ได้นอนหงาย นอนราบปกตินี่แหล่ะครับ นกแต้แว้ดก็นอนหมอบบนพื้นราบแบบธรรมดานี่แหล่ะ คืนไหนที่มันไม่นอน มันก็ออกหากิน โดยเฉพาะในคืนเดือนหงายเราอาจจะเจอมันกลางทุ่งเป็นฝูงหรือหลาย ๆ ฝูงก็มี เวลามันทำรังมันก็จะทำรังบนพื้น วางไข่กับพื้นดินเลอะ ๆ เพื่อพรางตัวให้กลมกลืนกับพื้นดิน หากใครเข้าใกล้รังขิงมัน พ่อแม่มันก็จะทำท่าดิ้นชักไปมาเหมือนกับว่าบาดเจ็บหนักหรือตาย เพื่อล่อให้เราเดินตามมันไป จะได้ห่างจากลูกของมันหรือไข่ของมันที่อยู่กับพื้นดิน พอเราเดินตามพ่อแม่มันไป พอใกล้จะถึงตัว พ่อแม่มันก็พลันบินหนี พอเรากลับมาหารังของมันก็อาจจะหาไม่เจอเสียแล้ว ลูกของมันเองก็เหมือนกัน หากหนีไม่ทันก็จะเล่นแกล้งนอนหงายตาย ตัวแข็งทื่อเพื่อหลอกเรา ด้วยเหตุนี้ด้วยหรือเปล่าไม่รู้ คนโบราณจึงคิดว่ามันนอนหงาย
นิสัยของนกแต้แวดปากเปราะ เมื่อเจอคนหรือสงสัยอะไรเข้า มันก็จะร้องเตือนภัยกันทันที เสียงของมันดังแสบแก้วหูเป็นอย่างมาก นายพรานหรือสัตว์ทั้งหลายอาศัยเสียงของนกแต้แว้ดนี่แหล่ะเป็นเครื่องเตือนภัยให้รู้ความเคลื่อนไหวของศรัตรู เขียนถึงตอนนี้แล้วทำให้นึกถึงนกม็อกกิ้งเจย์ ในภาพยนต์เรื่อง The Hunger Games
หมอนนกแต้แว้ดในตำนานความเชื่อ
มีเรื่องเล่าต่อ ๆ กันมาแต่โบราณว่า นกกแต้แว้ดจะนอนหงายท้อง เอาขาชี้ฟ้า เหมือนประหนึ่งว่าใช้เท้ายันฟ้าไว้ สาเหตุที่นกแต้แว้ดต้องนอนหงายเอาเท้าชี้ขึ้นฟ้านั้น เพราะมันกลัวฟ้าผ่าฟ้าถล่มลงมา จึงต้องนอนในลักษณะแบบนี้ มันจึงต้องมีหมอนสำหรับหนุน ว่ากันว่าเป็นหมอนทอง (หมอนโชคลาภ หมอนมีค่าดังทอง ?) หากใครได้หมอนนี้ไปก็จะร่ำรวย (ถ้าเป็นหมอนทองจริงก็คงจะรวย หรือถ้ามันมีจริงก็ต้องรวยแน่) หมอนนกแต้แว้ด จะเป็นก้อนเป็นหินธรรมชาติ (ตอนแรกว่าเป็นทอง ยังไงนิ) นกแต้แว้ดจะเลือกสรรหินมาอย่างดี เพื่อหนุนนอนหงายแบบคนนอน เป็นเหมือนของใช้ประจำตัวของมัน เป็นของรักของหวงยิ่งนัก แม้แต่เวลามันเดินมันก็จะเอาหมอนนี้เหน็บหัวปีกของมันไปด้วย เวลาบินมันก็จะคาบหมอนนี้ไปด้วย การจะหาพบเห็นหรือขโมยหมอนของมันมานั้นเป็นเรื่องยาก
มีผู้ให้ความรู้ว่า หมอนนกแต้แว้ดนั้น จะเป็นลักษณะแบน มีน้ำหนักเบากว่าหินทั่วไปที่มีลักษณะเดียวกัน กลางวันเย็น กลางคืนอบอุ่น
อิทธิคุณหมอนนกแต้แว้ด
เมื่อคนรุ่นเก่าก่อนเมื่อได้หมอนมันมาก็จะนำไปให้ผู้ที่เก่งด้านวิทยาคมทำการปลุกเสกให้เป็นมหาอุด ใช้ผ้าห่อพกติดตัว หรือถักด้วยลวดเงินลวดทองแดงแขวนติดตัวไว้ เชื่อว่ากันฟ้าผ่า เป็นมหาอุด เป็นเมตตามหานิยม ปรับสมดุลร่างกาย ปรับสมดุลที่อยู่อาศัยให้อยู่ร่มเย็นเป็นสุข ไม่หนาวไม่ร้อนเกินไป ใช้เตือนภัยให้แคล้วคลาดปลอดภัย
นอกจากคนโบราณจะมีความเชื่อเรื่องนกกระแตแต้แว้ดมีหมอนนอนหงายแล้ว บางแห่งมีความเชื่อว่า หากใครพบนกกระแตแต้แว้ดจับบนกิ่งไม้ใด ให้ตัดกิ่งไม้นั้นมาไว้ จะเป็นกิ่งไม้นำโชค อาจจะนำโชคจริง ๆ แหล่ะครับ และคงหายากมาก ๆ หรือเป็นไปไม่ได้ เพราะว่าตีนของนกกระแตแต้แว้ดนั้นมี 4 นิ้ว นิ้วหลังเป็นติ่งเล็ก อยู่สูงกว่านิ้วอื่น จึงทำให้มันเกาะกิ่งไม้ไม่ได้