
คาถากำกับตะกรุดนะผูกจิต(หลงยันเงา)
พึงสำรวมจิต ตั้งนะโมขึ้น 3 จบ แล้วจึงว่าพระคาถาดังนี้
“โอนละลวย มหาละลวย เห็นหน้ากูก็ให้งวยงง จงใจรักทักปราศรัยเห็นหน้ากูอยู่มิได้ เหมือนช้างรักงา เหมือนปลารักน้ำ ไม้อยู่ในป่ายังรู้ล้ม ผมอยู่บนหัวยังลืมเกล้า ข้าวอยู่ในคอยังลืมกลืน ไม่เห็นหน้ากูก็ให้สะอีกสะอื้น ทุกเพลาราตรี อิติกัณหา อิติชาลี อิติชูชะโก นะเมตตา โมกรุณา พุทปราณี ธายินดี ยะเอ็นดู นะกรุณา นะมะพะทะ จิตตัง เอหิจิตตัง ปิยังมะมะ” (ภาวนา 3,5,9จบ หรือจนเกิดสมาธิแน่วแน่)
**ตัวพระคาถา ถ้าจะให้ขลัง ควรหัดท่องจำให้ได้คล่องๆ โดยไม่ต้องเปิดใบดูคาถา เพื่อเป็นการสำรวมจิตให้เป็นเอกัคตารมณ์เป็นหนึ่งเดียว ไม่สอดส่ายไปทางอื่น หากสวดปลุกจนมีสนาธิแน่วแน่แล้ว เกิดอาการขนลุกขนชัน หรือหมือนดั่งตัวตัวตะกรุดหนุนองได้ จึงหยุดบริกรรมพระคาถา แล้วจึงอธิษฐานเอาตามปรารถนาเถิด มีช้านานจะสำเร็จเป็นผลสมใจ
ตะกรุดผูกใจนี้ อธิษฐานได้ทั้งให้เกิดความเมตตา เกิดมหาละลวย เกิดผูกใจรัก เกิดปิยะวาจา หรือแม้แต่กระทั่งติดต่อค้าขายเจรจาก็ล้วนสำเร็จได้ด้วยแรงครูวิชา