
คาถาบทนี้ตำราเก่าเรียกว่าคาถาพระบารมีกางทัศ หรือที่เราเรียกกันว่า พระคาถาบารมี 30 ทัศ
พระบารมีกางทัศ หรือ พระคาถาบารมี 30 ทัศ
อิติปาระมิตาติงสา อิติสัพพัญญูมาคะตา
อิติโพธิมนุปปัตโต อิติปิโสจะเตนโม
คำแปลพระคาถาบารมีสามสิบทัศ
อิติปาระมิตาติงสา (ขออำนาจแห่งบารมี 30 ทัศ)
อิติสัพพัญญูมาคะตา (ขออำนาจแห่งพระสัพพัญญู)
อิติโพธิมนุปปัตโต (ขออำนาจแห่งโพธิญาณ)
อิติปิโสจะเตนโม (ด้วยอำนาจแห่งคำขอทั้งหมดนี้ ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า)
พุทธคุณ และ วิธีใช้ พระคาถาบารมี 30 ทัศ
พระคาถาบารมี ๓๐ ทัศนี้มีที่มาว่า เมื่อพระพุทธทรงเข้าผจญกับพระยามาร มารพ่ายแพ้ถอยหนีไป ด้วยอาศัยพระบารมีที่พระองค์ทรงบำเพ็ญมาด้วยดีแล้ว
คาถานี้มีอานุภาพมากมีคุณมากมาย
เสกข้าวกินทุกมื้อเป็นประจำคงกระพันชาตรี
ภาวนามั่นไว้สรรพศัตรูทำร้ายเรามิได้เลย แม้จะเข้าสนามรบก็แคล้วคลาดภัยนานาประการ
เมื่อจะเดินทางไปยังทิศทางใดจงบ่ายหน้าสู่ทิศนั้น ยืนอึดใจภาวนา ๓ ที แล้วจงไปเถิดคุ้มกันภัยอันตรายได้ทุกประการ ศัตรูทำร้ายเราไม่ได้
เสกน้ำล้างหน้าทุกเช้าทำให้ราศีดีเป็นที่เมตตาแก่ชนทั้งหลาย
ภาวนาต่อสู้กับศัตรูแคล้วคลาดอาวุธต่อทั้งปวง
เข้าที่อับจนตั้งจิตภาวนาไว้จะปลอดภัย
คาถานี้มีคุณอนันต์ ผู้มีปัญญาหาวิธีใช้ตามความปรารถนา
คำว่า บารมี ๓๐ ทิศ ก็คือบารมี ๑๐ ประการนั้นเอง ได้แก่ ทาน ศีล เนกขัมมะ สัจจะ วิริยะ ปัญญา ขันติ เมตตา อธิษฐาน อุเบกขา โดยแต่บารมีแยก เป็น ๓ ระดับ ได้แก่ บารมี อุปบารมี ปรมัตถบารมี เช่น ทานบารมี อุปบารมี ปรมัตถบารมี, สีลบารมี สีลอุปบารมี สีลปรมัตถบารมี แบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนครบทั้ง ๑๐ บารมี จึงรวมเป็นบารมี ๓๐
ที่มา : หนังสือ ตำรา ไสยศาสตร์ ของ นายอนันต์ คณานุรักษ์ พิมพ์แจกในพระราชทานเพลิงศพ พ.ต.หลวงสุทธิสรสำแดง ต.ม. ๑ มิถุนายน ๒๕๑๒