คาถาเมตตามหานิยม
การบริกรรมพระคาถา หรือมนต์บทใด ๆ ก็ตาม ใจของผู้สวดนั้นต้องเป็นสมาธิ สงบเยือกเย็นก่อน หากไม่เป็นสมาธิแล้วไซร้ย่อมไม่ได้ผลเท่าที่ควร หากใจเราร้อนก็เปรียบเสมือนกับการนำน้ำร้อนไปรดต้นไม้ รดทุกวันต้นไม้นั้นย่อมจะเฉาตาย หากใจเราสงบเยือกเย็นแล้วไซร้ ก็เปรียบเสมือนกับการนำน้ำเย็นไปรดต้นไม้ ต้นไม้นั้นย่อมเจริญงอกงามตามลำดับ ผลิดอกออกผลให้เราได้ใช้สอยประโยชน์ตามต้องการฉันนั้น
ในสมัยโบราณนั้นคนส่วนใหญ่จะมีคาถาไว้เพื่อป้องกันตัว เวลาเข้าป่าดงพงไพร หรือเวลามีศึกในบ้านในเมือง ซึ่งจะว่าไปแล้วคาถานั้นก็จะมีหลากหลายแขนงด้วยกัน เช่น คาถาเมตตามหานิยม คาถาคงกระพันชาตรี คาถาป้องกันภัย คาถารักษาโรค คาถาดำดินเหินฟ้า เป็นต้น คาถาเมตตามหานิยมที่นำมาเสนอให้ท่านผู้อ่านในวันนี้ เป็นของหลวงปู่ขาว อนาลโย พระมหาเถระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ แห่งวัดถ้ำกลองเพล อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู ผู้ใดหมั่นสวดบริกรรมภาวนาเป็นประจำ จะเป็นที่เมตตารักใคร่แก่มหาชนทั่วไปทั้งใหญ่น้อย ผีร้ายทั้งหลายไม่มากล้ำกราย และเป็นพระคาถาป้องกันภัยต่างๆ อีกด้วย ให้ภาวนาพระคาถาหลังไว้พระสวดมนต์ทุกเช้าค่ำ ว่า ๓ จบ ดังนี้
พุทธะเมตตัง จิตตังมะมะ พุทธะพุทธานุภาเวนะ
ธัมมะเมตตัง จิตตังมะมะ ธัมมะธัมมานุภาเวนะ
สังฆะเมตตัง จิตตังมะมะ สังฆะสังฆานุภาเวนะ
มนต์คาถา มีไว้ก็ดีกว่าไม่มี แต่ที่สำคัญเราต้องทำตนให้สอดคล้องกับคาถานั้น ๆ อย่างเช่นคาถาเมตตามหานิยมนี้ อยากให้คาถามีอานุภาพมาก เราก็ต้องทำตนให้เป็นคนมีเมตตา เมตตาต่อตนเอง เมตตาต่อผู้อื่น ๆ แล้วเมตตามหานิยมจากคนอื่นก็จะมาสู่เราตามกำลังแห่งเมตตานั้น