ใครที่ทำงานโดยใช้สมองเป็นหลัก อย่างเช่นอาชีพนักเขียนอย่างแก้วใสหรือนักคิด นักวางแผน นักการตลาดและอาชีพอื่นๆ เป็นต้น ล้วนแล้วแต่ต้องใช้พละกำลังสมองและต้องมีไอเดียในการทำงานอยู่เสมอ เพื่อให้ได้ผลงานที่สดใหม่ มีมุมมองใหม่ๆ ในเนื้องาน ทำให้ผลงานของเรามีคุณภาพ แตกต่างและไม่ซ้ำแบบใคร แต่หากเรามีปัญหาเรื่องสมองตัน คิดงานอะไรก็ตื้อๆ ตันๆ อยู่เสมอ เห็นทีคงต้องหันมาใช้ 4 ทิปส์ตามแก้วใสดังนี้กันซะแล้วค่า
1. ทำกิจกรรมลับสมอง
หาวิธีเพิ่มรอยหยักในสมองด้วยกิจกรรมลับสมองที่คุณชื่นชอบกันดูบ้างสิคะ แก้วใสแนะนำค่ะ ไม่ว่าจะเป็นปริศนาอักษรไขว้ ต่อคำครอสเวิร์ดยิ่งเป็นคำศัพท์ภาษาอังกฤษด้วยแล้ว สมองเราจะกระตือรือร้นในการคัดสรรคำใหม่ๆ ตลอดเวลาเพื่อให้ตัวเราเป็นผู้ชนะ แก้วใสเคยแข่งต่อคำครอสเวิร์ดที่โรงเรียนจัดแข่งจนชนะเลิศมาแล้วด้วยนะ พูดแล้วก็ภาคภูมิใจตัวเองจัง นอกจากนี้ การเล่นเกมส์ต่อจิ๊กซอว์ภาพก็มีส่วนช่วยกระตุ้นพัฒนาและเพิ่มรอยหยักให้สมองด้วยเช่นเดียวกัน การต่อจิ๊กซอว์เราต้องอาศัยช่วงเวลาเงียบๆ มีสมาธิกันสุดๆ เราจึงจะต่อได้สำเร็จรวดเร็ว ลองหาเริ่มจากภาพจิ๊กซอว์จำนวนคำน้อยๆ สัก 500 คำ จากนั้นเมื่อต่อเก่งแล้วก็เปลี่ยนมาต่อแบบ 1,000 คำ รับรองค่ะว่าสมองคุณจะมีรอยหยักจนกลายเป็นนักอัจฉริยะได้แบบไม่ยากเย็นเลยค่ะ
2. ปล่อยใจให้สบาย ไม่เครียดกังวล
เชื่อไหมว่าการที่คนเราทำงานไม่ได้ ใช้สมองคิดงานหรือไอเดียดีๆ ไม่ออก ส่วนหนึ่งก็เนื่องจากสาเหตุของความเครียดนั่นเอง เพราะฉะนั้น ลองสังเกตตัวเองกันดูนะคะ หากคุณมีความเครียดสะสมกันอยู่บ่อยๆ คงต้องรีบหาทางกำจัดกันบ้างแล้วล่ะ อย่ามัวแต่เอาความเครียดมาเก็บสะสมเอาไว้ ลองหาเรื่องราวดีๆ ผ่อนคลายทำ เราจะได้รู้สึกปล่อยวาง มีความสุขมากขึ้น สารแห่งความสุขหลั่งออกมาเมื่อไร สมองของเราก็จะทำงานปกติดีขึ้น คิดอะไรก็ราบรื่นตลอดจนมีไอเดียในการทำสิ่งต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นได้อีกด้วยค่ะแก้วใสเองเคยเป็นบ่อยมากเมื่อไรที่เครียด สมองมักคิดงานไม่ได้ ไอเดียต่างๆ ตันหมด แต่เมื่อไรที่ใจแก้วใสปล่อยวางโดยที่แก้วใสหากิจกรรมที่ชอบทำผ่อนคลาย เช่น ออกกำลังกาย ฟังเพลงที่ชอบ นอนพักผ่อน สวดมนต์หรือนั่งสมาธิเบาๆ เงียบๆ เพียงเท่านี้ก็รู้สึกว่าจิตใจเราไม่เครียดแล้วค่ะ เพราะฉะนั้น ใครจะลองนำวิธีนี้ไปใช้กันดู แก้วใสไม่ห้ามแน่นอน รับรองคุณจะมีสมองไบรท์ สดใส คิดอะไรก็ราบรื่นทั้งวันชัวร์
3. ออกกำลังกายอยู่เสมอ
นักวิทยาศาสตร์ได้ลงความเห็นตรงกันส่วนใหญ่ค่ะว่า การที่เราออกกำลังกายวันละ 20-30 นาทีนั้น ทำให้สมองมีปริมาณออกซิเจนมากขึ้น และออกซิเจนนี่แหละที่เป็นตัวลำเลียงสารอาหารต่างๆ ที่เราทานเข้าไปมาพร้อมกับเลือด เมื่อเราออกกำลังกายระบบการไหลเวียนเลือดจะสูบฉีดดีขึ้น แล้วแบบนี้จะไม่ให้สมองเราไบรท์อยู่ตลอดเวลาได้อย่างไรจริงมั้ยละคะ
4. นอนพักผ่อนให้เพียงพอ
สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยคือ การนอนพักผ่อนอย่างเพียงพอนั่นเองค่า เมื่อไรที่เราอดหลับอดนอนหรือนอนเช้า การันตีได้เลยว่าไม่เพียงแค่ผิวหน้าโทรม ตาคล้ำเป็นหมีแพนด้า ผิวพรรณไม่สดใสสวยเปล่งปลั่งแล้ว สมองของเรายังได้รับผลกระทบไปเต็มๆ อีกด้วยนะคะ เพราะเวลาคิดงานอะไรก็เบลอได้ตลอดทั้งวัน ทำให้ประสิทธิภาพของการทำงานต่ำลงโดยอัติโนมัติ ดังนั้น ห้ามทำอีกเด็ดขาดกับพฤติกรรมการนอนดึกหรือนอนไม่พอ ถ้าเพื่อนๆ ทำได้ แก้วใสเชื่อว่าเราทุกคนจะต้องมีพละกำลังสมองที่กระปรี้ ประเปร่าสดใส คิดอะไรก็ไหลลื่น มีไอเดียปิ๊งเด็ดๆ ในระหว่างวันทำงานที่น่าประหลาดใจกันอย่างแน่นอนจ้า
สุขภาพร่างกายที่แข็งแรงย่อมจำเป็นแน่นอนที่จะต้องมีสุขภาพสมองที่เปี่ยมไปด้วยพลังในการคิด วางแผนและจัดสรรสิ่งต่างๆ ได้อย่างลงตัวคล่องแคล่ว ใครที่มีปัญหาด้านสมองอ่อนล้า คิดอะไรไม่ออก เห็นทีไม่ทำตามที่แก้วใสแนะนำคงไม่ได้กันแล้วนะจ๊ะ