หากเคยไปเที่ยวที่บึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ คงพอจะเห็นศาลของปู่อือลือนาคราชตั้งอยู่ใกล้กับวัดสว่างวารี ตำบลบึงโขงหลง อำเภอบึงโขงหลง จ.บึงกาฬ ซึ่งปู่อือลือเป็นพญานาคประจำบึงโขงหลงแห่งนี้ บึงใหญ่ที่ประชาชนในเขตใกล้เคียง ได้ใช้ในการประกอบอาชีพเกษตรกรรม และเพื่ออุปโภคบริโภค โดยเคยมีตำนานของมนุษย์มีคู่ครองเป็นพญานาค ที่ล่ำลือกันมานาน แล้วตำนานของปู่อือลือนาคราชนั้นมีความเป็นมาอย่างไร เหตุใดพญานาคและคนจึงมีความรักต่อกันได้ เราจะพาคุณไปติดตามรายละเอียดที่มาที่ไปกันดังนี้ค่ะ
เมืองรัตพานครเมืองของปู่อือลือนาคราช
บริเวณบึงโขงหลงของบึงกาฬแห่งนี้ เป็นที่ตั้งเดิมของเมือง รัตพานคร ปกครองนครโดย พระอือลือราชา หรือองค์เจ้าปู่สุริยะวงศ์ชัยนาคราชา มีมเหสีชื่อนางแก้วกัลยา มีพระธิดาชื่อพระนางเขียวคำ ซึ่งต่อมาได้อภิเษกสมรสกับเจ้าสามพันตา มีพระโอรสชื่อ เจ้าชายฟ้ารุ่ง เนื่องจากขณะประสูติได้เกิดปาฏิหาริย์ คือ ฟ้าสว่างไสว ลักษณะคล้ายตอนฟ้ารุ่ง จึงทำให้ได้ชื่อนั้น เจ้าชายฟ้ารุ่งเป็นบุรุษที่มีรูปงาม มีความเฉลียวฉลาด และรอบรู้ในเรื่องต่างๆ เมื่อเจริญวัยได้อภิเษกสมรสกับพญานาค
การอภิเษกสมรสของคนกับพญานาค
เรื่องราวและกิตติศัพท์ในเรื่องรูปงาม และความเฉลียวฉลาดของเจ้าชายฟ้ารุ่ง ไม่ได้ล่ำลือกันเฉพาะในเมืองมนุษย์เท่านั้น แต่ยังเลื่องลือไปถึงเมืองบาดาล และได้รู้ถึงพระนางนาครินทรานี ซึ่งเป็นธิดาของพระยานาคราชแห่งเมืองบาดาล จึงจำแลงแปลงกายของตนขึ้นมายังเมืองมนุษย์ เพื่อมาจัดงานอภิเษกสมรส กับเจ้าชายฟ้ารุ่งหรือฟ้าฮุ่ง และมีงานฉลองสมรสอย่างมโหฬาร ทั้งในส่วนเมืองบาดาล และเมืองมนุษย์ในเมืองรัตพานครเป็นเวลา 7 วัน 7 คืน เป็นการกระชับสัมพันธไมตรี ระหว่างพญานาคราชกับพระเจ้าอือลือราชา โดย พญานาคราชได้มอบเครื่องราชกุธภัณฑ์ เป็นของมีค่าประจำตระกูลให้กับพระยาอือลือชาด้วย
นาคกับคนมิอาจมีผู้สืบเชื้อสายสกุลได้
เมื่ออยู่กินด้วยกันมากว่า 3 ปี ก็ไม่สามารถมีเชื้อสายเพื่อสืบสกุลได้ เนื่องจากธาตุมนุษย์กับนาคไม่เหมือนกัน ทั้งเจ้าชายฟ้ารุ่งและพระนางนาครินทรานี จึงเศร้าเสียใจมาก กระทั่งในเวลาต่อมาพระนางนาครินทรานีได้เกิดล้มป่วยลง ทำให้ฤทธิ์มนต์เริ่มเสื่อมคลาย ร่างกายที่เป็นมนุษย์ ก็ได้กลายไปเป็นพญานาคตามเดิม เมื่อนางสนมมาพบเข้า เรื่องนี้จึงแพร่สะพัดไปทั่วนครรัตพานคร แม้ว่าพระนางนาครินทรานี จะร่ายมนต์เพื่อให้กลับกลายเป็นมนุษย์ตามเดิม แต่พระเจ้าอือลือราชาและประชาชนก็ไม่พอใจ จึงได้ขับไล่พระนางกลับสู่เมืองบาดาล โดยแจ้งให้พญานาคราชมารับตัวกลับไป ซึ่งก่อนจะกลับเมืองบาดาลพญานาคราช ได้ทวงเครื่องราชกุธภัณฑ์ของตระกูลคืน แต่พระเจ้าอือลือราชาไม่สามารถนำคืนได้ เพราะได้นำไปแปลงเป็นสมบัติอื่น ๆ ของนครรัตพานครแล้ว
พญานาคราชโกรธพระเจ้าอือลือราชา
เมื่อพญานาคราชไม่ได้รับเครื่องราชกุธภัณฑ์ของตระกูลคืนก็โกรธมาก และประกาศว่าจะทำลายเมืองรัตพานคร และจะเหลือเพียงวัดเอาไว้ 3 วัดเท่านั้น หลังจากที่ได้กลับไปสู่เมืองบาดาลแล้ว เมื่อถึงเวลากลางคืน พญานาคราช ได้ยกไพร่พลมาถล่มเมืองรัตพานคร แม้ประชาชนก็ไม่มีใครรอดพ้นจากฤทธิ์นาคาได้ พอพระนางนาครินทรานีทราบข่าว จึงขึ้นมาตามหาเจ้าชายฟ้ารุ่ง จนถึงแม่น้ำสงคราม เชื่อว่าการค้นหาครั้งนั้น ทำให้เกิดทางน้ำยาวชื่อห้วยน้ำเมา (ฮูเมา) แต่ค้นหาอย่างไรก็ไม่พบ จึงกลับลงไปเมืองบาดาล
เมืองรัตพานครถล่มกลายเป็นบึงน้ำ
หลังจากที่เมืองรัตพานครได้ถล่มแล้ว จึงกลายเป็น บึงหลงของ เมื่อนานเข้าคนจึงพูดเพี้ยนไปเป็นของหลง และชื่อโขงหลงอย่างในปัจจุบัน เมื่อเมืองถล่มจึงกลายเป็นผืนน้ำทั้งหมด แต่เหลือไว้เพียง 3 เกาะ ซึ่งเป็นที่ตั้งของวัด 3 วัด ได้แก่ วัดดอนแก้ว หรือวัดแก้วฟ้า วันดอนโพธิ์ หรือวัดโพธิ์สัตว์ และ วัดดอนสวรรค์ หรือวัดแดนสวรรค์ ซึ่งได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว อันขึ้นชื่อของบึงโขงหลงแห่งนี้ ปัจจุบันนอกจากนักท่องเที่ยว จะเดินทางมาไหว้เคารพสักการะ และขอพรที่ตำหนักปู่อือลือนาคราชอย่างต่อเนื่องแล้ว ยังได้มีโอกาสไปเที่ยวสถานที่ที่ใกล้เคียงของที่นี่ด้วย ความรักเป็นสิ่งที่มิอาจห้ามใจได้ ไม่ว่าภพภูมิหรือสถานะจะแตกต่างกันแค่ไหน หากเกิดความรักขึ้นแล้ว คงมิอาจห้ามใจได้ เหมือนอย่างพระนางนาครินทรานีและเจ้าชายฟ้ารุ่ง แม้จะรู้อยู่กลาย ๆ แล้วว่านาคกับคนจะอยู่ด้วยกันได้อย่างไร แต่ก็มิอาจฝืนความรู้สึกในใจได้ กระทั่งแต่งงานอยู่กินด้วยกัน นำมาซึ่งโศกนาฏกรรมและความล่มสลายของนครรัตพานคร อาจจะตรงกับคำพูดที่ว่า เป็นคู่กันแล้วไม่แคล้วกันนั่นเอง
ในส่วนของตำนานบึงโขงหลง มีความแตกต่างกันออกไปในรายละเอียด ผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วย