คาถาเสกน้ำล้างหน้า ป้องกันฟันผุ
โอมภูผาศิลาแลง ขอให้ฟันกูแข็งดังหินผา นะโมพุทธายะ ยะธาพุทโมนะ
คาถานี้ป้องกันฟันผุนี้ ผมนำมาจากเว็บไซต์ watthakhanun.com ซึ่งโพสต์โดยผู้ใช้ชื่อว่า ธมกร เธอเล่าว่าเป็นคาถาของปู่เธอ ซึ่งปู่ของเธอก็ได้มาจากอาจารย์ของปู่อีกที ปู่เธอเล่าว่าเจ้าของคาถาอายุจะร้อยปีอยู่แล้วแต่ฟันยังเต็มปากไม่มีซี่ไหนหลุดออกไป หรือแม้แต่ตัวเธอเอง ท่องคาถามา 20 กว่าปีแล้ว ฟันไม่ผุ แม้จะเคยไปหาหมอฟันแต่ก็แค่หินปูนที่โอบฟันหลุด แต่ฟันยังแข็งแรงดี
คาถาไม่จำเป็นต้องเป็นคำที่เข้าใจยาก ไม่จำเป็นต้องเป็นภาษาที่แปลไม่ได้หรือท่องยาก คาถาที่คนไทยใช้แต่โบราณโดยมากยึดพระรัตนตรัยเป็นหลัก พุทโธ ธัมโม สังโฆ หรือ นะโมพุทธายะ แล้วจึงประกอบด้วยความมุ่งหมายหรือจุดประสงค์ที่จะให้เกิดขึ้น อย่างคาถาที่เราได้ยินบ่อย ๆ นะเมตตา โมกรุณ พุทปราณี ธายินดี ยะเอ็นดู หรือแม้แต่คาถาเสกน้ำล้างหน้า ป้องกันฟันผุก็เช่นกัน ขึ้นต้นด้วยสิ่งที่ตนเองต้องการให้เป็นไป ตามด้วย นะโมพุทธายะ ยะธาพุทโมนะ ซึ่งหมายถึงพระพุทธเจ้าทั้ง 5 พระองค์
ถามว่าคาถาจะศักดิ์สิทธิ์ไหม ส่วนตัวผมเชื่อว่าศักดิ์สิทธิ์ได้แน่นอน แต่ก็ขึ้นอยู่กับผู้ใช้ด้วยว่ามีสิ่งอื่นหนุนด้วยไหม ความเคารพศรัทธาซึ่งจะตามมาด้วยอ่อนน้อมถ่อมตน ความตั้งใจทำ ส่งผลให้เกิดสมาธิแน่วแน่ สมาธิแน่วแน่มีผลทำให้คาถาศักดิ์สิทธิ์ได้ แต่อย่างไรก็ตามต้องอาศัยการทำฝึกฝน การทำบ่อย ๆ ทำอย่างต่อเนื่อง ทำให้เป็นเครื่องอยู่ของจิตใจ ไม่ใช่ทำหยุด ๆ หย่อน ๆ ศีลคือความประพฤติทางกายวาจาก็เป็นเรื่องสำคัญที่หนุนคาถาหรือสิ่งที่เราทำให้มีความศักดิ์สิทธิ์ หากคุณเป็นคนที่ชอบโกหกหลอกลวงคนอื่น ก็ยากที่จะใช้คาถาได้ผล สรุปต้องเป็นคนมีบุญ บุญเกิดจากทาน ศีล สมาธิ สติปัญญานั่นแหล่ะ อ่านเพิ่มเติมได้ที่คาถาก็เหมือนคำพูด เป็นไปตามเจตนาของเราที่ได้กล่าวออกไป