ต่านานได้ถึงพญาไก่แดงว่าในพระพุทธเจ้าพระนามพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากัสสปะ ในคราวนั้น พญาไก่แดงตนหนึ่งได้ใช้ความเพียรในการเก็บฟางข้าวมาทำที่ประทับรองนั่งให้พระพระพุทธกัสสปะในขณะที่พระองค์ทรงบำเพ็ญเพียรก่อนตรัสรู้ และยังได้เฝ้าระวังสัตว์เลื่อยคลานน้อยใหญ่ที่จะเข้ามารบกวนการบำเพ็ญของเพียรของพระองค์อีกด้วย จนกระทั่งพระองค์สำเร็จพระโพธิญาณ พระรัศมีแห่งพระวรกายหรือฉัพพรรณรังสีในวันที่ตรัสรู้นั้นได้แผ่ถึงพญาไก่แดงนั้นด้วย
กล่าวกันว่า พญาไก่แดงนั้นแท้จริงคือพระโพธิสัตว์ที่เสวยพระชาติในการบำเพ็ญพระบารมีอยู่ เพื่อการตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต ซึ่งทำหน้าที่อุปัฏฐากพระพุทธเจ้าอยู่ เมื่อได้สิ้นอายุขัยลง องค์พระอรหันต์สาวกจึงได้ทำฌาปนกิจและได้ทำการโปรดอัฐิที่ริมหน้าผาสูง ที่บริเวณนั้นจึงได้เกิดว่านชนิดหนึ่งมาเพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงพญาไก่แดง เรียกว่า “ว่านพญาไก่แดง”
ว่านพญาไก่แดง หรือว่านไก่แดง มี 2 ชนิด ได้แก่ว่านไก่แดงไทย และว่านไก่แดงพม่า หรือของไทยใหญ่ ว่านไก่แดงไทยคือว่านที่เกิดขึ้นในประเทศไทย โดยเฉพาะแถวภาคเหนือ ถ้ำเชียงดาว จ.เชียงใหม่ แถวนั้นเป็นตลาดพืชสมุนไพร ขายว่านกันมากมาย มีทั้งว่านไก่แดง น้ำมันว่านไก่แดง ให้เราได้เลือกซื้อขายกัน
ส่วนว่านไก่แดงพม่านั้น จะขึ้นอยู่ที่ฝั่งพม่า ตามป่าเขาธรรมชาติ ชอบอากาศเย็น ซึ่งว่านไก่แดงของพม่านี่แหล่ะที่ขึ้นชื่อเรื่องเมตตามหาเสน่ห์ และที่ผมจะกล่าวถึงในบทความนี้
ตำนานการค้นพบสรรพคุณว่านไก่แดง
มีพรานป่าชาวพม่าคนหนึ่ง ซึ่งเข้าไปดักล่าสัตว์น้อยใหญ่ในหุบเขาเพื่อเลี้ยงชีพ วันหนึ่งเขาได้ติดตามไก่ป่าตัวหนึ่งซึ่งมีสีแดงเข้าไปในบริเวณหุบเขาที่เยือกเย็น เขาได้สังเกตเห็นว่าไก่แดงตัวนั้นได้จิกกินว่านชนิดหนึ่ง แล้วมันก็กระพือปีกขันสองสามที ปรากฏว่าไก่ตัวเมียมาจากไหนก็ไม่รู้มากมายซึ่งเขาไม่เห็นมาก่อน ออกมาให้เจ้าไก่ตัวแดงตัวผู้ตัวนี้ผสมพันธุ์ ซึ่งมันไม่ต้องเกี่ยวพาราณสีอะไรมากมาย ประมาณว่าไก่ตัวเมียทุกตัวยอมออกจากที่ซ่อนเพื่อมาให้เจ้าไก่แดงกก นี่เป็นที่มาของสรรพคุณว่านไก่แดง ต่อมามีการไปผูกเข้ากับตำนานของพระโพธิสัตว์ที่เสวยพระชาติเป็นพญาไก่แดง จึงเรียกว่า ว่านพญาไก่แดง เป็นอันว่า ถ้าเอ่ยว่า ว่านไก่แดง หมายถึง ว่านที่ไก่ป่ากินเพื่อเรียกตัวเมียเข้ามาหา หากเรียกว่า ว่านพญาไก่แดง หมายถึง ไก่พระโพธิสัตว์ แต่ก็เป็นว่านชนิดเดียวกัน
พุทธคุณ ว่านไก่แดง
อันที่จริงควรใช้คำว่า สรรพคุณ หรือ อิทธิคุณ แต่คนโดยมากกลับใช้คำว่า พุทธคุณ อาจจะเพื่อให้หมายถึงเป็นเรื่องพลังงาน เป็นเรื่องของความเชื่อมากกว่า ว่านไก่แดง เด่นด้านมหาเสน่ห์ มหานิยม เป็นเมตตายิ่งนัก คนรัก คนหลง มหาละลวย ค้าขาย เรียกลูกค้า ติดต่อเจรจาเป็นเยี่ยม เกจิอาจารย์หรือผู้รู้มักนำมาทำเป็นน้ำ เรียกว่าว่านไก่แดง ซึ่งจะมีสีแดงตามธรรมชาติ ใช้ทาตัว เจิมหน้าผาก เจิมร้านค้า เจิมสิ่งของที่จะขาย เจิมเครื่องมือทำมาหากิน หรืออาจจะนำมาผสมทำเป็นสีผึ้งทาปาก เจิมหน้าผาก ทาตัว เพื่อเสริมเสน่ห์ เมตตามหานิยมคนรักคนหลง
คาถาบูชาน้ำมันว่านไก่แดง
ตั้ง นะโม 3 จบ นึกถึงบารมีของพญาไก่โพธิสัตว์ กล่าวคาถา ดังนี้
กุกุสากุ อะยัง ยัตธะนัง
มานะตัง พุทธะ นะกุกุ
แล้วอธิษฐานใช้ตามความปรารถนา