เราเคยได้ยินมากันมาใช่ไหมกับคำที่ว่า “ขอเชิญถวายน้ำปานะก็พระภิกษุผู้ประชุม/ปฏิบัติธรรม” “วันนี้เราไปถวายน้ำปานะพระที่วัดดีไหม”
น้ำปานะ แปลโดยทั่วไป น้ำสำหรับดื่ม น้ำที่ควรแก่การดื่ม ถ้าเป็นน้ำปานะที่คั้นจากผลไม้สด เขาให้เลือกผลไม้ที่มีผลไม่ใหญ่เกินผลมะตูม แตงโม สับปะรด มะละกอ ไม่ได้ ผมไม่ต้องไล่หมดนะว่ามีอะไรบ้าง อย่าใหญ่กว่าผลมะตูมหรือกว่ากำปั้นใหญ่ ๆ ก็เป็นพอ มะม่วงได้ ไม่รู้ใหญ่กว่ากำปั้นหรือผลมะตูมหรือเปล่าแต่ตำราว่าได้
เมื่อได้ผลไม้สำหรับทำน้ำปาะแล้ว ถ้าผลไม้มีเปลือกอย่างไม่มะม่วง กล้วย ส้ม ก็เอาเปลือก ถ้าเล็ก ๆ อย่างมะยม หรือผลไม้มีเปลือกบางที่คนกินทั้งเปลือกได้ก็ไม่ต้องเอาออก จากนั้นมาคั้น จะปั่นด้วยเครื่องก็ได้ ที่สำคัญต้องกรองเสียก่อน เมื่อก่อนใช้ผ้าขาวกรอง ทุกวันนี้ใช้เครื่องตาข่ายกรองที่ละเอียดหน่อย ไม่ให้มีเศษกากผลไม้ก็ใช้ได้
การหาผลไม้ การทำทั้งหมดนี้ หมายถึงผู้มิใช่พระภิกษุทำ สามเณรทำถวายพระได้ อุบาสกอุบาสิกาทำถวายพระได้ เติมน้ำตาลได้ แต่ห้ามนำไปต้มไฟ ถวายแล้วพระเก็บไว้ฉันได้วันหนึ่งกับคืนหนึ่ง
แต่ถ้าสิ่งไหน ผลไม้ชนิดใด ที่พระพุทธองค์อนุญาตใช้ให้เป็นยาได้ แบบนี้พระรับประเคนแล้วทำเองได้ เช่น มะขามป้อม สมอ หากพระท่านจะนำมาตำ มาคั้นเอาน้ำดื่มเองได้ เพราะเป็นยาที่ได้รับอนุญาตอยู่แล้ว ฉันสด ๆ ไม่ตั้องคั้นก็ได้
มีคำถามว่า แล้วน้ำอื่น ๆ ที่ผ่านไฟ เป็นปานะไหม ถวายพระได้ไหม เช่น มะตูมแห้งต้มเอาน้ำ น้ำขิง น้ำกระเจี้ยบ น้ำชา น้ำกาแฟ น้ำโกโก้ น้ำรางจึด น้ำต้มว่านต่าง ๆ น้ำเหล่านี้ไม่จัดเป็นน้ำปานะตามข้างบน คนละประเภทกัน แต่ก็อนุโลมเรียกว่าน้ำปานะตามภาษาเรียกเพื่อความเข้าใจ เหมือนบ้านเรา เอาความหวานมาจากอ้อยผมเป็นผงขาว ๆ ก็ยังเรียกน้ำตาลเหมือนเดิม ไม่เรียกน้ำอ้อย คนแก่เมื่อก่อน เรียกงผงซักฟอกที่ยี้ว่า แฟ้บ ทั้งที่มันเป็นบรีส สรุปคือน้ำเหล่านี้ ถวายพระฉันได้ ท่านจัดเป็นยาวชีวิก ฉันได้ตลอด แต่ถ้าผสมน้ำตาลมาเก็บไว้ฉันได้ 7 วัน ถ้าไม่ผสม อย่าง ชา กาแฟ โกโก้ ท่านเก็บไว้ฉันไว้ชงเองได้จนกว่ามันจะเสีย
สรุปแล้ว คือถวายได้ จะเรียกว่าอะไร บางอย่างเป็นคำเรียกที่ใช้ในภาษาไทย เพื่อความเข้าใจเท่านั้นเอง เช่น ถวายชา กาแฟพระ ชาวบ้านอาจจะเรียกรวม ๆ ว่าถวายน้ำปานะ นิมนต์ท่านฉันน้ำปานะ แต่จริง ๆ ท่านไม่ได้จัดเป็นปานะ แต่ฉันได้ ถวายได้
ส่วนน้ำอัดลม โดยมาผสมน้ำตาล หรือมีความหวาน ให้ความสดชื่น ส่วนมากทานก็ฉันทันที หรือให้ศิษย์เก็บใส่ตู้เย็นไว้ แล้วนำมาประเคนท่าน หากอุบาสกอุบาสิกาจะใส่แก้วประเคนท่านก็ได้ ตลอดเวลา