คาถาพญานกการเวก
นกการเวก หรือ พญานกการเวก หากมาในรูปแบบเครื่องรางของขลังมักจะถูกเรียกเป็น นกสาลิกา แต่นักขายเครื่องรางทั้งหลายมักเขียนเป็น นกสาริกา ไม่ทราบว่าเพราะเหตุใด ทั้งที่ศัพท์นี้ไม่มีในพจนานุกรม เข้าใจว่าเพราะความไม่รู้ โดยเขียนตาม ๆ กันมา เหมือนคำว่า เมฆพัตร ทั้งที่จริง คำที่ถูกต้อง เขียนง่ายมาก ๆ คือ เมฆพัด ไม่ใช่ เมฆพัตร
ส่วนคาถาสำหรับบูชานกการเวก หรือคาถาบูชานกสาลิกานั้น มีหลายแบบตามแต่สำนักครูอาจารย์นั้น ๆ ซึ่งก็ใช้ได้หมด ในบทความนี้ ผมยกคาถานกการเวกมา 2 คาถา ดังนี้
คาถาพญานกการเวก บทที่ 1
ชานัง ชานัง ตักขะติ ติชชะธัมมัง อัตตะกัง มะระชาติ โพธิยา สะตัง ธัมมัง นะโม ธัมมัง
คาถานกการเวก บทที่ 2
ชิวหายัง ธุรัง วาจัง ชิวหาวาจันติ ผุสสิตวา สัทธัง สุตะวา จะ สุนทะรัง ปิยาเยวะ ปิยันตุนา
คาถานกการเวกทั้ง 2 คาถานี้ ใช้ได้เหมือนกัน แม้ไม่มีเครื่องรางนกการเวก หรือ นกสาริกา ก็สามารถสวดคาถานกการเวกนี้ได้เช่นกัน ควรสวดบริกรรมบ่อย ก่อนออกจากบ้าน ขณะเดินทาง ติดต่อธุรกิจการงาน ค้าขาย หรือจะทำน้ำมนต์ประพรมร้าน ประพรมสินค้าก็ได้ ขายของดี เป็นที่สนใจของผู้คน
เครื่องรางทำไมต้องสวดคาถา
บทคาถา คำพูด การระลึกถึง เป็นการเชื่อมโยงจิตของเรา ตัวของเรากับเครื่องรางนั้น ๆ ให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ให้ส่งผลตามเจตนาของเรา เช่น เครื่องรางเมตตา เมื่อสวดคาถา บอกกล่าว หรือส่งจิตอธิษฐานถึง เครื่องรางนั้นก็จะส่งผลทางด้านเมตตา เครื่องรางมหาอำนาจ มีเสือเป็นต้น เมื่อสวดคาถากำกับ ส่งจิตไปที่เครื่องราง บอกกล่าว อธิษฐาน เครื่องรางนั้นก็จะส่งผลด้านมหาอำนาจตามจิตเจตนาของเรา หรือจะเรียกว่าเป็นการสะกดจิตของเรา หรือทำให้จิตของเราเกิดอุปาทานในด้านนั้น ๆ ก็ว่าได้ ฉะนั้น การสวดคาถา การบอกกล่าว การอธิษฐาน การน้อมจิตไปยังเครื่องรางนั้น ๆ จึงเป็นสิ่งจำเป็น
ยกตัวอย่างอีกที เหมือนสมัยเด็ก ๆ หรือโตขึ้นมาแล้วก็ตาม เราเคยฝันร้าย แต่ถ้านำมีดพร้า ขวาน หรือ ปืนมาวางไว้ใต้หมอน หรือเหนือศีรษะ ก็ทำให้จิตใจเราเข้มแข็ง ไม่ฝันร้าย บางคนอาจจะแย้งว่า ก็ไม่เห็นต้องสวดคาถา ใช่ไม่ได้สวดคาถา แต่จิตคุณน้อมไปที่อาวุธนั้น ๆ หรือบางคนอาจจะพูดด้วยซ้ำ ถ้าฝันร้ายอีก ถ้ามึงเข้ามากูจะฝันมึงให้ตาย การน้อมจิตไปที่อาวุธที่เรามี การพูดออกไปเช่นนั้น ก็เหมือนกับการได้สวดคาถานั่นเอง