หลวงตาบาง วัดหนองกาน้ำ อ.พานทอง จ.ชลบุรี ผู้จัดสร้าง พระสมเด็จหลังยันต์ห้า หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ อันโด่งดังจากมวลสารศักดิ์สิทธิ์ ผงวิเศษหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
ผงพุทธคุณ หลวงปู่ทิม ดีอย่างไร
ครั้งหนึ่ง เมื่อปี พ.ศ.2515 หลวงตาบางท่านได้เห็นหลวงปู่ทิมนั่งลบผงอยู่ หลวงตาถึงกับตกใจและอัศจรรย์ใจยิ่งนัก เพราะเห็นผงที่หลวงปู่ทิมที่กำลังลบอยู่นั้นทะลุลอดกระดานชนวนทึบลงไปในถาดข้างล่างหมด ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้นอกจากพลังจิตที่แน่วแน่ในการสร้างและเสกผง เมื่อหลวงตาขยับเข้าไปดูใกล้ ๆ หลวงปู่ทิมท่านก็ทำการลบผงของท่านอย่างนิ่งสงบโดยไม่สนใจสิ่งใดจนแล้วเสร็จ เมื่อท่านทำเสร็จแล้ว หลวงตาบางก็เข้าไปขอผงวิเศษจากหลวงปู่ทิม แต่หลวงปู่ท่านไม่ให้พร้อมกับกล่าวว่า “อย่าเอาไปเลย ยังไม่ถึงเวลา”
ถึงกระนั้น หลวงตาบางก็ไม่ลดละความพยายาม วนเวียนมาที่วัดละหารไร่เพื่อขอผงวิเศษลบทะลุกระดานชนวนจากหลวงปู่ทิมอีกเป็นหลายครั้ง หลวงปู่ทิมท่านก็ยังไม่ยอมให้สักที จนรู้สึกท้อใจ วันหนึ่งจึงได้กราบเรียนถามหลวงปู่ทิมว่า ผงที่ท่านลบนี้มีอะไรบ้าง ดีอย่างไร ซึ่งหลวงปู่ทิมก็เมตตาเล่าให้ว่า “ผงวิเศษที่ท่านลบนั้น ได้แก่ (คำอธิบายในวงเล็บนี้ ผู้เขียนจากแหล่งที่มาน่าจะเป็นผู้อธิบายไว้เอง)
1.ผงอิทธิเจ (มีอานุภาพสูงมากในด้านทางเมตตา มหานิยม หากนำไปให้ผู้หญิงกิน ผู้หญิงจะลุ่มหลงและระลึกนึกถึงผู้ที่เอาผงนี้ให้กินอยู่เสมอจนทนไม่ได้ จนต้องมาหาอยู่กินหลับนอนกับชายผู้นั้นในที่สุด ซึ่งหลวงปู่ทิมได้สาปแช่งเอาไว้ หากใครเอาผงไปใช้ในทางที่ผิด) ที่มาของข้อมูลกล่าวไว้อย่างนี้ ส่วนตัวผมไม่เชื่อว่าหลวงปู่ทิมท่านจะแช่ง แต่ท่านอาจจะบอกว่า ใครเอาไปใช้ในทางที่ผิดมีอันเป็นไป หรือฉิบหาย ท่านไม่ได้แช่ง แต่ท่านบอกตามตำรา บอกตามเหตุผลแห่งกรรมชั่วของบุคคลนั้น หรือแม้อานุภาพผงให้คนรักกันก็เหมือนกัน มันเกิดขึ้นตามตำราหรือคุณวิเศษของผงนั้น ๆ หมายความว่า เมื่อทำเสร็จตามขั้นตอน ตามตำราวิชาแล้ว คุณวิเศษจะเป็นอย่างนี้ แต่ไม่ใช่เพราะหลวงปู่ทิมให้เป็น เหมือนทางวิทยาศาสตร์ นำทองแดงผสมกับสังกะสีกลายเป็นทองเหลืองตามสูตร ไม่ได้เป็นตามคนผสม คนผสมอยากให้เป็นหรือไม่อยากให้เป็นเมื่อผสมกันสำเร็จตามสูตรก็ย่อมเป็นทองเหลือง ถ้าใครนำทองเหลืองไปใช้ผิดวิธิ เช่น ผสมน้ำกินก็อาจจะได้รับอันตราย แต่ไม่ใช่เพราะคนผสมแช่งไว้
2.ผงปถมัง (มีอานุภาพทางด้านคงกระพันชาตรี เป็นมหาจังงัง กำบังกายได้ หากนำผงนี้ติดตัวไป คนอื่นจะไม่เห็นเรา)
3.ผงมหาราช (เด่นทางด้านเสน่ห์ ใช้ได้สารพัด 108 )
4.ผงพุทธคุณ (มีอุปเท่ห์คล้ายกับผงมหาราช ใช้ได้สารพัด 108 ประการ ตามแต่อธิษฐาน มีอานุภาพสูงในทางป้องกันคุณไสย ปัดเป่าเสนียดจัญไร ฯลฯ)
5.ผงตรีนิสิงเห
ผงวิเศษที่ลบขึ้นนี้ มีคุณวิเศษและประสิทธิภาพสูงยิ่งนัก เมื่อนำมาผสมเพื่อสร้างวัตถุมงคล ก็จะทำให้วัตถุมงคลที่สร้างขึ้นนั้นมีอานุภาพสูงยิ่งขึ้น และเมื่อได้รับการปลุกเสกประจุกระแสจิตเพิ่มจากพระผู้ทรงศีลบริสุทธิ์แล้ว ก็ยิ่งทำให้วัตถุมงคลนั้น มีอานุภาพศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้นไปอีก
เมื่อราวปี พ.ศ.2516 ขณะที่หลวงปู่ทิมกำลังสร้างพระสมเด็จยันต์ห้า (สร้างในเวลาใกล้เคียงกับพระสมเด็จองค์จ้อย หลังยันต์เฑาะว์) คุณเพียรวิวิทย์ จารุสถิติ เห็นหลวงปู่ทิมกำลังตั้งใจลบผงวิเศษชนิดหามรุ่งหามค่ำติดต่อกันหลายวัน จึงคิดในใจว่า “หลวงปู่ ท่านทำอะไรของท่านอยู่นะ วัน ๆ เห็นท่านเขียนผงเขียนยันต์เสร็จแล้วก็ลบอยู่อย่างนั้น เมื่อลบหมดแล้วก็เอาผงนั้นแหล่ะมาผสมกับดินสอพองปั้นเป็นแท่งแล้วนำมาตากแห้ง จากนั้นก็นำมาเขียนยันต์ซ้ำอีกแล้วลบอีก ทำวนเวียนอยู่อย่างนั้นหลายรอบ” จึงได้เข้าไปกราบเรียนถามหลวงปู่ทิมว่า
“หลวงพ่อทำอะไร ไม่เบื่อบ้างหรือ เห็นนั่งทำแบบนี้มาหลายวันหลายคืนแล้วครับ?”
เมื่อได้ฟังเช่นนั้น หลวงปู่ทิมก็นั่งนิ่งไปพักใหญ่ (อาจจะถามขณะที่ท่านใช้สมาธิอยู่ คนถามอาจจะยังวัยรุ่นหรือเด็กอยู่ จึงไม่ควรเข้าไปถามในเวลานั้น) แล้วท่านก็ตอบคุณเพียรวิทย์ว่า
“นี่กำลังลบผงคุณพระอยู่ ตั้งใจจะทำผงวิเศษไว้ผสมสร้างพระ ก่อนที่จะถึงวันผูกพัทธสีมาที่วัด เดือนมีนาคม 2517 นี้”
และหลวงปู่ทิมยังบอกอีกครั้งหนึ่งแสดงถึงความมุ่งมั่น ความตั้งใจที่จะให้พระผงของท่านให้มีคุณภาพดีที่สุดว่า
“ถ้าไม่มีผงวิเศษจริง ๆ จะให้นี่โมเมทำ นี่ก็ไม่อยากทำ เพราะให้ของไม่ดีแก่ผู้อื่น มันจะบาป..”
(ที่มาอ้างถึงข้อมูลจาก นิตยสารร่มโพธิ์ เล่ม 132 ผมเขียนเพิ่มดัดแปลงนิดหน่อย แต่ยังคงเนื้อเรื่องตามเดิม) ที่มา : thaprachan.com