ในบทความนี้ ผมให้ความหมายของการอุทิศบุญ และการอุทิศส่วนกุศลเป็นความหมายเดียวกัน โดยมุ่งหมายของคำว่าอุทิศเป็นหลัก ไม่ได้มุ่งหมายอธิบายให้เห็นความแตกต่างระหว่างบุญและกุศล
การแผ่เมตตา กับ การอุทิศส่วนกุศล ต่างกันอย่างไร
การแผ่เมตตา
การแผ่เมตตาคือการตั้งความปรารถนาดี ความหวังดี ความไม่เป็นภัย ความเป็นมิตรไมตรีให้เกิดขึ้นแก่ตนเองและผู้อื่น ออกมาจากจิตที่ประกอบด้วยเมตตาจริง ๆ ไม่เกี่ยวกับการท่อง ไม่เกี่ยวกับคำที่แผ่ออกไป แต่เนื่องจากคนทั่วไปไม่รู้ว่าจะแผ่เมตตาอย่างไร ครูอาจารย์ทั้งหลายจึงได้ให้บทแผ่เมตตาออกไว้เป็นแนวทาง เช่น กล่าวอย่างนี้ ให้แก่ตนเองบ้าง ให้แก่สรรพสัตว์บ้าง เป็นต้น
สำหรับผู้ที่ฝึกอบรมจิตมา การแผ่เมตตานั้นทำได้ง่ายกว่าการโกรธ เพราะการโกรธใครสักคนต้องหาเหตุที่ต้องโกรธ หรือนึกย้อนถึงเหตุการณ์ที่ไม่ชอบใจมากก่อน
การแผ่เมตตาให้ได้อานิสงส์ 11 ประการ (ไม่ได้หมายความว่าต้องได้ครบทั้ง 11 ประการ) ต้องทำการแผ่เมตตาในระดับจิตที่ทรงอารมณ์ฌาน ซึ่งในชีวิตประจำของคนทั่วไปยากที่จะทำได้
แม้บุคคลไม่สามารถแผ่เมตตาได้ในระดับเมตตาฌาน แต่การแผ่เมตตาก็เป็นสิ่งที่ทำในชีวิตประจำวัน เป็นสิ่งที่ควรสั่งสมให้เกิดขึ้นทุกวัน
การแผ่เมตตาหรือการเจริญเมตตา เป็นข้าศึกต่อความโกรธ หมายความว่าทำการเจริญเมตตาเพื่อลดละความโกรธ เพราะเมื่อความโกรธเกิดขึ้น ย่อมตามมาด้วยความอาฆาต ความพยาบาท การทำร้ายร่างกายและจิตใจซึ่งกันและกันซึ่งล้วนแต่เป็นบ่อเกิดแห่งความทุกข์ทั้งสิ้น
การอุทิศส่วนกุศล เป็นเป็นการทำความดีประการหนึ่ง เป็นหนึ่งในบุญกิริยาวัตถุ 10 ประการ การอุทิศส่วนกุศลก็เพื่อให้บุคคลอื่นได้ร่วมอนุโมทนากุศลนั้นด้วย กุศลจิตย่อมเกิดขึ้นเองกับบุคคลผู้อนุโมทนา การอุทิศส่วนกุศลจึงไม่ใช่การหยิบยื่นหรือส่งตัวกุศลให้คนอื่น แต่เป็นการให้เขาอนุโมทนาในกุศลที่เราทำ และกุศลจิตย่อมเกิดขึ้นเพราะเหตุแห่งการอนุโมทนานั้น
ยกตัวอย่าง การอนุโมทนากุศลที่บุคคลอื่นทำ ดังมีเรื่องเล่าว่า มีชายหนุ่มสองคน คนหนึ่งเป็นคนยากจนไปหาปลาเพื่อเลี้ยงพ่อแม่และครอบครัวอยู่ข้างวัด อีกคนเป็นผู้มีอันจะกินไปฟังธรรมที่วัด เมื่อพระแสดงธรรมจบกัณฑ์หนึ่ง ๆ ก็มีการตีฆ้องเพื่อหมายให้รู้ว่าจบและให้คนอื่นได้อนุโมทนาด้วย ชายหนุ่มที่หาปลาได้ยินเสียงฆ้องก็ยกมือขึ้นอนุโมทนาบุญด้วย มีเรื่องเล่าต่อว่า ด้วยเหตุแห่งการอนุโมทนานั้นทำให้เขาเข้าถึงสุคติในภพถัดไป (แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า การจับปลา ฆ่าสัตว์จะไม่เป็นบาป หรือไม่ให้ผลนะ ถ้าเขายังเวียนว่ายตายเกิดอยู่ บาปนั้นย่อมส่งผลในอัตภาพใดอัตภาพหนึ่ง)
ด้วยเหตุนั้น การอุทิศส่วนกุศล และ การอนุโมทนาส่วนกุศล จึงเป็นคุณความดีที่ควรทำควรให้เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน เช่น เห็นคนตักบาตรในเวลาเช้าก็ควรที่จะอนุโมทนาด้วย เห็นภาพคนทำบุญบน facebook ก็ควรทำจิตให้เป็นกุศลอนุโมทนาบุญกับเขาด้วย
เมื่อพิจารณาดูจากอานิสงส์ของการเจริญเมตตาแล้ว อานิสงส์ของการเจริญเมตตาย่อมเกิดขึ้นแก่ผู้เจริญเมตตาเอง ไม่ได้เกิดขึ้นกับบุคคลอื่น เช่น ผู้เจริญเมตตา หลับเป็นสุข ตื่นเป็นสุข ไม่ฝันร้าย หรือการเจริญเมตตาเพื่อละความโกรธก็ละที่บุคคลผู้เจริญเมตตาเอง ไม่ใช่ไปละความโกรธของบุคคลอื่น การการเจริญเมตตาจนเกิดฌานก็เกิดขึ้นที่บุคคลผู้เจริญเมตตาเอง ไม่ได้เกิดกับคนอื่น อนึ่ง การเจริญเมตตาถือว่าเป็นการปฏิบัติกรรมฐานอย่างหนึ่ง เรียกว่าเมตตานุสสติ