เนื่องในโอกาสที่ท่านทั้งหลายได้มาทำบุญในวาระอันเป็นมงคลส่งท้ายปีเก่ารับเอาพรปีใหม่ ตามกาลสมัยนิยม ความจริง วัน เดือน ปี เป็นเรื่องของพระอาทิตย์ พระจันทร์และนักขัตฤกษ์เดือนดาว หากหมุนเวียนเปลี่ยนไปตามจักราศี ไม่น่าจะมาเกี่ยวข้องอะไรกับมนุษย์เรา คนเราจะนับหรือไม่นับ วันเดือนก็หมุนเวียนไปตามธรรมดาอยู่เช่นนั้น ตลอดกาลแต่ไหนแต่ไรมา
วัน คืน เดือนปี ไม่ได้ทำให้เราเป็นคนดีหรือคนชั่ว
ปีใหม่คนเราจะทำการฉลองหรือไม่ เดือนปีเขาก็ไม่เห็นมีการเดือดร้อนอะไร ส่วนที่เกี่ยวข้องกับคนเรานั้นก็คือความเสื่อมสูญอายุของคนเรา ซึ่งขึ้นอยู่กับวันคืน เดือน ปี ถ้าไม่มีสิ่งเหล่านั้นเป็นเครื่องวัดแล้ว ก็ไม่สามารถทราบได้ว่าอายุชีวิตของคนเราหมดไปแล้วเท่าไร ได้กี่ปีกี่เดือนแล้ว วัน คืน เดือน ปี ไม่ได้มาสร้างฐานะร่ำรวยเกียรติยศชื่อเสียงให้แก่เรา นอกจากจะมาส่องแสงสว่างหรือทำความมืดให้แก่เรา เพื่อเราจะได้ประกอบกิจกรรมการงานต่าง ๆ ฤกษ์ยาม วัน คืน เดือน ปี มิได้ทำอะไรให้คนดีขึ้นมาเลย นอกจากตัวของเราเท่านั้นที่จะทำตัวของเราให้ดีขึ้น
ในการจัดงานวันขึ้นปีใหม่ เราทั้งหลายได้ทำบุญตักบาตร ถวายภัตตาหาร สมาทานศีลและฟังธรรม เพื่อเป็นการส่งท้ายปีเก่าต้อนรับเอาพรปีใหม่นั้นเป็นการกระทำที่ดีแล้ว เป็นสิ่งที่น่าสรรเสริญ ถึงแม้วัน คืน เดือน ปี เป็นเรื่องของการหมุนเวียนตามจักราศีของเดือนดาวดังกล่าวแล้วก็ตาม แต่คนเรามาถือเอาพอเป็นฤกษ์ทำความดีเท่านั้น หากไม่ยึดถือเอาเรื่องเหล่านั้นมาเป็นเครื่องหมายเสียแล้ว คนเราก็จะไม่รู้จักกาลเวลาที่จะพึงปฏิบัติ
แต่อย่างไรก็ตาม จุดประสงค์ที่พวกเราทำไม่ได้อยู่ที่วันขึ้นปีใหม่ แต่สิ่งที่ทำต่างหาก คือการทำความดีหรือบุญในทางพระพุทธศาสนา กล่าวคือการบำเพ็ญทาน สมาทานศีล และการฟังธรรม นอกจากนั้นยังเป็นการสร้างความสามัคคี รักษาประเพณีประจำปีของชาวพุทธเราอีกด้วย ความจริง การทำความดี ย่อมทำได้ทุก ๆ เมื่อ การทำความชั่วก็เช่นเดียวกัน แต่การทำความชั่วให้เกิดอัปมงคล การทำความดีให้เกิดสิริมงคล ตรงกับคำที่พระที่เราได้ยินบ่อย ๆ เวลาท่านประพรมน้ำพระพุทธมนต์ว่า สุนกฺขตฺตํ สุมงฺคลํ สุปภาตํ สุหุฏฺฐิตํ เป็นต้น ซึ่งสรุปใจความว่า เวลาที่คนเราทำในสิ่งที่ถูกต้องดีงาม เวลานั้นชื่อว่าฤกษ์ดี มงคลดี ขณะดี ครู่ดี ย่อมเกิดความเจริญรุ่งเรืองดี
งานปีใหม่วันนี้ ขณะนี้ เวลานี้ ก็ถือว่าเราทั้งหลายได้ทำในสิ่งที่ถูกต้องดีงาม จึงได้ชื่อว่าเป็นฤกษ์ดี มงคลดี ขณะดี ครู่ดี ความดีย่อมเกิดขึ้น และความดีนั้นย่อมนำมาซึ่งความสุขและความเจริญรุ่งเรืองดี ความดีงามอันเกิดขึ้นจากการแบ่งปัน การเสียสละ ละความตระหนี่ มีความอดทน ตั้งตนอยู่ในศีล รวมความแล้วก็คือการปฏิบัติตามในทานศีลภาวนา ที่พระศาสดาประทานไว้ นั่นแหล่ะคือพรปีใหม่ ซึ่งจะทำวันขึ้นปีใหม่ให้เป็นวันที่ดี ดีทั้งวันนี้วันหน้า ดีทั้งปีนี้ปีหน้าและปีต่อไป
แล้วอะไรเล่าควรส่งท้ายไปพร้อมปีเก่า คนเรานั้นย่อมเคยทำความผิดพลาดกันมาทุกคน จนมีคนกล่าวว่า “ผู้ที่ไม่เคยทำอะไรผิดนั้น คือคนที่ไม่เคยทำอะไร” ฉะนั้น อะไร ๆ ที่เป็นความผิดพลาด จะด้วยเจตนาหรือไม่ก็ตาม ในบุคคลหรือในการงานใด ๆ ก็ตาม ขอให้เป็นความผิดพลาดแค่นั้น ละไปพร้อมกับความสิ้นไปแห่งปีเก่านี้ให้หมดสิ้นเสีย แล้วตั้งต้นใหม่
แม้ในจิตใจของเราท่านทั้งหลาย หากยังมีนึกคิดเกลียดโกรธเพ่งโทษใครอยู่ หรือได้พูดส่อเสียดกล่าวเท็จ ยุยงให้เขาแตกความสามัคคีซึ่งกัน ความเลวร้ายนั้นทั้งหมดดังกล่าวมาแล้วนี้ หรือความเลวร้ายนอกเหนือจากที่ได้กล่าวมาแล้วนี้ ให้ส่งไปพร้อมกับความสิ้นไปแห่งปีเก่านี้เสีย และระวังไม่ให้เกิดขึ้นอีกพร้อมกับปฏิบัติตามพรปีใหม่ต่อไป
ขอคุณพระศรีรัตนตรัย และคุณความดีบารมีธรรมที่ท่านทั้งหลายได้สั่งสมอบรมมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน จงเป็นพลวปัจจัย ส่งเสริมให้ท่านทั้งหลายเป็นผู้ปราศจากโรคภัย สมบูรณ์พูนสุขด้วยจตุรพรชัย ๔ ประการ ตามที่พระท่านให้พรบ่อย ๆ ทุกวันว่า อภิวาทนสีลิสฺส นิจฺจํ วุฑฺฒาปจายิโน จตฺตาโร ธมฺมา วฑฺฒนฺติ อายุ วณฺโณ สุขํ พลํ