คาถาพระสุนทรีวาณี
ก่อนภาวนาคาถาพระสุนทรีวาณี ให้ตั้ง นะโม 3 จบ แล้วสวดคาถา 3-5-7 จบ พร้อมคำแปล
มุนินทะ วะทะนัมพุชะ คัพภะสัมภะวะ สุนทะรี
ปาณีนัง สะระณัง วาณี มัยหัง ปิณะยะตัง มะนังฯ
นางฟ้า คือพระไตรปิฎกอันเกิดจากดอกอุบล คือพระโอษฐ์ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นที่พึ่งพำนักของสรรพสัตว์ทั้งหลาย ขอจงยังใจของข้าพเจ้าให้เอิบอิ่มปรีดาปราโมทย์ รู้แจ่มแจ้งแทงตลอดจำได้ ปฏิบัติตามได้ ในพระไตรปิฏกทั้งโลกียะและโลกุตตระนั้นเทอญ
ความหมายของคาถาพระสุนทรีวาณี
วาณี นางฟ้า คือพระไตรปิฎก มุนินทะ วะทะนัมพุชะ คัพภะสัมภะวะ สุนทะรี มีรูปอันนาม เกิดแต่ห้องแห่งดอกบัว คือ พระโอษฐ์ของพระพุทธเจ้าผู้เป็นจอมแห่งนักปราชญ์ทั้งหลาย ปาณีนัง สะระณัง เป็นที่พึ่งแห่งสัตว์ผู้มีปราณทั้งหลาย มัยหัง ปิณะยะตัง มะนัง จงยังใจแห่งข้าพเจ้าทั้งหลายให้ยินดี
พระคาถาสุนทรีวาณี ซึ่งเป็นคาถาที่ปรากฎในคัมภีร์สัททาวิเสส พระคาถานี้มีความศักดิ์สิทธิ์ ผู้ใดเมื่อเรียนพระไตรปิฎก เรียนพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ให้ภาวนาไว้แล้ว ดับอวิชชา บังเกิดสติปัญญางาม ปัญญากลายเป็นสัญญา คือ ความทรงจำที่เลิศล้ำ อาจารย์ทั้งหลายแต่โบราณมาได้สั่งสอนศิษยานุศิษย์ให้ท่องพระคาถานี้ทุกครั้งที่เรียนคัมภีร์พระไตรปิฎก
บัณฑิตทั้งหลายสรรเสริญพระคาถาสุนทรีวาณีนี้ว่าหากบริกรรมอย่างสม่ำเสมอจะเกิดปัญญารู้แจ้งในการศึกษาพระธรรม แม้พระเถระผู้ใหญ่ทั้งหลายก็มักที่จะแนะนำให้นวกภิกษุผู้ที่เริ่มศึกษาพระธรรม ได้บริกรรมพระคาถานี้เป็นนิตย์ ส่งเสริมให้เกิดสมาธิจิตที่มั่นคง บันดาลให้เข้าถึงพระธรรมอันถ่องแท้ในพระพุทธศาสนาได้โดยง่าย นำไปสู่ความกระจ่างรู้ลึกซึ้งในแก่นแท้ของพระพุทธศาสนายิ่งขึ้นโดยลำดับ
นอกจากนั้น ยังเชื่อว่า หากประสงค์ด้านความเมตตา เป็นสิริมงคลแก่ตนเอง โชคลาภ ค้าขาย สร้างความเจริญรุ่งเรืองแก่ห้างร้าน บริษัท กิจการร้านค้าทั่วไปก็สามารถภาวนาได้ เพื่อเจริญด้วยลาภ ยศ ความสุข สรรเสริญ ในชีวิตและหน้าที่การงาน ซึ่งนิยมสวดต่อท้ายว่า
เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก
โส มานิมา ฤ ฤา ฦ ฦา
สา มานิมา ฤ ฤา ฦ ฦา
ขอบคุณภาพและเนื้อหาจากเพจ วัดสุทัศนเทพวราราม
อ่านเพิ่มเติมที่ ตำนาน ประวัติภาพพระสุนทรีวาณี (ฉบับวัดสุทัศน์)