
หากท่านพระสีวลีได้เดินทางร่วมคณะเผยแผ่ธรรมไปกับคณะมีองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นต้น จะไม่ขาดแคลนด้วยปัจจัยทั้ง 4 มีจีวร ภัตตาหาร ที่พักอาศัย ยารักษาโรคเป็นต้น ถึงแม้ว่าในครั้งนั้นจะออกเผยแผ่ธรรมในที่กันดาร สถานที่อันผู้คนโดยปกติจะอัตคัตด้วยอาหารการกินก็ตาม ก็ย่อมมีผู้ใจบุญถวายทานเสมอ ในที่สุดแม้แต่เทวดาในที่นั้น ๆ ก็ทำการต้อนรับถวายด้วยปัจจัย 4
ปัจจัยสี่นั้นไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะแต่พระสีวลีเท่านั้น แต่ยังมีเหลือพอได้เผื่อแผ่ไปยังพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระสงฆ์ตลอดถึงสหธรรมิกที่ร่วมเดินทางด้วยทั้งหมด
พระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงทรงประกาศยกย่องให้ปรากฏแก่พุทธบริษัทว่าเป็นพระสีวลีเป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายในทาง “เป็นผู้มีลาภมาก” นั่นเอง
พุทธบริษัทในภายหลัง จึงถือว่าพระสีวลีเป็นพระภิกษุสงฆ์ผู้มากด้วยโชคลาภ มีความสมบูรณ์ไม่อดอยาก แม้พระสีวลีจะนิพพานไปแล้ว ก็ยังกล่าวสรรเสริญพระสีวลีด้วยถ้อยคำต่าง ๆ จึงกลายเป็นคาถาบูชาพระสีวลี บางท่านก็ได้สร้างรูปเหมือนพระสีวลีบ้าง ภาพวาดบ้าง พระสีวลีขนาดเล็กบ้างเพื่อนำติดตัวไว้บูชา ไว้ประจำบ้าน ประจำเรือน เดินทางไปค้าขายเหมือนว่าท่านพระสีวลีได้เดินทางไปด้วย
แม้กาลเวลาจะผ่านพ้นไปนานแล้วก็ตาม ความเชื่อความศรัทธานี้ ก็ได้สืบเนื่องมาจนปัจจุบัน ผู้ที่ทำธุรกิจการค้า ต้องการให้ประสบความสำเร็จโดยเร็ว หรือปรารถนาโชคลาภ จึงนิยมหารูปหล่อพระสีวลีบ้าง รูปภาพบ้าง ผ้ายันต์บ้าง แล้วทำการสวดคาถากล่าวสรรเสริญบูชาพระสีวลี โดยมีวิธีในการบูชาพระสีวลีดังต่อไปนี้
เคล็ดลับวิธีการบูชาพระสิวลีให้ได้ผลเร็ว
ควรเริ่มที่ตัวเราก่อน พระสีวลีเป็นผู้ทรงศีล ฉะนั้น เราจึงต้องควรที่จะรักษาศีล มีศีลเช่นเดียวกับท่าน ถึงแม้จะไม่เท่าท่านก็ตาม เราจะได้เป็นคณะเป็นบริษัทเดียวกับท่าน ผู้มีศีลหมือนกัน แม้อยู่ไกลกันก็เหมือนอยู่ใกล้ แม้อยู่ที่ไหน ก็เป็นคณะเดียวกัน พวกเดียวกัน นอกจากเป็นผู้มีศีลแล้ว ควรเป็นผู้ให้ทานเช่นเดียวกับที่ท่านได้เคยทำมาในอดีต เริ่มจากทำบุญตักบาตร ให้ทานแก่คนยากไร้ ผู้ต้องการที่พึ่งพิง ให้ในสิ่งที่เขาต้องการหรือมีความจำเป็นต้องใช้ ให้ด้วยความเต็มใจถึงแม้ของนั้นจะมากหรือน้อยก็ตาม ให้ด้วนจิตเมตตาต่อเพื่อนร่วมโลก เราเอาความดีงาม ในส่วนของทาน ศีลนี้แหล่ะ เป็นการปฏิบัติบูชาท่าน ซึ่งสำคัญกว่าการบูชาด้วยสิ่งของ หรือแค่การกล่าวคาถาสรรเสริญเฉย ๆ แต่การบูชาด้วยสิ่งของ ด้วยการสวดคาถาสรรเสริญก็เป็นสิ่งที่ควรกระทำเช่นกัน
บูชาพระสีวลีด้วยสิ่งของ
- น้ำผึ้ง ผลไม้สด ดอกไม้ขาว ดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมหรือจะเป็นดอกบัวชนิดต่าง ๆ ก็ได้ อย่างละ 3 ดอก 5 ดอก หรือ 7 ดอก ตามแต่ต้องการ
- น้ำสะอาด 1 แก้ว โดยลอยดอกมะลิไว้บนน้ำ
- จุดธูป 3 ดอก
- จุดเทียนบูชา 1 เล่ม
โบราณกล่าวไว้ว่า การถวายผลไม้สด น้ำผึ้ง ควรทำการถวายในวันพฤหัสบดี ส่วนวันเสาร์นั้น ควรทำการถวายอาหารจากทะเล หรืออาหารที่ทำจากต้นบัว แล้วทำการอธิษฐานจิตขอให้สำเร็จสมหวัง จะสำเร็จหรือไม่สำเร็จก็ตาม ควรอย่างยิ่งที่จะรักษาศีล ทำบุญตักบาตร ถวายสังฆทาน ให้ทานอย่างต่อเนื่อง
ส่วนการสวดพระคาถาบูชาพระสีวลีเพื่อขอโชคลาภนั้น ต้องมีสมาธิที่แน่วแน่ จิตไม่ส่ายไปมา มีจิตใจที่สงบ ไม่กังวลในเรื่องใด ๆ จิตกำหนดที่ตัวอักขระที่กำลังสวดอยู่ ควรสวดอย่างต่อเนื่องทุกวัน ถึงแม้จะไม่ได้ทำการขออะไรเลยก็ตามที่

คาถาบูชาพระสิวลี
สีวะลี จะ มะหาเถโร เทวะตา นะระปูชิโต
โสระโห ปัจจะยาทิมหิ อะหัง วันทามิ สัพพะทาฯ
สิวสี จะ มะหาเถโร ยักขาเทวาภิปูชิโต
โสระโห ปัจจะยาทิมหิ อะหัง วันทามิ สัพพะทาฯ
สิวะลีเถระคุณัง เอตัง โสตถุลาภัง ภะวันตุฯ
อย่างที่กล่าวข้างต้น การสวดคาถาบูชาพระสีวลี คือการกล่าวสรรเสริญพระสีวลี เพื่อน้อมนำคุณธรรมของท่านมาใส่ตน เพื่อใช้เป็นเครื่องให้จิตของเราระลึกถึงท่าน ฉะนั้น คาถากล่าวบูชาพระสีวลีจึงมีมาก แต่ละสำนักอาจจะแตกต่างกันไปบ้าง ซึ่งก็ไม่แปลก เพราะคุณของพระสีวลีนั้นมีมาก สุดที่จะพรรณนา ทุกคาถาจึงใช้ได่หมด