เหรียญรุ่นแรก หลวงพ่อเมตตาหลวง วัดเทพพิทักษ์บุญณาราม นครราชสีมา
เหรียญรุ่นแรก หรือเหรียญรุ่น 1 หลวงพ่อเมตตาหลวง วัดพระขาว หรือ วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม นครราชสีมา ปี2521
เหรียญรุ่น ๑ หลวงพ่อเมตตาหลวง วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม นครราชสีมา ลักษณะเป็นเหรียญที่เรียกว่าเหรียญใบตำลึง ด้านหน้าเป็นรูปเหมือนหลวงพ่อเมตตาหลวง หน้าตรง ครึ่งองค์ ข้างบนบันทึกพุทธคาถา อ่านว่า “อะเนกะชาติสังสารัง-ตัณหานัง ขะยะมัชฌะคา-อัปปะมาเทนะ สัมปาเทถะ” ด้านล่างเป็นข้อความภาษาไทยอ่านว่า “หลวงปู่เมตตาหลวง อายุ ๗๒ ปี” ด้านหลังเหรียญเป็นรูปพุทธสังเวชนียสถาน มีอักขระขอม และภาษาไทยอ่านว่า “รุ่น ๑”
พระญาณสิทธาจารย์ (สิงห์ สุนทโร) หรือที่เรารู้จักท่านในนามหลวงปู่เมตตาหลวง วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม (วัดพระขาว) อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ท่านเป็นศิษย์สายกรรมฐานหลวงปู่มั่นรูปหนึ่ง มีปกติเจริญเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา อยู่เนื่องนิตย์ เจริญเป็นอัปปมัญญา คือไม่มีที่สิ้นสุด ไม่มีประมาณแก่สรรพสัตว์ทั้งหลายทุกจำพวก ทั่วทุกสารทิศ ด้วยการเจริญเมตตาที่ยิ่งใหญ่ไม่มีประมาณเป็นปกติเนื่องนิตย์นี้ สหธรรมมิกที่ร่วมปฏิบัติธรรมกับท่านรวมทั้งคณศิษย์จึงเรียกท่านว่า “หลวงพ่อเมตตาหลวง” หรือ “หลวงปู่เมตตาหลวง”
พระคาถาเมตตาหลวง
เมตตายะ ภิกขะเว เจโต วิมุตติยา
อะหังสุขิโต โหมิ
ขอให้ข้าพเจ้า จงถึงความสุข
นิททุกโข โหมิ
ขอให้ข้าพเจ้า พ้นทุกข์
อะเวโร โหมิ
ขอให้ข้าพเจ้า อย่าได้มีเวรภัย
อัพยาปัชโฌ โหมิ
ขอให้ข้าพเจ้า อย่าได้มีใครรังแก เบียดเบียนข่มเหง
อนีฆา โหมิ
ขอให้ข้าพเจ้า อย่ามีความทุกข์กายทุกข์ใจ
สุขี อัตตานัง ปะริหะรามิ
ข้าจะรักษาตนให้มีความสุข
บทแผ่เมตตาแก่สรรพสัตว์ 10 จำพวก
สัพเพ สัตตา
อเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขีอัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
สัพเพ ปาณา
อเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขีอัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
สัพเพ ภูตา
อเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขีอัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
สัพเพ ปุคคะลา
อเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขีอัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
สัพเพ อัตตะภาวะปริยาปันนา
อเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขีอัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
สัพพา อิตถิโย
อเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขีอัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
สัพเพ ปุริสา
อเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขีอัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
สัพเพ อะริยา
อเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขีอัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
สัพเพ อะนะริยา
อเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขีอัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
สัพเพ เทวา
อเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขีอัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
สัพเพ มะนุสสา
อเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขีอัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
สัพเพ วินิปาติกา
อเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขีอัตตานัง ปะริหะรันตุฯ
บทแผ่กรุณา แก่สรรพสัตว์ 10 จำพวก
สัพเพ สัตตา
อะลาภา ปะมุญจันตุ อะยะสา ปะมุญจันตุ นินทา ปะมุญจันตุ สัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ
สัพเพ ปาณา
อะลาภา ปะมุญจันตุ อะยะสา ปะมุญจันตุ นินทา ปะมุญจันตุ สัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ
สัพเพ ภูตา
อะลาภา ปะมุญจันตุ อะยะสา ปะมุญจันตุ นินทา ปะมุญจันตุ สัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ
สัพเพ ปุคคะลา
อะลาภา ปะมุญจันตุ อะยะสา ปะมุญจันตุ นินทา ปะมุญจันตุ สัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ
สัพเพอัตตะภาวะปริยาปันนา
อะลาภา ปะมุญจันตุ อะยะสา ปะมุญจันตุ นินทา ปะมุญจันตุ สัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ
สัพพา อิตถิโย
อะลาภา ปะมุญจันตุ อะยะสา ปะมุญจันตุ นินทา ปะมุญจันตุ สัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ
สัพเพ ปุริสา
อะลาภา ปะมุญจันตุ อะยะสา ปะมุญจันตุ นินทา ปะมุญจันตุ สัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ
สัพเพ อะริยา
อะลาภา ปะมุญจันตุ อะยะสา ปะมุญจันตุ นินทา ปะมุญจันตุ สัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ
สัพเพ อะนะริยา
อะลาภา ปะมุญจันตุ อะยะสา ปะมุญจันตุ นินทา ปะมุญจันตุ สัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ
สัพเพ เทวา
อะลาภา ปะมุญจันตุ อะยะสา ปะมุญจันตุ นินทา ปะมุญจันตุ สัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ
สัพเพ มะนุสสา
อะลาภา ปะมุญจันตุ อะยะสา ปะมุญจันตุ นินทา ปะมุญจันตุ สัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ
สัพเพ วินิปาติกา
อะลาภา ปะมุญจันตุ อะยะสา ปะมุญจันตุ นินทา ปะมุญจันตุ สัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ
บทแผ่มุทิตา แก่สรรพสัตว์ 10 จำพวก
สัพเพ สัตตา
ลัทธะสัมปัตติโตมา วิคัจฉันตุ ลัทธะยะสะโตมา วิคัจฉันตุ ลัทธะปะสังสะโตมา วิคัจฉันตุ ลัทธะสุขามา วิคัจฉันตุ
สัพเพ ปาณา
ลัทธะสัมปัตติโตมา วิคัจฉันตุ ลัทธะยะสะโตมา วิคัจฉันตุ ลัทธะปะสังสะโตมา วิคัจฉันตุ ลัทธะสุขามา วิคัจฉันตุ
สัพเพ ภูตา
ลัทธะสัมปัตติโตมา วิคัจฉันตุ ลัทธะยะสะโตมา วิคัจฉันตุ ลัทธะปะสังสะโตมา วิคัจฉันตุ ลัทธะสุขามา วิคัจฉันตุ
สัพเพ ปุคคะลา
ลัทธะสัมปัตติโตมา วิคัจฉันตุ ลัทธะยะสะโตมา วิคัจฉันตุ ลัทธะปะสังสะโตมา วิคัจฉันตุ ลัทธะสุขามา วิคัจฉันตุ
สัพเพอัตตะภาวะปริยาปันนา
ลัทธะสัมปัตติโตมา วิคัจฉันตุ ลัทธะยะสะโตมา วิคัจฉันตุ ลัทธะปะสังสะโตมา วิคัจฉันตุ ลัทธะสุขามา วิคัจฉันตุ
สัพพา อิตถิโย
ลัทธะสัมปัตติโตมา วิคัจฉันตุ ลัทธะยะสะโตมา วิคัจฉันตุ ลัทธะปะสังสะโตมา วิคัจฉันตุ ลัทธะสุขามา วิคัจฉันตุ
สัพเพ ปุริสา
ลัทธะสัมปัตติโตมา วิคัจฉันตุ ลัทธะยะสะโตมา วิคัจฉันตุ ลัทธะปะสังสะโตมา วิคัจฉันตุ ลัทธะสุขามา วิคัจฉันตุ
สัพเพ อะริยา
ลัทธะสัมปัตติโตมา วิคัจฉันตุ ลัทธะยะสะโตมา วิคัจฉันตุ ลัทธะปะสังสะโตมา วิคัจฉันตุ ลัทธะสุขามา วิคัจฉันตุ
สัพเพ อะนะริยา
ลัทธะสัมปัตติโตมา วิคัจฉันตุ ลัทธะยะสะโตมา วิคัจฉันตุ ลัทธะปะสังสะโตมา วิคัจฉันตุ ลัทธะสุขามา วิคัจฉันตุ
สัพเพ เทวา
ลัทธะสัมปัตติโตมา วิคัจฉันตุ ลัทธะยะสะโตมา วิคัจฉันตุ ลัทธะปะสังสะโตมา วิคัจฉันตุ ลัทธะสุขามา วิคัจฉันตุ
สัพเพ มะนุสสา
ลัทธะสัมปัตติโตมา วิคัจฉันตุ ลัทธะยะสะโตมา วิคัจฉันตุ ลัทธะปะสังสะโตมา วิคัจฉันตุ ลัทธะสุขามา วิคัจฉันตุ
สัพเพ วินิปาติกา
ลัทธะสัมปัตติโตมา วิคัจฉันตุ ลัทธะยะสะโตมา วิคัจฉันตุ ลัทธะปะสังสะโตมา วิคัจฉันตุ ลัทธะสุขามา วิคัจฉันตุ
บทแผ่อุเบกขา แก่สรรพสัตว์ 10 จำพวก
สัพเพ สัตตา
กัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะพันธู กัมมะปะฏิสะระณา ยัง กัมมัง กะริสสันติ กัลยาณังวา ปาปะกังวา ตัสสะทายาทา ภะวัสสันติ
สัพเพ ปาณา
กัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะพันธู กัมมะปะฏิสะระณา ยัง กัมมัง กะริสสันติ กัลยาณังวา ปาปะกังวา ตัสสะทายาทา ภะวัสสันติ
สัพเพ ภูตา
กัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะพันธู กัมมะปะฏิสะระณา ยัง กัมมัง กะริสสันติ กัลยาณังวา ปาปะกังวา ตัสสะทายาทา ภะวัสสันติ
สัพเพ ปุคคะลา
กัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะพันธู กัมมะปะฏิสะระณา ยัง กัมมัง กะริสสันติ กัลยาณังวา ปาปะกังวา ตัสสะทายาทา ภะวัสสันติ
สัพเพอัตตะภาวะปริยาปันนา
กัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะพันธู กัมมะปะฏิสะระณา ยัง กัมมัง กะริสสันติ กัลยาณังวา ปาปะกังวา ตัสสะทายาทา ภะวัสสันติ
สัพพา อิตถิโย
กัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะพันธู กัมมะปะฏิสะระณา ยัง กัมมัง กะริสสันติ กัลยาณังวา ปาปะกังวา ตัสสะทายาทา ภะวัสสันติ
สัพเพ ปุริสา
กัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะพันธู กัมมะปะฏิสะระณา ยัง กัมมัง กะริสสันติ กัลยาณังวา ปาปะกังวา ตัสสะทายาทา ภะวัสสันติ
สัพเพ อะริยา
กัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะพันธู กัมมะปะฏิสะระณา ยัง กัมมัง กะริสสันติ กัลยาณังวา ปาปะกังวา ตัสสะทายาทา ภะวัสสันติ
สัพเพ อะนะริยา
กัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะพันธู กัมมะปะฏิสะระณา ยัง กัมมัง กะริสสันติ กัลยาณังวา ปาปะกังวา ตัสสะทายาทา ภะวัสสันติ
สัพเพ เทวา
กัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะพันธู กัมมะปะฏิสะระณา ยัง กัมมัง กะริสสันติ กัลยาณังวา ปาปะกังวา ตัสสะทายาทา ภะวัสสันติ
สัพเพ มะนุสสา
กัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะพันธู กัมมะปะฏิสะระณา ยัง กัมมัง กะริสสันติ กัลยาณังวา ปาปะกังวา ตัสสะทายาทา ภะวัสสันติ
สัพเพ วินิปาติกา
กัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะพันธู กัมมะปะฏิสะระณา ยัง กัมมัง กะริสสันติ กัลยาณังวา ปาปะกังวา ตัสสะทายาทา ภะวัสสันติ
ความหมายบทแผ่เมตตาหลวง
สรรพสัตว์ 10 จำพวกได้แก่
สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง
สัตว์มีลมปราณทั้งปวง
ภูตผีทั้งปวง
บุคคลทั้งปวง
สัตว์ในร่างกายเราทั้งปวง
สัตว์เพศหญิงทั้งปวง
สัตว์เพศชายทั้งปวง
สัตว์เจริญทั้งปวง
สัตว์ไม่เจริญทั้งปวง
เทวดาทั้งปวง
สัตว์มีใจสูงทั้งปวง
สัตว์นรกทั้งปวง
ความหมายบทแผ่เมตตา
อย่าจองเวรกัน
อย่าผูกพยาบาทอาฆาตกัน
อย่าเบียดเบียนกัน
อย่าข่มเหงรังแกกัน
อย่ามีความทุกข์กายทุกข์ใจ
จงรักษาตนให้เป็นสุขเป็นสุขเถิด
ความหมายบทแผ่แผ่กรุณา
จงพ้นจากความเสื่อมลาภ เสื่อมยศ นินทา และความทุกข์ทั้งปวง
ความหมายบทแผ่มุทิตา
อย่าวับัติคลาดเคลื่อนจากสมบัติ จากยศ จากความสรรเสริญ และจากความสุขที่ได้แล้ว
ความหมายบทแผ่อุเบกขา
มีกรรมเป็นของๆตน มีกรรมเป็นผู้ให้ผล มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย ทำกรรมสิ่งใดไว้ดีก็ตาม ชั่วก็ตาม จักได้รับผลของกรรมนั้น
อานิสงส์ของการแผ่เมตตา ๑๐ ประการ
๑ ย่อมหลับเป็นสุข
๒ ย่อมตื่นเป็นสุข
๓ ย่อมไม่ฝันลามก
๔ ย่อมเป็นที่รักแห่งมนุษย์ทั้งหลาย
๕ ย่อมเป็นที่รักแห่งอมนุษย์ทั้งหลาย
๖ เทวดาย่อมรักษา
๗ ไฟ ยาพิษ หรือศัสตรา ย่อมไม่กล้ำกรายได้
๘ จิตย่อมตั้งมั่นโดยเร็ว
๙ สีหน้าผ่องใส
๑๐ สติสัมปชัญญะสมบูรณ์
๑๑ แม้ยังไม่บรรลุธรรม ย่อมเป็นผู้เข้าถึงพรหมโลก
บทความแนะนำ…อยากได้อานิสงส์แห่งเมตตา ต้องทำด้วยตนเอง