มวลสารสุดยอด ถอดแบบออกจากพรหมรุ่นดังของอาจารย์เฮง ไพรวัลย์ เข้มขลังด้วยอิทธิคุณ
แม้จะเป็นพระพรหมรุ่น 2 ของพระอาจารย์ติ๋ว แต่ถือว่าเป็นพระพรหมผงรุ่นแรกของท่าน จัดสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2540 ลักษณะเป็นเนื้อผงรูปไข่ ด้านหน้าเป็นรูปพระพรหมเต็มองค์ประทับนั่งเหนือบัลลังก์เหมือนเหรียญพระพรหมรุ่นแรก ศิษย์ผู้ศรัทธามีความเห็นว่า พรหมมงคลวัตถุรุ่นนี้เป็นรุ่นที่มีบริสุทธิ์มากที่สุด เพราะว่าท่านอาจารย์ดำริสร้างเองโดยที่ไม่ได้เกิดขึ้นจากคนใดคนหนึ่งมาขอสร้าง ท่านให้ใช้ปูนปลาสเตอร์ถอดแบบออกจากพระพรหมของอาจารย์เฮง ไพรยวัลย์ เพื่อใช้เป็นบล็อกในการจัดสร้างพระพรหมชุดนี้
มวลสารจัดสร้างพระพรหม เนื้อผง พระอาจารย์ติ๋ว
1. ผงพุทธคุณของหลวงปู่สี พินทสุวัณโณ วัดสะแก ต.ธนู อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา
2. ผงพุทธคุณของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก ต.ธนู อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา
3. ผงพุทธคุณของหลวงพ่อมหาโพธิ์ ญาณสังวโร วัดสุวรรณโคตมาราม (วัดคลองมอญ) อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท
4. ผงพระสมเด็จบางขุนพรหม
5. ผงพุทธคุณของ พระเทพสาครมุนี (แก้ว สุวัณณโชโต) วัดสุทธิวาตวราราม (วัดช่องลม) อ.เมือง จ.สมุทรสาคร
6. ผงป่นพระร่วงกรุช่างกล ที่แตกหัก
7. ผงพระหูไห วัดกระไดสามแสน
8. ผงพระหลวงพ่อจุก วัดกระไดหิน
9. ผงอิทธิเจ ที่ท่านพระอาจารย์ติ๋วเขียนและลบตั้งแต่สมัยเป็นเณร
10. ผงจากพระพรหมผงแตกหักของหลวงปู่สี พินทสุวัณโณ วัดสะแก
11. ผงธูปกัมมัฏฐาน
12. ผงพระกรุเก่าต่าง ๆ ผงวิเศษในกรุวัดสัมฤทธิ์กลางทุ่งอำเภอท่าวุ้ง
13. เกสรดอกไม้ 108 ฯลฯ
สุดวิเศษคือผงพุทธคุณที่ท่านอาจารย์ติ๋วท่านได้เขียนและลบด้วยตนเอง นั่นเป็นสิ่งสำคัญที่บ่งบอกถึงความตั้งใจจริงของท่านที่ลงมือเขียนอักขระยันต์ต่าง ๆ ตามสูตรผงปถมังองคมหาวิฐาน ลงบนกระดานชะนวนแล้วจึงทำการลบ เขียนลบ เขียนลบทำเช่นนั้นจนได้ผงวิเศษขึ้นมาประมาณ 1 ชาม และท่านก็นำผงทั้งหมดที่ท่านเพียรทำด้วยความอดทนและยากยิ่งนี้จัดสร้างพระพรหมชุดนี้ทั้งหมด
นอกจากนั้นแล้วท่านยังได้ใส่ผงวิเศษ 5 ประการ อันได้แก่ ผงอิธเจ ผงปถมัง ผงมหาราช ผงพุทธคุณ และ ผงตรีนิสิงเห พร้อมทั้งพระพรหมผงรุ่นเก่าของหลวงปู่สี พินทสุวัณโณ วัดสะแก นำมาผสมลงไปด้วยเพื่อเป็นหน่อเนื้อเชื้อมงคลศักดิ์สิทธิ์ที่สืบทอดกันมา
การจัดสร้างพรหมเนื้อผง อาจารย์ติ๋ว
เมื่อท่านรวบรวมผงวิเศษต่าง ๆ ได้ครบแล้ว ท่านและคณะศิษย์ก็ช่วยกันโขลกตำผสมมวลสารที่กุฏิท่าน ด้วยอานุภาพแห่งมวลสาร เทวดามาอนุโมทนา หรือแรงสั่นสะเทือนอันเกิดขึ้นจากการโขลกตำผสมมวลสารนั้นจึงทำให้ถ้วยสังคโลก ชุดน้ำชาและชามกระเบื้องสมัยเก่าตั้งแต่รัชกาลที่ 5 กระทบกระแทกกันและตกแตกได้รับความเสียหาย (แตก เสียหาย อาจจะไม่เกี่ยวกับขลังหรือไม่ขลัง แต่ไม่ดีแน่ สิ่งของประเมินค่าไม่ได้นั้นเกิดความเสียหายไม่สามารถสร้างทดแทนได้ และต้องมาทำความสะอาดเก็บกวดอีก แต่ถ้าตกไม่แตกนี่สุดยอด)
ทุกคนที่เห็นเช่นนั้น ก็ตกใจที่ตนเองโขลกตำผสมมวลสารด้วยความไม่ระมัดระวัง จนเป็นเหตุให้วัตถุสิ่งของมีค่าเสียหาย ยังไงวันนี้ ต้องโดนแน่ !
แต่ปรากฏว่าท่านพระอาจารย์กลับเงียบเฉย ทำเหมือนเป็นเรื่องปกติ แล้วเอ่ยขึ้นมาว่า “เก็บกวาดไปทิ้งซะ เดี๋ยวมันจะบาดเอา” ศิษย์ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์แต่งุนงงกันไป ด้วยคิดไม่ถึงว่าท่านพระอาจารย์จะ “สงบเย็น” ได้ถึงเพียงนี้
ที่น่าประทับใจไปกว่านั้น ท่านยังเมตตาเล่าว่า “เราเย็นเป็นอยู่อย่างนั้นตลอดระยะเวลาที่เสกพรหมผงและเหรียญพรหมรุ่นแรกนี่ประมาณ 9 เดือน เราเฉย เราไม่รู้สึกยินดียินร้ายอะไรกะใคร ไม่โกรธ ไม่พยาบาท มันเฉย ๆ เย็น…. แต่เราไม่ได้หมดกิเลสนะ เราก็รู้ว่าเราไม่ได้หมด แต่มันเหมือนไม่มี มันสบายอกสบายใจไม่มีเวรมีภัยอะไรกะใคร จึงทำให้เราได้รู้ว่าพรหมคือผู้ที่บริสุทธิ์จริง” นี่คือคำปรารภของบุคคลผู้ตั้งอยู่ในพรหมวิหารสี่ คือ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา
เมื่อท่านและคณะศิษย์ทำการโขลกผสมมวลสารและกดพิมพ์พรหมผงทั้งหมดแล้วจึงนำออกผึ่งจนแห้ง นับจำนวนได้ 1,000 องค์ พอดี เป็นอันว่าพระพรหมรุ่น 2 หรือพระพรหมเนื้อผงรุ่นแรกของพระอาจารย์ติ๋วมีจำนวนการจัดสร้างแค่ 1,000 องค์เท่านั้น จากนั้นจึงนำตรายางสีแดงมาปั้มด้านหลังทุกองค์เพื่อให้เป็นเครื่องหมายหรือ โค้ด เฉพาะรุ่นนี้ ตรายางที่นำมาปั้มนั้นเป็นพระคาถาบทว่า พุทโธ อะระหัง เมตตาคุณณัง อะระหัง เมตตา ที่มีอานุภาพทางด้านเมตตาเป็นอย่างมาก หากท่านใดได้พบพระพรหมผงพระอาจารย์ติ๋วรุ่นนี้แล้วไม่มีตรายางด้านหลัง นั่นถือว่าไม่ใช่ของท่าน
ข้อมูลจาก : navaraht.com