ทำไมต้องนิมนต์พระมางานศพ (สวดศพ) ด้วย
ทำไมต้องนิมนต์พระมางานศพ (สวดศพ) ด้วย ผมจะยังไม่ตอบในส่วนของประเพณี แต่จะตอบในส่วนของพระพุทธศาสนาหรือที่เข้ากับหลักของพระพุทธศาสนา เหตุผลของการนิมนต์พระมางานศพนั้น อาศัยเหตุ 3 ประการ
- เพื่อที่จะฟังธรรม หรือให้พระท่านแสดงธรรม ทั้งภาคภาษาบาลี อันได้แก่การสวดมาติกา สวดพระอภิธรรม สวดสังคหะ หรือภาคอีสานเรียกว่าสวดยอดมุข อันเป็นบทธรรมที่เป็นแม่แบบดั้งเดิมที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้หรือพระธรรมสังคาหกาจารย์ได้เรียบเรียงไว้ และภาคมีการแสงธรรมเป็นภาคภาษาไทยด้วย ไม่ใช่สวดหรือแสดงธรรมให้คนตายฟัง แต่สวดหรือแสดงธรรมให้คนเป็นฟัง
- เพื่อเป็นการทำบุญ มีการถวายทาน ถวายผ้าบังสุกุล หรือบุญเกิดจากการฟังธรรม เพื่ออุทิศให้กับผู้ตาย หลักการคือ ญาติผู้ตายนิมนต์พระมาในงานเพื่อที่จะทำบุญด้วยการถวายทาน สมาทานศีล ฟังธรรม เมื่อเกิดบุญขึ้นแล้ว ญาติก็ทำการอุทิศบุญนั้นให้แก่ผู้ตาย ผู้ตายอยู่ในฐานะผู้อนุโมทนาบุญนั้น ไม่ใช่พระไปสวดให้ผู้ตายได้บุญโดยตรง แต่บุญเกิดจากญาติผู้ตายทำบุญอุทิศไปให้และผู้ตายอนุโมทนา
- เพื่อให้พระปลงธรรมสังเวช ข้อนี้คล้าย ๆ พระไปดูเขาผ่าศพ ชมป่าช้า พิจารณากายคตาสติ พิจารณากรรมฐาน ปลงธรรมสังเวช ด้วยคำว่า “อนิจจา วต สังขารา อุปปาทวยธัมมิโนอุปปัชชิตวา นิรุชชันติ เตสัง วูปสโม สุโข” มีคำแปลดังนี้
อะนิจจา วะตะ สังขารา-สังขารทั้งหลายไม่เที่ยงหนอ……
อุปปาทะวะยะ ธัมมิโน-มีอันเกิดขึ้นและเสื่อมไปเป็นธรรมดา…….
อุปปัชชิตวา นิรุชฌันติ-บังเกิดขึ้นแล้วย่อมดับไป……
เตสัง วูปะสะโม สุโข-การเข้าไประงับสังขารเหล่านั้นเสียได้ เป็นความสุข…..
ไม่นิมนต์พระสวดศพได้ไหม
ถามว่า “ไม่นิมนต์พระสวดศพได้ไหม?” คำตอบคือได้ และไม่ผิดหลักพระพุทธศาสนาแต่อย่างใด ตายและจะนำไปเผาหรือฝัง หรือสับให้แร้งกินเหมือนทางธิเบตก็ได้ ไม่มีความผิด แต่อาจจะผิดประเพณีท้องถิ่น ไม่เป็นที่ยอมรับ ไม่ได้พบสมณะพระสงฆ์ ไม่ได้ฟังธรรม ไม่ได้ทำบุญให้ทานหรือสมาทานศีล ถือว่าไม่เป็นมงคล (ไม่ได้บอกว่าจะเกิดอัปมงคลหรือสิ่งไม่ดีขึ้น แต่ไม่เกิดความเป็นมงคลตามมงคลสูตรข้อว่าด้วยการได้พบสมณะ การใหทาน การฟังธรรม การรักษาศีล เป็นต้น) และอาจจะไม่ได้อุทิศบุญให้แก่ผู้ตาย