เคยมั้ย? ตื่นนอนตอนเช้าแล้วรู้สึกเหนื่อยล้ากับอะไรหลายอย่าง เช่น
- เรื่องงาน
- เรื่องคนรัก
- เรื่องคนในครอบครัว
- เรื่องเงินไม่พอใช้หรือหนี้พูน
- อะไรอีกน๊าา… เอ่อ สำหรับแก้วใสพอแล้วล่ะ แค่นี้มันก็มากพอที่จะถมตัวเราให้ตายคาที่ได้แล้ว
มันคือความเครียดใช่ไหมที่จุกแน่นอยู่ในอกเราตลอด ใช่แล้วล่ะ.. แก้วใสเครียดค่ะ และเชื่อว่าหลายๆ คนก็ต้องเคยเจอความเครียดแบบนี้ด้วยกันทุกคน มันน่าใจหายนะคะแทนที่ทุกครั้งที่ตื่นเช้า เราควรได้ตื่นขึ้นมาสูดอากาศบริสุทธิ์ปลอดโปร่ง โดยที่ในสมองไม่มีเรื่องอะไรเหนื่อยหนักให้ต้องคิด และทุกคืนก่อนนอนก็ควรเข้านอนไปอย่างสบายใจเช่นกัน
แล้วทำไมเราต้องคิดแบบนี้… ทำไมเราต้องเป็นแบบนี้ ถามว่าเพราะเรามีปัญหาอย่างนั้นเหรอ? แต่มาคิดๆ ดูแล้วปัญหาเหล่านี้มันก็เกิดขึ้นกับชีวิตทุกคนนะ ไม่มีใครหลีกเลี่ยงปัญหาพ้นหรอก แต่เราคงต้องแบ่งสรรปันส่วนในการเก็บมาคิดเพื่อหาทางแก้ไข ไม่ใช่การเก็บมาคิดเพื่อยิ่งทำให้ตัวเราเครียดหนักจนแทบล้มประดาตาย
ปัญหาเกิดขึ้นกับทุกคน อยู่รอบตัวเราเหมือนเป็นอากาศที่เรามองไม่เห็น และมันทำให้หลายคนเครียดจนเส้นประสาทแตกตายได้ มันทำให้บางคนคิดฆ่าตัวตาย(คนโง่เท่านั้นนะคะที่เลือกจะทำแบบนี้) แต่ขณะเดียวกัน มองอีกแง่มุมหนึ่งมันก็ทำให้คนที่ล้มละลายกล้าลุกขึ้นสู้ หยัดยืนให้ได้อีกครั้ง ปัญหาก็คือความล้มเหลวอย่างหนึ่ง ถ้าเรามองว่ามีปัญหาแล้ว เราก้าวไปต่อไม่ไหว อุปสรรคมันขัดขวางเยอะ แบบนี้เรายิ่งต้องสู้ มีคนบอกแก้วใสไว้ว่า “ถ้ามีปัญหา แบบนี้ยิ่งต้องสู้ ไม่ใช่มานั่งยอมแพ้”
ใครๆ ก็บอกเตือนแก้วใสแบบนี้ แต่นาทีแรก เสียงของหัวใจตะโกนออกไปว่า “จะสู้ได้ยังไง ก็ไม่มีแรงใจสู้ มันเหนื่อยหนักเกินจะทนรับไหว มันเหนื่อยล้าจนท้อแท้ไปหมดแล้ว” เสียงในใจพร่ำออกมาราวกับใครกรีดเลือดเนื้อเราให้เจ็บปวดทุรนทุรายไปพร้อมกัน นั่นมันเสียงของหัวใจเรานาทีแรกใช่ไหม ก็คงเหมือนปฏิกิริยาแรกในการตอบสนองของมนุษย์ที่เวลาเราเจอเรื่องราวต่างๆ นานาหรือมีอะไรมาทำให้เราบาดเจ็บ สัญชาตญาณมันจะส่งสัญญาณความเจ็บปวดแผ่ออกมาก่อน จากนั้นเอาเข้าจริง เมื่อเวลาผ่านไป ถ้าคนเราหากมีสติ ใจเย็นและคิดทบทวนอย่างฉลาดหน่อย ไม่มีใครโง่ยอมจมจ่อมกับปัญหาทั้งวันทั้งคืนต่อไปหรอกจริงมั้ยคะ
แก้วใสยอมรับว่าเป็นผู้หญิงอ่อนแอง่าย มีเรื่องมากระทบหลายๆ เรื่องเข้าก็ล้มได้ง่าย แต่เอาเข้าจริง ขณะเดียวกัน ก็เป็นคนที่พร้อมจะเข้มแข็งและลุกขึ้นสู้ไปพร้อมกันนะ เวลาท้อแท้หนักๆ แก้วใสจะบอกตัวเองเลยว่าถ้าอ่อนแอหรือร้องไห้ เราจะให้เวลาตัวเองเป็นได้แค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้นนะ จากที่เมื่อก่อนอาจให้เวลาทั้งวัน แต่ตอนนี้ไม่ละ เพราะงานของเรายังมีรอให้ทำเยอะ เพราะเวลาของเรามันมีค่ามากกว่าจะมานั่งอ่อนแอและเพราะชีวิตเราต้องก้าวต่อไป!
แล้วเราจะไม่เสียดายเวลาหรือ เพราะเวลาที่เราเอาแต่ร้องไห้เสียใจหรือมานั่งท้อแท้ไปวันๆ ตรงกันข้าม ถ้าคนฮึดสู้เขาจะเปลี่ยนวันเวลาเหล่านั้นให้กลายเป็นโอกาส เพื่อพาตัวเขาก้าวไปสู่ความสำเร็จอีกครั้ง เขาต้องคว้าชัยชนะจากความพ่ายแพ้ล้มเหลวให้ได้ และแน่นอนแก้วใสเชื่อเช่นนั้น… จึงไม่เคยยอมให้ตัวเองอ่อนแอนาน ภายใน 2-3 ชั่วโมงนี่คือเวลาอ่อนแอนานสุดสำหรับระยะเวลาทำใจหรือเยียวยาสภาพจิตใจให้กลับมาทำงานแบบฮึดสู้อีกครั้ง
แก้ปัญหาชีวิตด้วยสติ โดยเริ่มที่ต้นเหตุและผสานด้วยกำลังใจ เวลาเหนื่อยท้อแท้… แก้วใสหันมามองข้อดีของชีวิตค่ะเพื่อให้ตัวเรามีเรี่ยวแรงเดินต่อ และข้อดีที่มีอยู่เหล่านั้นก็สามารถผลักดันชีวิตแก้วใสให้ก้าวข้ามปัญหาไปได้อีกเปราะหนึ่ง เช่น
– หันมามองงานที่เรามีอยู่ สมมติมีปัญหาการเงิน ก็จะมองต้นตอการแก้ปัญหา เราจะหาเงินจากที่ไหนได้บ้าง ก็คือ การทำงานใช่ไหม และงานแก้วใสมีไหม อ้อ… นับนิ้วได้เลยมีเพียบ ถ้านั่งนับเพลินๆ เนี่ยงานเยอะและเงินที่จะตามมาก็เยอะพอที่จะเลี้ยงเราให้รอดพ้นจากจุดนี้ไปได้ (ถ้าเราเอาจริง)
– กำลังใจจากคนรอบข้าง นี่คือผลพลอยได้ คือความโชคดีพิเศษค่ะ จริงๆ แล้วถ้าเราตัวคนเดียว การจะหาแรงใจจากคนอื่นมันยากมากนะคะ แต่แก้วใสถือว่าโชคดีที่ยังมีคนคอยปรึกษา ให้กำลังใจพูดคุยกันได้ ในยามอ้างว้างหมดแรงใจ เลยรู้สึกว่าเราไม่ได้ตัวคนเดียวบนโลกนะ ยังมีคนคอยเป็นห่วงและเขาก็อยากเห็นเรามีชีวิตที่ดี คนเหล่านี้ก็ยังเป็นกำลังใจให้เราสู้ต่อ ไม่ว่าจะเป็นลูกค้า เพื่อนร่วมงาน เพื่อนๆ เราและคนรอบตัวที่ปรารถนาดีต่อเรา เป็นต้น หากเรามองเห็นคนเหล่านี้ เราก็จะยิ้มสู้ได้มากขึ้น
– กำลังใจจากตัวเราเองดีที่สุด ท้ายที่สุดแล้ว แก้วใสท่องไว้เสมอว่า หากบนโลกนี้ไม่มีใคร เราจะอ้อนวอนเฝ้าขอแต่กำลังใจจากคนอื่นอยู่ตลอดได้ยังไง “กำลังใจที่ดีที่สุดต้องมาจากตัวเราเองก่อนดีที่สุด” จุดนี้เราต้องสร้างให้ตัวเองได้เสมอ เพราะฉะนั้น หลายครั้งเหมือนกันนะคะที่แก้วใสตุนกำลังใจไว้ให้ตัวเองได้หยิบใช้เรื่อยๆ หมั่นสร้างความรู้สึกดีๆ ให้ตัวเองค่ะ ไม่ว่าจะทำในสิ่งที่เราชอบ ฟังเพลง อ่านหนังสือและลองนั่งคิดจินตนาการถึงสิ่งดีๆ ที่เราจะได้รับ หากเราทำสำเร็จและอื่นๆ อีกหลายอย่างรอบตัวเราที่เราจะมองให้เป็นโอกาสแล้วหยิบมาเป็นวัตถุดิบแห่งกำลังใจได้
เพราะฉะนั้น ใครที่กำลังเครียดๆ กับปัญหาชีวิตหลายอย่าง วันนี้ลองปรับมุมมองของตัวเองกันใหม่นะคะ แล้วชีวิตเราจะต้องก้าวข้ามความล้มเหลวสารพัดได้แน่นอน ปัญหามีไว้ให้แก้ จำให้ขึ้นใจแบบนี้ไปค่ะ ไม่ได้มีเอาไว้ให้เราเครียดเป็นทุกข์กับมัน เลือกที่จะเก็บมาคิด …แต่จงคิดว่า เราคิดเพื่อแก้ปัญหาเท่านั้น แต่หากคิดแล้วแก้ไขปัญหาไม่ได้ ไม่ต้องไปคิดค่ะ มันจะบั่นทอนพลังใจเราเปล่าๆ ยังไงซะคนเราก็ไม่ได้มีวันแย่ไปตลอดทุกวันหรอก สิ่งดีๆ ก็ยังเวียนว่ายรายรอบตัวเรา ลองดูกันนะคะ แก้วใสเชื่อว่าคุณต้องทำได้.. และเช้าวันต่อไป สิ่งใหม่ๆ เรื่องใหม่ๆ และชีวิตใหม่ที่ดีกว่าจะต้องเป็นของคุณค่ะ