ตำนานมนุษย์หมาป่า
มนุษย์หมาป่า (Werewolf) เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นผีดูดเลือดเหมือนกับแวมไพร์ มีนิสัยดุร้ายและชอบกินเลือดเนื้อของสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ซึ่งชาวยุโรปมีความเชื่อว่ามนุษย์หมาป่า จะกลายร่างจากมนุษย์ธรรมดา เป็นหมาป่าในคืนเดือนเพ็ญพระจันทร์เต็มดวง โดยสามารถกลายร่างเป็นหมาป่าได้ทั้งตัวและเพียงครึ่งตัว หรืออาจจะกลายร่างเป็นสัตว์อื่น ๆ อีกได้ เช่น หมี เป็นต้น
การฆ่ามนุษย์หมาป่านั้นมีวิธีเหมือนการฆ่าแวมไพร์ โดยการตอกลิ่ม เผาไฟ หรือยิงด้วยกระสุนที่ทำจากเงิน หรือกระสุนผ่านการปลุกเสก ทั้งนี้มนุษย์หมาป่าจะไม่ชอบแสงแดดและการถูกตามล่า รวมทั้งตำนานมนุษย์หมาป่าที่เล่าขานกันมา อาจจะมาจากความกลัวหมาป่าของชาวยุโรป เพราะหมาป่าแถบนั้นมีลำตัวขนาดใหญ่ และออกล่าเหยื่อเป็นฝูง โดยจะออกซุ่มโจมตีเหยื่อตอนกลางคืน รวมถึงความเชื่อและความหวาดกลัวการทำร้ายของมนุษย์หมาป่า เนื่องจากมีนิสัยดุร้ายเหมือนปีศาจ แม่มด และแวมไพร์ ทำให้คนกลัวมนุษย์หมาป่ามากขึ้นไปอีก และตำนานความกลัวนี้ ได้ถูกถ่ายทอดออกมาทางวรรณกรรมต่าง ๆ รวมถึงทางภาพยนต์ด้วย
ความเชื่อในเรื่องมนุษย์หมาป่า
ความเชื่อเรื่องมนุษย์หมาป่าของคนที่หวาดกลัวมนุษย์หมาป่า กับนักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์มีความเชื่อสวนทางกัน เพราะนักวิทยาศาสตร์ เชื่อว่าจริง ๆ แล้วมนุษย์หมาป่าเป็นเพียงการแสดงสัญชาตญาณสัตว์ป่าที่มีอยู่ในกายมนุษย์ ส่วนเรื่องความเชื่อว่ามนุษย์ สามารถกลายร่างเป็นสัตว์ได้นั้น มีอยู่ทั่วไปในโลกทุกชาติทุกภาษาล้วนมีความเชื่อเรื่องนี้ เช่น ในอเมริกาใต้มีความเชื่อเรื่องมนุษย์งูเหลือมหรือมนุษย์จระเข้ ในแอฟริกามีเรื่องมนุษย์เสือดาว เสือดำ หรือปีศาจช้าง รวมทั้งในอินเดียที่มีมนุษย์สิงโต หรือ “นรสิงห์” และในรัสเซียกับสแกนดิเนเวียที่มีมนุษย์หมี หรือในเทพปกรณัม ชาวแอฟริกาบางคนสามารถกลายเป็นสุนัขจิ้งจอกได้ในการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา หรือแม้แต่ในเอเชียอย่างไทยและอินเดีย มีความเชื่อว่ามีมนุษย์เสือหรือเสือสมิงอยู่จริง
ทำไมคนจึงแปลงร่างเป็นหมาป่าได้ ?
ส่วนเหตุผลที่ยังหาคำตอบอยู่ คือ ทำไมคนปกติจึงสามารถแปลงร่างเป็นหมาป่าได้ ซึ่งมีหลักฐานเล่าต่อกันว่า การแปลงร่างของมนุษย์ไปเป็นหมาป่านั้น เกิดจากการใช้คาถาปลอมตัว หรือมีการใช้น้ำมันศักดิ์สิทธิ์มาชโลมที่กาย และใส่เสื้อคลุมที่ทำจากหนังหมาป่า หรือคาดเข็มขัดที่ทำด้วยหนังหมาป่า บวกกับกลิ่นอายของกลิ่นดอกไม้พิเศษบางอย่าง จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย
โดยขนสีน้ำตาลจะยาวขึ้นปกคลุมทั่วทั้งร่างกาย หูตั้งตรงชี้ฟ้ายาวออกมาคล้ายหมาป่า มีเขี้ยวแหลมคม มีดวงตาที่แดงฉานเมื่อกระทบแสงไฟ ซึ่งพิธีการต่าง ๆ จะต้องเกิดขึ้นในคืนเดือนเพ็ญเต็มดวง เพราะเชื่อว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะต่อการกลายเป็นมนุษย์หมาป่า และพร้อมออกล่าเหยื่อเนื้อสดๆ หรือดื่มเลือดได้หลังแปลงร่างสมบูรณ์
โศกนาฏกรรมจากน้ำมือของมนุษย์หมาป่า
ตามบันทึกของประเทศฝรั่งเศส มีการบันทึกไว้ถึงปี ค.ศ.1573 ว่ามีหมู่บ้านแห่งหนึ่งเกิดเรื่องสยองขวัญ เพราะมีเด็กในหมู่บ้านถูกฆ่าในเวลาใกล้กัน โดยฆาตกรได้ฉีกเนื้อหนังศพ และกินอย่างสยดสยอง ซึ่งผู้ต้องสงสัยในคราวนั้น ชื่อ กิลส์ การ์นิเยร์ จึงได้โดนทรมานในการสืบหาฆาตกร ทำให้เขายอมรับว่าเป็นฆาตกรที่ลงมือฆ่าเด็ก ๆ เอง ต่อมาในปี ค.ศ.1589 ก็เกิดเหตุสยองขึ้นซ้ำอีกที่ประเทศเยอรมัน ซึ่งมีชายผู้ต้องสงสัยชื่อ ปีเตอร์ สตับบ์ ซึ่งมีหลักฐานยืนยันว่าเขาเป็นฆาตกร คือ เข็มขัดหนังหมาป่า และเขาสารภาพว่าได้ฆาตกรรมมาแล้วอย่างโหดเหี้ยมตลอดระยะเวลากว่า 25 ปี ซึ่งหากเป็นเหยื่อผู้หญิง สตับบ์จะข่มขืนก่อนแล้วจึงฆ่า แล้วค่อยกินศพนั้น ความผิดของเขาทำให้เขาได้รับโทษด้วยการประหารชีวิต
นอกจากนั้นที่ประเทศฝรั่งเศสยังมีชนเผ่ามนุษย์หมาป่าที่ เรียกว่า พวกลูแปง ที่อยู่รวมกันเป็นฝูง เมื่อตกกลางคืนพวกเขาจะจับกลุ่ม พูดคุยกันด้วยภาษาแปลกๆ และชอบพิงกำแพงสุสานของเมือง เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าของอะไรก็ตาม จะรีบหนีเพราะความกลัว รวมทั้งชาวลูแปงนิยมใช้มือเปล่าๆ ขุดหลุมศพ เพื่อนำกระดูกศพขึ้นมาแทะเล่น และเมื่อถึงคืนเดือนเพ็ญ จะกลายร่างจากมนุษย์เป็นหมาป่าเพื่อออกล่าเหยื่อ และจะกลับคืนร่างมนุษย์เมื่อพระอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้าในรุ่งสาง
การตามล่ามนุษย์หมาป่า และการป้องกันตัว
แม้ว่ามนุษย์หมาป่าตามตำนานต่าง ๆ จะมีความน่ากลัวมากขนาดไหน แต่การล่ามนุษย์หมาป่าสามารถทำได้ไม่ยาก เปรียบเหมือนการล่าหมาป่าทั่วไป ซึ่งหลักฐานต่าง ๆ ที่ทางยุโรปบันทึกไว้เกี่ยวกับการฆ่ามนุษย์หมาป่า เช่น การยิง ทุบตี และการแทงด้วยมีด แต่บางตำนานก็มีบันทึกว่า มนุษย์หมาป่าจะฆ่าด้วยวิธีธรรมดาไม่ได้ เพราะมีจิตวิญญาณปีศาจสิงอยู่ ส่วนในประเทศอังกฤษ สกอตแลนด์ และฝรั่งเศส เชื่อว่ากระสุนปืนไม่สามารถฆ่ามนุษย์หมาป่าได้ แต่จะตายด้วยกระสุนปืนที่เป็นโลหะเงิน และมีการลงอาคมมาแล้วเท่านั้น
รวมทั้งวิธีการป้องกันตัวเมื่อต้องเจอกับมนุษย์หมาป่า หากคุณรู้ชื่อเขาให้รีบตะโกนชื่อของมนุษย์หมาป่าคนนั้นสามครั้ง จะทำให้เขารู้สึกตัวและคืนร่างเดิม หรือการทำให้มนุษย์หมาป่าเลือดออกสามหยด จะสามารถป้องกันตัวได้ ส่วนมนุษย์หมาป่าที่คืนร่างมนุษย์อย่างถาวร จะต้องงดเว้นจากการกินเนื้อมนุษย์เป็นเวลา 9 ปี จะทำให้ปีศาจที่สิงอยู่ในตัวหายไป
จากตำนานที่นำเสนอไปข้างต้นนั้น เป็นตำนานของมนุษย์หมาป่าที่น่าสนใจ แต่ตำนานที่เล่าต่อ ๆ กันมาอาจจะไม่ใช่เรื่องจริงทั้งหมด ดังนั้นเรื่องของมนุษย์หมาป่า ยังเป็นเรื่องต้องหาคำตอบกันต่อไปว่า มีที่มาที่ไปอย่างไร รวมถึงตอนนี้ยังมีมนุษย์หมาป่าอยู่จริง ตามตำนานหรือไม่ด้วย