เรียกจิตคนรักให้กลับมา สายขาว สายดำต่างกันอย่างไร

เกี่ยวกับการเรียกจิตคนรักให้กลับมามีคนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก สอบถามเข้ามาเยอะมาก บางท่านก็สอบถามเข้ามาเหมือนแค่อยากรู้ว่าผมจะแสดงทีท่าอย่างไร ผมอาจจะพูดคุยไม่เก่ง ไม่ชักชวนใครซื้อของมากนัก แล้วเขาก็หายไป คือเขาคงคิดว่าผมเป็นนักขายของหรือนักรับทำพิธี เห็นผมไม่ได้เสนอนั่นนี่มาก แล้วก็คิดว่าผมไม่ใส่ใจลูกค้าแล้วก็หายไป ผมตอบมาหลายบทความแล้ว ผมไม่ใช่หมอทำเสน่ห์ ไม่ได้รับทำ แค่เป็นผู้หนึ่งคนหนึ่งที่มีความสนใจเรื่องงนี้เท่านั้นเอง และหลาย ๆ พิธีกรรมผมลงมือทดสอบทำด้วยตนเองมาแล้วครับ

แต่ก็มีบางคนให้ความสนใจสอบถามมา ผมก็แนะนำไปว่าต้องทำอย่างไร เมื่อเขาทำตาม บางคนก็ได้ผลเห็นผลทันตาก็มีนะครับ ขึ้นอยู่กับกรณีไป เห็นผลโดยไม่เสียเงินสักบาทเลยก็มี ฉะนั้น ผมเองก็ไม่ได้มุ่งเน้นในการขายของจนเกินไป ของที่ขายก็เป็นของที่ผมมีผมใช้อยู่ ผมไม่ได้ไปรับของมีจากไหน ไม่ได้สั่งให้ใครผลิตแล้วนำมาขาย

การเรียกจิตคืออะไร

การเรียกก็คือการโน้มน้าว การดึง การกระตุ้นให้อีกฝ่ายหวนระลึกถึงเรา แล้วมาหาเรา แต่เราไม่สามารถที่จะติดต่อพูดคุยหรือฉุดเขามาทางกายได้ เรามีความเชื่อว่าคนเรานั้นมีใจเป็นนาย มีจิตเป็นเครื่องนำทางหรือควบคุมกาย ในเมื่อเราไม่สามารถที่จะพูดคุยติดต่อให้เขากลับมาได้ จึงต้องใช้ทางจิต หรือทางด้านมโนสัมผัส เป็นเรื่องของจิตวิญญาณไปแล้ว โดยการใช้เทคนิคกรรมวิธีต่าง ๆ เพื่อโน้มน้าว ดึงดูดจิตใจเขาให้เขาคิดถึงเรา ให้เขาอยากมาหาเรา เมื่อเขาคิดถึงเราหนัก ๆ ถูกรบกวนทางจิต (หรือมีถูกแนะนำทางจิต) จิตที่เป็นนายก็จะพากายเขามาหาเรา ที่นี้ก็เป็นหน้าที่ของเราที่จะดูแลกายใจของเขานั้นต่อไป ถ้าทะเลาะกันมาก็จะได้ปรับความเข้าใจกัน ให้อภัยซึ่งกันและกัน ความสุขสมหวังก็จะตามมา

การเรียกจิตสายขาว คืออะไร

การเรียกจิตสายขาว คือเทคนิคหรือพิธีกรรมที่ไม่เป็นพิษไม่เป็นภัยต่อผู้ที่เราเรียกจิตเขามา ถ้าเปรียบทางโลกก็เหมือนการเจรจาพูดคุย การเสนอข้อแลกเปลี่ยนต่อกัน การสร้างมนุษยสัมพันธ์ การสร้างสัมพันธไมตรีที่ดีต่อกัน เมื่อเขาเห็นดีเห็นงามด้วย เขาจะตกลงปลงใจกับเรา การเจรจาก็สำเร็จตามความมุ่งหมาย ไม่เป็นอันตรายต่อทั้งสองฝ่าย ไม่เป็นภัยต่อบุคคลผู้ที่เราโน้มน้าวหรือเรียกจิต มีแต่สำเร็จผลหรือไม่สำเร็จเท่านั้นเอง

การทำพิธีเรียกจิตในทางด้านจิตวิญญาณหรือพิธีกรรมก็เช่นกัน ซึ่งอาจจะอาศัยพิธีกรรม แรงครู อำนาจเทวดา มนต์คาถา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ บุญกรรมคุณความดีต่าง ๆ ที่เคยได้ทำร่วมกันมา เป็นเครื่องเตือนสติ กระตุ้นจิตคนที่เราจะเรียกจิตให้เขาหวนระลึกถึงคุณความดีของกันและกัน และพร้อมที่จะรับฟังเรา ให้อภัยเรา ซึ่งไม่มีผลร้ายใด ๆ ต่อเขา ไม่ได้ไปบังคับจิตใจเขาแต่อย่างใด

การเรียกจิตสายดำ คืออะไร

การเรียกจิตสายดำนี้ ถ้าทางโลกก็เหมือนกันนำกำลังพร้อมอาวุธครบมือไปฉุดลากเขามา หากเขาไม่มาก็ทำร้ายเขา หรือฉุดลากข่มขู่เพื่อให้เขามาให้ได้ ซึ่งแน่นอนว่ามีผู้ร้ายต่อตัวเขาเอง ไม่มาก็เจ็บ มาก็ยังเจ็บอีกเพราะถูกบังคับให้มา ร่างกายและจิตใจอาจจะบอบซ้ำเพราะถูกบังคับตบตีมาให้มา

การทำพิธีเรียกจิตสายดำก็เช่นกัน พวกนี้จะใช้มนต์ดำ มนต์คาถาที่มีกำลังแรงไปบีบบังคับเขา หรือไม่เช่นนั้นก็ใช้ว่านยาต่าง ๆ ที่มีผลต่อระบบประสาทของเขา ใช้อำนาจภูตผีปีศาจ น้ำมันพราย วิญญาณต่าง ๆ ฉุดเขามา ซึ่งหากเขาไม่มาวิญญาณหรือมนต์คาถาพิธีกรรมนั้น ๆ ก็จะตามหลอกหลอนเขา ไม่เป็นอันอยู่อันกิน หลับนอนไม่ได้ ทำการทำงานไม่ได้ ทำให้ผู้ที่ถูกการเรียกจิตวิธีนี้มีหน้าตาที่เศร้าหมอง ซุบผอม ไม่มีสง่าราศี มีความบอบซ้ำทั้งทางร่างกายและจิตใจ แม้ได้ตัวเขามาก็เหมือนหุ่นยนต์ ไม่มีชีวิตจิตใจ จิตใจมักไม่อยู่กับเนื้อกับตัว นานเข้าอาจจะเป็นเสียสติหรือบ้าได้ ซึ่งในสมัยก่อนคนโบราณเล่าให้ฟังเสมอว่าลักษณะนี้เป็นลักษณะของคนที่ถูกของ โดนป้ายน้ำมันพราย ถูกฝังรูปฝังรอย ถูกเสน่ห์ยาแฝด หรือถูกยาสั่ง

ถ้าหากเรารักคนที่เราทำการเรียกจิตจริง เมื่อได้อ่านบทความนี้จบแล้ว ท่านคงจะตัดสินใจได้ในระดับหนึ่งแล้วว่า ควรที่จะไปหาหมอทำเสน่ห์เรียกจิตแบบไหน แต่โดยมากหมอทำเสน่ห์จะเลือกทำวิธีที่หนึ่งเพราะทำได้ง่าย ไม่เป็นอันตรายต่อทั้งสองฝ่าย ส่วนการเรียกจิตวิธีที่สองนั้น หมอทำเสน่ห์ไม่ค่อยทำกัน เพราะเหตุว่า 1.มันเป็นการบังคับจิตใจเขา เป็นการสร้างบาปกรรมความบอบซ้ำทั้งสองฝ่าย 2.หมอทำเสน่ห์ทำไม่ได้ จึงเลี่ยงไปใช้วิธีที่หนึ่งหรือแนะนำวิธีที่หนึ่งแทน