ในสมัยเด็ก ๆ ที่ต่างจังหวัดคุณเคยบริการหนังกลางแจ้งไหม (บ้านผมเรียกหนังขายยา) ซึ่งเขาจะฉายหนังเพื่อเรียกคนมารวมกัน มาดูเขาเยอะ ๆ เมื่อเรากำลังดูหนังมันส์ ๆ ยังไม่ทันจบเขาก็จะเปิดไฟขายยา ขายของ ขายสินค้าของเขา
ในข้างถนน หรือวัดคุณเคยเห็นกลุ่มนักมายากลแสดงให้คนดูฟรีไหม มีการแสดงมายากลอันน่าตื่นตาตื่นใจมากมาย บ้างก็โชว์งู บ้างก็โชว์พังพอนและงูทำท่าจะให้พวกมันกัดกัน แต่ก็ไม่กัดสักที พอคนสนใจเข้ามาดูเยอะ ๆ ก็ขายยา ขายเครื่องรางของขลัง อ้างว่าจะนำเงินไปถวายสังฆทาน ชุดละ 199 บาทก็มี
ในงาน วัดบางแห่งจัดงานใหญ่โต มีการจ้างนักร้องนักแสดงชื่อดังมาเพื่อให้คนได้ชมฟรี เพื่อเรียกคนเข้ามา เมื่อคนเข้ามาแล้ว คนส่วนมากที่เข้ามาก็ทำการซื้อของที่ระลึก บูชาดอกไม้ธูปเทียน ถวายสังฆทาน หยอดตู้บริจาคให้วัด เป็นรายได้เข้าวัด
นี่คือประโยชน์ของการเรียกคนเข้ามารวมตัวในที่เดียวกันมาก ๆ เมื่อคนมารวมตัวกันแล้วเราจะทำอะไรก็ได้ ขายของก็ได้ แจกของฟรีก็ได้ ให้ช่วยงานช่วยการก็ได้ หรือบางครั้งสามารถชักจูงคนเหล่านั้นไปขึ้นเขาลงห้วยหรือเข้าสภา ปิดสนามบินก็ยังได้
ในโลกออนไลน์ก็เหมือนกัน หากเรามีเว็บไซต์สักหนึ่งเว็บไซต์แล้วมีคนเข้าชมเว็บไซต์วันละหนึ่งแสนคน เราจะทำอะไรก็ได้ เราจะหาเงินยังไงกับเว็บไซต์นั้นก็ได้ เช่น ขายของ รับโฆษณาหรือรับติดแบนเนอร์ สมัคร adsense มาติดก็ได้ ขอแต่ให้เป็นเว็บไซต์ที่ไม่ผิดกฎหมาย ไม่ผิดศีลธรรมสร้างประโยชน์ให้กับผู้เข้าชม ซึ่งเว็บไซต์นี้จะสร้างรายได้ให้แก่คุณแม้ในขณะที่คุณกินข้าว นอนหลับอยู่
คุณสังเกตไหม ทำไม Google ถึงให้ใช้ search เขาเอารายได้มาจากไหน ก็มาจากการรับโฆษณานั่นเอง Youtube.com ที่ต้องใช้พื้นที่มหาศาลในการเก็บข้อมูลให้เราเข้าไปใช้งานฟรี อัพโหลดวิดีโอฟรี พวกเขาเอารายได้มาจากไหน ก็เอามาจากผู้สนับสนุนหรือผู้ลงโฆษณานั่นเอง
Facebook ที่เราใช้ทุกวัน ทุกคน บางคนมีหลาย Account ด้วยซ้ำ เพื่อนบางคนพูดว่าเขาให้เราใช้ฟรี เขาเอางบมาจากไหนมากมาย ? ถึงเขาจะให้เราใช้ฟรีก็ตาม เขาให้เราเข้าฟรีเพื่อต้องการให้คนเข้าไปใช้เยอะ ๆ รวมตัวกันเยอะ ๆ ยิ่งคนเข้ามากเท่าไหร่ ยิ่งเป็นประโยชน์ต่อเขา แล้วเขาก็ขายโฆษณาได้มากกว่าที่เราคิด
ระบบต่าง ๆ ที่กล่าวมานี้ เป็นความฉลาดของการธุรกิจสมัยใหม่ ที่สามารถสร้างรายได้ให้แก่ผู้ที่เป็นเจ้าของ แม้ในขณะที่คุณกำลังนอนกอดแฟนคุณอยู่ที่บ้าน