บทความนี้ กล่าวถึงความเชื่อ เชื่อก็เชื่อไป ไม่ได้ว่าอะไร แต่อย่าไปทำลายธรรมชาติเลย ใน wikipedia ให้ข้อมูลประมาณนี้ว่า กัลปังหา หรือ กะละปังหา ในภาษาอังกฤษใช้คำว่า Coraline algae ส่วนภาษามลายูเรียกว่า kalam pangha ถือว่าเป็นสัตว์ทะเลประเภทหนึ่งที่ไม่มีกระดูกสันหลัง แต่จะมีตัวมีขนาดเล็กมาก มีรูปร่างคล้ายทรงกระบอกหรือรูปถ้วย กัลปังหา จัดอยู่ในพวกเดียวกับปะการัง
กัลปังหา ถือว่าเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 ว่าห้ามมีไว้ในครอบครองหรือเพื่อการค้าขาย ยกเว้นการวิจัยกัลปังหา
ความเชื่อเกี่ยวกับกัลปังหา
กัลปังหา มีลักษณะพิเศษอยู่อย่างหนึ่ง เมื่ออยู่ในน้ำ จะมีลักษณะที่อ่อนนุ่ม แต่หากนำขึ้นบก (และมันก็ตาย) กลับแข็ง มีความเชื่อกันมาแต่โบราณว่าเป็นของที่มีพลังอำนาจอยู่ในตัว ถึงแม้ยังไม่ได้ทำพิธีปลุกเสกก็ตาม เหมือนกับความเชื่อที่ว่า งาช้าง งาสะเด็น เขี้ยวเสือกลวงเป็นของทนสิทธิ์ มีฤทธิ์อยู่ในตัว แต่ถ้าได้นำมาทำเป็นเครื่องรางของขลังและทำพิธีปลุกเสกแล้วก็จะเพิ่มความเข้มขลังยิ่งขึ้น
อิทธิคุณของกัลปังหากับความเชื่อ เลือกเชื่อทางอื่นดีกว่า
อิทธิคุณของกัลปังหา หรือบางคนอาจจะรู้จักในนามพุทธคุณ แต่ผมคิดว่าควรใช้คำว่า อิทธิคุณ หรือคุณของกัลปังหาน่าจะเหมาะกว่า และขอย้ำว่านี่เป็นความเชื่อ เราแค่นำเสนอความเชื่อให้เป็นความรู้เท่านั้น การทำลาย การครอบครองกัลปังหาเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายนะครับ
- กัลปังหา ฟังเสียงเผิน ๆ แล้วคล้ายเสียง กันปัญหา บางคนจึงถือเอาเคล็ดนี้ว่า สามารถกันปัญหาต่าง ๆ ออกไป แต่ผมเชื่อว่า ถ้าท่านถือกัลปังหาไปโชว์หรือไปขาย ปัญหาจะมาถึงท่านแน่ เพราะท่านกำลังทำผิดกฎหมาย การป้องกันปัญหาอย่างถูกวิธี คือเมื่อรู้ว่าอะไรคือเหตุของปัญหา ก็ไม่เข้าไปเกี่ยวข้องมัน
- กัลปังหา สามารถป้องกันภูติผีปีศาจได้ ป้องกันคุณไสยได้ ขับสิ่งชั่วร้ายได้ ผมไม่ได้ปฏิเสธหรือยอมรับในเรื่องอิทธิคุณของกัลปังหานี้ แต่อิทธิคุณด้านนี้ เป็นเรื่องพื้น ๆ ของเครื่องรางทั่วไป เครื่องรางเกือบทุกชนิดมักจะอ้างถึงอิทธิคุณในด้านกันคุณไสย มนต์ดำ อาถรรพ์ พลังลึกลับ เพราะสิ่งเหล่านี้มองไม่เห็น พิสูจน์ยากครับ เลยนำมากล่าวอ้างได้ง่าย ถ้าท่านต้องการแค่อิทธิคุณในด้านนี้ ผมว่าท่านเลือกอย่างอื่นก็ได้ พระเครื่องที่ท่านห้อยคออยู่ การสวดมนต์ไหว้พระ หรือแม้แต่การไหว้บิดามารดา การบำรุงบิดามารดาผู้มีพระคุณ ก็กันคุณไสย มนต์ดำ อาถรรพ์ ขับสิ่งชั่วร้าย เสนียดจัญไรได้แล้ว หรือถ้ายังไม่ได้เราก็ยังมีทางเลือกอีกมากมายไม่ใช่แต่กัลปังหาเท่านั้น
- นอกจากเชื่อว่ากัลปังหามีคุณในตัวแล้ว ก็ยังมีความเชื่อซ้อนความเชื่อเข้าไปอีกว่า ถ้าหากนำกัลปังหามาทำเป็นเครื่องรางแล้วทำการปลุกเสกก็จะขลังยิ่งขึ้นเป็นทวีคูณ จึงมักนิยมนำกัลปังหาดำ แดง ขาว มาทำเป็นปลัดขิกหรือเครื่องรางอื่น ๆ ถ้าเรายังชื่นชอบในตัวเครื่องรางปลัดขิกอยู่แล้ว สิ่งที่สามารถนำมาทำเป็นเครื่องรางปลัดขิกนั้นมีมากมาย ใช้ไม้ชนิดอื่นก็ได้ ขลังเหมือนกัน หรือถ้าท่านคิดว่าปลัดขิกที่ทำจากกัลปังหาดีที่สุด ถ้าผมมีปลัดขิกทำจากทองคำ และกัลปังหา ขนาดใหญ่เท่ากันและยาวเท่ากัน ท่านจะเลือกปลัดขิกทำด้วยอะไร
- อิทธิคุณของกัลปังหาดำ มีความเชื่อว่า พระราหู ประทับ อิทธิคุณของกัลปังหาขาว มีความเชื่อว่า พระเกตุประทับ และอิทธิคุณของกัลปังหาแดง มีความเชื่อว่า เป็นสัญลักษณ์ของพระอาทิตย์ซึ่งเป็นใหญ่ในจักรวาล
- นอกจากนั้นยังมีเรื่องเล่าเสริมเติมตำนานเข้าไปอีกว่า ครั้นเมื่อพระเจ้าอโศกมหาราช ได้ประกอบพิธีสมโภชพระมหาธาตุเจดีย์ พระองค์ทรงพระปริวิตกว่าพญามารจะมารบกวนพิธี จึงได้นิมนต์พระอุปคุตเถระมาจากสะดือทะเล เพื่อมาคุ้มครอง ป้องกันพิธีการไม่ให้พญามารมาทำลายได้ พระเถระเจ้าจึงได้นำไม้กัลปังหามาปักรอบมณฑลพิธีไว้ เพื่อป้องกันปัญหา และไม่ให้มีปัญหาเกิดขึ้นได้ เรื่องนี้ผมเข้าใจว่าเป็นเรื่องเล่าเสริมเติมแต่งเข้ามา ไม่มีในตำรา พระอุปคุตมีจริง แต่การหักไม้กัลปังหามาปักรอบนั้น ผมยังสงสัยอยู่ ใครเจอตำราบาลีช่วยบอกผมให้หายสงสัยด้วยครับ บางเรื่องเรามักแต่งเรื่องเสริมขึ้นมา เช่น นาคขอฝากชื่อไว้ในพระศาสนา หากใครมาบวชให้เรียกว่านาค นาคปลอมเข้ามาบวชนั้นมีในตำราจริง แต่นาคไม่ได้ฝากชื่อไว้ เราเป็นคนนำมาชื่อนาคมาใช้และอ้างว่านาคฝากไว้
บทความนี้ ผมย้ำอีกครั้งว่า ไม่ได้มีเจตนาให้ท่านไปเสาะแสวงหากัลปังหามาครอบครอง ขอใหท่านใช้วิจารณญาณในการอ่าน ใช้สติในการแสวงหาเครื่องรางของขลังประจำกาย