บทกรวดน้ำ “อิมินา ปุญญะกัมเมนะด้วยเดชะผลบุญ…..”
อิมินา ปุญญะกัมเมนะด้วยเดชะผลบุญที่ข้าพเจ้าได้……………………………..นี้ ขอให้ไปค้ำชูอุดหนุน บิดา มารดา ผู้มีพระคุณ และญาติกาครูอุปัชฌาย์อาจารย์ เจ้ากรรมนายเวร มิตรรักสนิท เพื่อนสาราสัตว์น้อยใหญ่ พระภูมิเจ้าที่ เจ้ากรุงพาลี นางพระธรณี นางพระคงคา พระยายมราช นายนิริยะบาล ทั้งท้าวจัตุโลกะบาล สิริพุทธอำมาตย์ ชั้นจาตุมะหาราชิกาเบื้องบนจนถึงที่สุดพรหมมา เบื้องต่ำขึ้นมาจนถึงมนุษย์โลก โดยรอบสุดขอบจักรวาล อนันตะจักรวาล คุณพระศรีรัตนตรัย และเทพยดา ตลอดทั้งอินทร์ พรหม ยมยักษ์ คนธรรพ์ นาคา พระเพลิง พระพาย พระพิรุณ ท่านทั้งหลายที่ต้องทุกข์ ขอให้พ้นจากทุกข์ ท่านทั้งหลายที่ได้สุข ขอให้ได้สุขยิ่งๆขึ้นไป ด้วยเดชะผลบุญแห่งข้าอุทิศให้ไปนี้ จงเป็นอุปนิสัยปัจจัยถึงพระนิพพานในปัจจุบัน และอนาคตกาลเบื้องหน้าโน้นเทอญฯ
พุทธัง อนันตัง ธัมมัง จักรวาละ สังฆัง นิพพานัง โหตุฯ
คำกรวดน้ำนี้ สามารถใช้กรวดน้ำ หรืออุทิศบุญกุศลหลังจากการทำบุญทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นการทำบุญตักบาตร ให้ทาน สมาทานศีล สวดมนต์ภาวนา แจกทาน สร้างหนังสือธรรมะ ขอให้เป็นบุญในทางพระพุทธศาสนา จะสวดหรือกรวดน้ำด้วยก็ได้
มีบางท่านกล่าวว่า ไม่ควรอุทิศบุญให้เจ้ากรรมนายเวร เพราะจะทำให้เขามีกำลัง เหมือนเราให้อาหารเขา หรือให้อาวุธมีดดาบเขา แล้วเขาก็จะมีกำลังทำร้ายเรา
สำหรับผมแล้วไม่เชื่ออย่างนั้นครับ การอุทิศบุญนั้นไม่ใช่ว่าอุทิศแล้วเขาจะได้รับทันที เขาต้องทำการอนุโมทนาด้วย การที่เขาอนุโมทนาคือเขายินดีในบุญ ใจเขาเป็นบุญแล้ว เป็นมิตรกับเราแล้ว ยินดีกับเราแล้ว ให้อภัยเรา ไม่งั้นเขาก็ไม่สามารถรับบุญของเราได้ แต่ถ้าเขาไม่อนุโมทนา โกรธ เกลียดอาฆาตเราอยู่ เขาไม่มีทางได้บุญกับเราหรอก
ยกตัวอย่างง่าย ๆ เหมือนเราผิดใจกับเพื่อน หรือทะเลาะกับแฟน เมื่อเราไปปรับความเข้าใจกัน ก็สามารถทานข้าวด้วยกันได้ นั่งนอนด้วยกันได้ แต่ถ้าเขาไม่ยอมรับฟังเรา ปรับความเข้าใจกันไม่ได้ เจรจากันไม่รู้เรื่อง ก็แสดงว่าเขายังไม่ให้อภัยเรา ชวนไปทานข้าวก็ไม่ได้ นั่งนอนด้วยกันก็ไม่ได้แล้ว