มีบางคนถามมาว่า ออกรถใหม่ จำเป็นต้องเจิมด้วยหรือไม่ ต่างประเทศก็ไม่เห็นต้องเจิม ประเทศผู้ผลิตเองก็ไม่ได้บอกว่าต้องทำการเจิมรถก่อนถึงใช้งานได้ ถ้าถามว่าไม่เจิมไม่ได้หรือ จำเป็นต้องเจิมรถหรือ
อันที่จริงไม่น่าถามนะ ก็รู้อยู่แล้วว่าไม่ต้องเจิมก็ได้ หรือไม่จำเป็นต้องเจิมเลยก็ได้ การสอบใบขับขี่ก็ไม่ได้ระบุว่าต้องขับรถที่เจิมแล้วเท่านั้น การไม่เจิมรถ ไม่ผิดแต่อย่างใด ไม่ผิดกฎหมาย ไม่บาป แต่ก็ไม่ควรไปพูดเสียดสีผู้ที่อยากนำรถไปเจิม มันเป็นสิทธิ์ของเขา เรามากล่าวถึงการเจิมรถ ข้อดี ข้อเสียของการเจิมรถดีกว่า
การเจิมรถ
เมื่อคนไทยออกรถใหม่ จะนิยมไปให้พระสงฆ์ทำการเจิมรถให้ เพื่อให้เกิดความเป็นสิริมงคล มีความปลอดภัยในการเดินทาง เพื่อให้เกิดโชคลาภแก่ผู้เป็นเจ้าของ
ขั้นตอนการนำรถมาเจิมนั้น ควรทำความสะอาดรถมาก่อน อย่าให้มีโคลนตม อย่าให้มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ ส่วนเครื่องประกอบพิธีนั้น ไม่แน่นอน แต่ควรจัดทำพานขันธ์ ๕ ซึ่งประกอบด้วย ดอกไม้ ๕ คู่ เทียน ๕ คู่ พวงมาลัย ๑ พวง และซองพื่อถวายปัจจัยแด่พระสงฆ์ตามกำลังศรัทธาของเรา เมื่อไปที่วัดให้นำพานขันธ์ ๕ ซองปัจจัย และพวงมาลัยถวายแด่พระสงฆ์ แจ้งความประสงค์ของตนให้พระสงฆ์ทราบ ขณะที่พระสงฆ์กำลังเจิมรถอยู่นั้น ผู้เป็นเจ้าของรถควรนั่งประนมมือทำใจให้เป็นกุศลจนกว่าจะเสร็จพิธี
วิธีการเจิมรถนั้น พระสงฆ์นิยมนำดินสอพองผสมน้ำพระพุทธมนต์ที่ท่านทำไว้แล้ว นำมาเจิมรถยนต์พร้อมบริกรรมพระพุทธมนต์ต่าง ๆ หรือนั่งสงบนิ่งแผ่เมตตา พระสงฆ์บางรูปจะกดแตรรถเพื่อถือเคล็ดขับไล่สิ่งชั่วร้าย และเอาฤกษ์เอาชัยเป็นจุดเริ่มต้นแห่งความดีงามต่าง ๆ จากนั้นพระสงฆ์จะประพรมน้ำพระพุทธมนต์รอบคันรถยนต์ทั้งด้านในด้านนอก และประพรมให้เจ้าของรถยนต์อีกด้วยเพื่อความเป็นเป็นสิริมงคลเป็นอันเสร็จสิ้นพิธิกรรมเจิมรถ
บทความแนะนำ อ่านประกอบ พระสมเด็จสันติสุข แขวนหน้ารถ ไปสุขมาสุข
เจิมรถแล้วดีอย่างไร
อันดับแรก เราต้องทำความเข้าใจก่อนว่า เราไม่ไดออกรถมาเพื่อขับไปพระนิพพาน ฉะนั้น จะไม่กล่าวว่าพระพุทธเจ้าสอนหรือไม่ เป็นสิ่งที่มีในพระพุทธศาสนาหรือไม่ แต่ผมจะพยายามพูดถึงสิ่งดีที่ได้เกิดขึ้น หรือการกระทำที่อิงคำสอนในพระพุทธศาสนา เมื่อคุณได้เจิมรถ
- ทำให้คุณมีโอกาสได้ให้ทาน ถวายทานแก่พระสงฆ์คุณได้ไปเจิมรถที่วัด อย่างน้อยเชื่อว่าคุณควจะได้เตรียมเทียน ดอกไม้ ไปถวายพระที่วัด และการถวายนี้ก็เป็นการให้ทาน เป็นบุญ เป็นมงคลในพระุพุทธศาสนา
- เป็นเหตุให้คุณได้เข้าวัด ถึงแม้เข้าวัดด้วยโมหะหรือมีความเชื่อในเครื่องรางมงคลก็ตาม เมื่อเข้าวัดทำให้รู้สึกสบายใจขึ้น สดชื่นขึ้นมา
- ทำให้คุณได้พบได้เห็นได้สนทนากับพระสงฆ์ ซึ่งการได้พบเห็นสนทนากับสมณะพระสงฆ์ ท่านกล่าวว่าเป็นมงคลในพระพุทธศาสนาเช่นกัน
- ทำให้คุณเกิดความมั่นใจว่ารถคันนี้ เราได้แสดงความเป็นเจ้าของแล้ว โดยมีพระสงฆ์เป็นสักขีพยานรับรอง ทำให้สิ่งชั่วร้าย วิญญาณร้ายไม่เข้ามายึดคลอง (อันนี้เป็นความเชื่อ)
- พระสงฆ์ที่เจิม ท่านได้ทำการแผ่เมตตา เจริญพระพุทธมนต์ อวยพรให้ ให้แต่สิ่งดี ๆ ที่เป็นมงคล เกิดขึ้นในรถนี้ ฉะนั้น ด้วยอำนาจแห่งพระพุทธมนต์ของพระพุทธเจ้า ด้วยอำนาจจิตเจตนาดีของผู้เจิม ด้วยอำนาจแห่งเทวดาที่มาฟังพระเจริญพระพุทธมนต์ เราจึงเชื่อว่ารถคันนี้จะเกิดสิ่งดี ๆ ตามมา ค้าขายเจริญ เดินทางไปไหนก็ปลอดภัย แต่ก็อย่างว่า ทุกคนทำกรรมมาไม่เหมือนกัน ไม่ประมาทดีที่สุด เจิมรถแล้วต้องไม่ประมาท มีสติในการขับรถดีที่สุด
ข้อเสียของการเจิมรถ
ข้อเสียหรือข้อควรระวัง ข้อแนะนำในการนำรถไปเจิม
- ควรนำรถไปเจิมกับพระในวัดที่เรารู้จักคุ้นเคย หรือเคารพนับถือ เพราะถือเป็นโอกาสในการทำบุญ ฟังธรรม ระลึกนึกถึงท่านได้ง่าย
- ควรเตรียมเครื่องเจิมไปเอง
- ไม่ควรใช้ปากกาเมจิกหรือวัสดุที่ลบออกยากในการเจิม เพราะจะทำให้ลบออกยากในเวลาที่เราต้องลบ อีกอย่างร้านรับซื้อรถมักใช้รอยเจิมเป็นข้ออ้างในการกดราคาเราเมื่อเรานำรถไปขาย ฉะนั้น ควรใช้ ดินสอพอง หรือกระแจ หรือแค่ให้ท่านประพรมน้ำพระพุทธมนต์ให้เท่านั้น
- ควรเจิมในตำแหน่งที่ไม่รบกวนสมาธิเวลาขับรถ
- ไม่มีพระรูปไหนบอกว่าเจิมรถแล้ว รถจะไม่ประสบอุบัติเหตุ รถจะไม่เสียหาย จะไม่ได้รับอันตรายในการขับขี่ ฉะนั้น เมื่อเจิมรถแล้วก็ต้องไม่ประมาท ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด นึกถึงตอนสอบใบขับขี่ คุณเรียนรู้อะไรมา ต้องนำมาใช้ให้หมด
บทความเด็ด แนะนำอ่านประกอบ วิธีเลือกพระแขวนหน้ารถ