ใครที่เคยไปเที่ยวจังหวัดทางภาคเหนือ อาจจะเคยเห็นแมงสี่หูห้าตาบ้างแล้ว ซึ่งตามความเชื่อของคนล้านนาและคนที่นับถือทั่วไป เชื่อว่าเป็นพระอินทร์จำแลงลงมา จึงถือเป็นเครื่องรางของขลังศักดิ์สิทธิ์อีกอย่างหนึ่งที่ชาวล้านนาให้ความเคารพนับถือ วันนี้เราจะพาคุณไปแนะนำ เรื่องแมงสี่หูห้าตาให้กับคุณ เกี่ยวกับประวัติอันยาวนานและความศักดิ์สิทธิ์ ไปดูกันเลยว่ามีอะไรที่น่าสนใจบ้าง
แมงสี่หูห้าตาคืออะไรมีความสำคัญอย่างไร
แมง เป็นคำที่ใช้สำหรับนำหน้าสัตว์ขนาดเล็ก หรือจะใช้นำหน้าสัตว์ใหญ่เพื่อสื่อในเชิงตลกขบขันก็ได้ แมงสี่หูห้าตาเป็นสัตว์ใหญ่คล้ายหมี มีหูสี่หู มีตาห้าตา เป็นสัตว์ที่อยู่ในความเชื่อแล้วเล่าต่อ ๆ กันมาจากโบราณและวรรณกรรมคัมภีร์ใบลานของล้านนา อีกทั้งเป็นนิทานมุขปาฐะที่ชาวบ้านเล่าสืบต่อ ๆ กันมามีจำนวนมากมาย แต่ในโลกความเป็นจริงไม่มีสัตว์ประเภทนี้ และเรื่องแมงสีหูห้าตานี้ เป็นเรื่องที่ให้ทั้งความเพลิดเพลิน และได้สาระจากคติธรรมคำสอน ทั้งยังมีข้อคิดโบราณาจารย์สอดแทรกไว้ด้วย ทำให้เรื่องของแมงสี่หูห้าตา เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย และรู้จักกันดี รวมทั้งเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่สามารถ แทนเรื่องของสาเหตุว่าทำไม ผู้ชายจึงรักเมียน้อยมากว่าเมียหลวง
การบันทึกเกี่ยวกับเรื่องแมงสี่หูห้าตา
มีการบันทึกเกี่ยวกับแมงสี่หูห้าตา เป็นวรรณกรรมลายลักษณ์อักษรในใบลาน ปรากฎให้เห็นตามวัดทั่วไปทางภาคเหนือ เช่น คัมภีร์ใบลานชื่อ ธรรมสี่หูห้าตา ของวัดแช่ช้าง อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งจารด้วยอักษรธรรมล้านนา จำนวน 61 หน้าลาน ผู้จารคือ พิมพิสารภิกขุ จารเมื่อ พ.ศ. 2457 หรือจุลศักราช 1276 คัมภีร์ใบลานนี้กล่าวถึงแมงสี่หูห้าตา กับความสัมพันธ์ทางพระพุทธศาสนา เพราะสี่หูห้าตาแทนหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ได้แก่ พรหมวิหาร 4 คือ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา และ ศีล 5 รวมถึงความเชื่อว่าแมงสี่หูห้าตา คือพระอินทร์จำแลงแปลงกายลงมาเพื่อมากินถ่านไฟแดง และถ่ายออกมาเป็นทองคำ
ลักษณะในตำนานของแมงสี่หูห้าตา
ตามตำนานของแมงสี่หูห้า ตามีลักษณะแตกต่างกันไป เช่น ตำนานของวัดพระธาตุดอยเขาควายแก้ว จ.เชียงราย เชื่อว่าแมงสี่หูห้าตา มีลักษณะตัวอ้วนและเตี้ย ลักษณะคล้ายหมี มีขนยาวปกคลุมทั่วทั้งร่างกาย มีหูสองคู่ ตาห้าดวง โดยที่ดวงตาของแมงสี่หูห้าตามีสีเขียว กินถ่านไฟร้อนเป็นอาหารและถ่ายเป็นทองคำ
ส่วนตำนานแมงสี่หูห้าตาของครูบาเจ้าชัยยะวงศาพัฒนา จ.ลำพูน เขียนไว้ว่า ลักษณะของแมงสี่หูห้าตา มีลักษณะคล้ายลิง และเรียกว่า พญาวานรสี่หูห้าตา และความเชื่อมโยงกับหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาเรื่องศีล 5 และ พรหมวิหาร 4 เช่นกัน
ตำนานชายหนุ่มกำพร้ากับการสร้างแมงสี่หูห้าตา
การสร้างแมงสี่หูห้าตา สร้างขึ้นจากนิทานล้านนา เล่าต่อกันมาว่าเมื่อครั้งพุทธกาล มีชายหนุ่มกำพร้ามีฐานะยากจนมาก มีที่ดินน้อยนิดสำหรับปลูกข้าว พอมาถึงปีหนึ่งเกิดความแห้งแล้งมาก ต้นข้าวที่ปลูกไว้ตายเสียหายไปมาก พระอินทร์บนสวรรค์องค์หนึ่ง มองเห็นชีวิตและความลำบากของชายคนนี้ จึงมีความคิดจะช่วยเหลือให้พ้นจากความทุข์ยาก พระอินทร์จึงจำแลงแปลงกาย เป็นสัตว์ประหลาดตัวหนึ่ง มีสี่หู มีดวงตาห้าดวง แล้วมาทำลายต้นข้าวในนาทั้งหมด ชายผู้นี้เห็นอย่างนั้นจึงโกรธมาก และคิดจะฆ่าสัตว์ตัวนี้ แต่ในมือไม่มีอาวุธที่พอจะทำร้ายสัตว์ตัวนี้ได้ จึงคิดหาวิธีการกระทั่งนำมามัดไว้กับเสากระท่อม
เมื่อตกเย็นชายหนุ่มได้นำอาหาร มาให้สัตว์ประหลาดตัวนั้นกิน แต่มันไม่ยอมกินอาหาร แต่ตัวสั่นๆ เหมือนกำลังหนาวจัด ชายหนุ่มจึงหาฟืนมาก่อไฟให้มัน เมื่อชายผู้นี้จะเข้าพักในกระท่อม ได้เห็นสัตว์ประหลาดกำลังกินถ่านไฟแดงๆ อย่างไม่รู้สึกร้อนใดๆ แล้วชายหนุ่มก็หลับไป เมื่อตื่นขึ้นมาตอนเช้าต้องตกตะลึง เมื่อเห็นว่าสัตว์ประหลาดที่กินก้อนถ่านไฟแดงๆ เข้าไปแต่กลับถ่ายออกมาเป็นทองคำ ชายหนุ่มจึงนำทองคำนั้นไปขาย กระทั่งกลายเป็นคนร่ำรวย ซึ่งหากชายหนุ่มฆ่าสัตว์ประหลาดไปแล้ว เขาคงไม่มีโอกาสรวยขึ้นเร็วแบบนี้ แต่เพราะความเมตตา จากการละเว้นฆ่าสัตว์ประหลาด ถึงแม้จะโมโหมากแต่สามารถระงับความโกรธได้ จึงเข้ากับเรื่องศีล 5 และพรหมวิหาร 4 นั่นเอง
คาถาบูชาแมงสี่หูห้าตา
ให้สวดบูชาตามคาถา ดังนี้ สาธุ อะหัง นะมามิ พระอินทร์ อากาเส จะ พุทธทิปังกะโร มะโมพุทธายะ อิอะระณัง อะระหัง กุสะลาธัมมา สัมมาสัมพุทโธ ทุสะนะโส นะโมพุทธายะ พระโสนามะ ยักโข เมตตามหาลาภา ปิยัง มะมะ ทันตา ปริวาสะโภ วาสุนี หะเต โหนตุ ชัยยะมังคลานิฯ
การสวดคำบูชาทุกวัน ช่วยป้องกันไฟไหม้ ฟ้าผ่า อันตรายต่างๆ ชนะภัยทั้งปวง บรรเทาทุกข์ จากการเจ็บป่วยและเป็นมหาโชค มหาลาภ แก่ผู้บูชากราบไหว้
ที่มาของภาพ : wikimedia.org โดย Lux2545