เรื่องนี้ที่ผมจะเล่าต่อไปนี้ เป็นเรื่องพื้น ๆ แต่เป็นที่ตื่นตาน่าอัศจรรย์ใจสำหรับผมเป็นอย่างยิ่ง เรื่องจริงมีอยู่ว่า เมื่อหลายสิบปีก่อน ผมและคณะได้ไปเที่ยวทำบุญกราบสักการะพ่อแม่หลวงปู่ครูบาอาจารย์สายวัดป่ากรรมฐานในจังหวัดสกลนคร และท่านได้เมตตามอบพระบรมสารีริกธาตุแก่พวกผม โดยท่านใส่ซองเล็ก ๆ มอบให้คนละ 1 ซอง ในแต่ละซองนั้นมีพระบรมสารีริกธาตุ 9 องค์
เมื่อผมและคณะได้กลับมาบ้านที่กรุงเทพแล้ว ผมจึงนำพระบรมสารีริกธาตุที่ได้มานั้นใส่ไว้ในตลับเล็ก ๆ ปิดด้วยเทปกาวใส เกรงว่าคนอื่นจะมาปิดเล่น แล้วใส่ผอบอัญเชิญไว้ในตู้
ต่อมาวันหนึ่ง ผมคิดอย่างไรไม่รู้ เกิดความสงสัยว่า ใช่พระบรมสารีริกธาตุจริงไหม เอามาจากไหน ทำไมเยอะจัง จึงทำให้ผมนึกถึงเรื่องที่เคยได้ยินได้ฟังมาว่า หากอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุหรือพระธาตุลงน้ำแล้ว องค์พระธาตุนั้าจะลอยน้ำ คือไม่จมน้ำ ผมจึงได้ไปเปิดผอบพระบรมสารีรีกธาตุนั้น แกะเทปกาวออกมา นำพระบรมสารีริกธาตุออกจากซอง แล้วอัญเชิญลอยน้ำในแก้วสะอาดดู ผมค่อย ๆ วางลงในน้ำ ปรากฏว่าน้ำนั้นบุ๋มลงนิดหนึ่ง เหมือนเป็นแอ่งรองรับพระบรมสารีริกธาตุนั้นไว้ ไม่ให้จม และน้ำก็ไม่ท่วม เมื่อผมนำองค์ที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 ตามลงไป โดยวางไว้ขอบแก้วห่างจากองค์ก่อน ๆ ปรากฏว่า พระบรมสารีริกธาตุนั้นเสด็จหรือวิ่งเหนือน้ำเข้าไปหากัน จับตัวกันเป็นกลุ่ม ผมจึงทดลองนำไม้จิ้มฟันค่อย ๆ แตะดู ปรากฏว่าบางองค์ก็จม บางองค์ไม่จม (หรืออาจจะจมทั้งหมดก็ได้ ผมไม่ได้แตะทุกองค์) แต่ผมก็ยังลังเลอยู่เช่นเดิม อาจจะเป็นธรรมชาติของวัตถุใดวัตถุหนึ่งที่เป็นแบบนี้เป็นเรื่องธรรมดา คือถ้าค่อย ๆ วางก็จะลอยน้ำ ถ้าวางแรงหรือหาอะไรไปแตะก็จะจมน้ำไป จากนั้นผมก็นำพระบรมสารีริกธาตุทั้งหมด ใส่ในตลับ (ไม่ใส่ซองแล้ว เพราะคิดว่าองค์พระธาตุยังเปียกน้ำอยู่) แล้วปิดด้วยเทปกาวใส ใส่ในผอบ เก็บใส่ตู้ แล้วผมกลับมาที่หมอน (ลืมบอกไปว่าหลังจากผมนำพระบรมสารีริกธาตุขึ้นจากน้ำแล้ว ผมได้วางไว้ที่หมอนก่อน เพื่อให้ซับน้ำออก) เห็นพระบรมสารีริกธาตุองค์หนึ่งยังอยู่บนหมอน ด้วยความที่ผมขี้เกี้ยจเปิดตู้ เปิดผอบ แกะเทปกาวออก เพื่อนำเข้าไปเก็บไว้ ผมจึงอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุองค์นั้นที่เหลืออยู่ ยกขึ้นเหนือหัว แปะไว้ที่หน้าผาก แล้วลูบขึ้นไปถึงจอมขวัญ พร้อมกับกล่าวว่าขอให้พระองค์เสด็จอยู่ตรงนี้ จากนั้นผมก็นอน (ผมทำตอนกลางคืน)
ตื่นเช้าขึ้นมา ผมไปเข้าห้องน้ำ นึกอย่างไรไม่รู้ถึงได้ส่องกระจกดู ปรากฏว่าพระบรมสารีริกธาตุองค์นั้น ยังติดอยู่ที่กลางหน้าผากผมเหมือนเดิม ทั้ง ๆ ที่ผมลูบขึ้นไปไว้ที่จอมขวัญแล้ว อีกอย่างหนึ่ง กลางคืนผมนอนก็ต้องกลิ้งไปมา ห่มผ้าบ้าง หนุนหมอนนอนพลิกซ้ายขวาบ้าง ถ้าเป็นวัตถุทั่วไปก็ต้องหลุดไปแน่นอน แต่นี่ยังติดแน่นอยู่ ผมจึงนำพระบรมสารีริกธาตุนั้น ยกขึ้นเหนือหัวอีกครั้งแล้วอัญเชิญไปเก็บไว้ในตลับเหมือนองค์อื่น ๆ เรื่องที่ผมเล่ามานี้เป็นเรื่องจริง แต่พระบรมสารีริกธาตุชุดนั้นไม่ได้อยู่กับผมแล้ว ผมมอบให้คนอื่นไปแล้ว ตอนนี้ผมไม่มีพระบรมสารีริกธาตุสักองค์เลยครับ มีแต่พระธาตุที่ได้จากประเทศพม่า ไม่แน่ใจว่ามีพระบรมสารีริกธาตุรวมอยู่ในนั้นด้วยไหม วันหลังผมจะถ่ายภาพมาให้ชมครับ
หมายเหตุ พระบรมสารีริกธาตุ หมายถึงกระดูกของพระพุทธเจ้าเท่านั้น ส่วนพระธาตุ หมายถึงกระดูกของพระอรหันตสาวก