อันที่จริง อิทธิคุณ หรือคุณค่าของทองไม่น่าจะใช้คำว่าพุทธคุณนะครับ แต่ผมก็ใช้ตามภาษาชาวบ้าน ภาษาพูด ภาษาความเชื่อของชาวบ้าน เพื่อสื่อความหมายเป็นที่เข้าใจกันนะครับ เหตุที่ผมสนใจทองคำธรรมชาติ เนื่องจากผมได้ไปอ่านบทความเกี่ยวกับ ALASKAN YUKON BC NATURAL PURE GOLD NUGGET ก็คือเกี่ยวกับทองคำธรรมชาติในรัฐอลาสก้าในประเทศสหรัฐอเมริกาและรัฐอื่น ๆ ที่นักขุดทองเคยแห่ไปขุดกัน ถ้าบ้านเราก็ต้องทองบางสะพานนั่นแหล่ะครับ
ทำไมต้องเรียกว่า ทองนพคุณ, ทองนพคุณเก้าน้ำ
ในหนังสือประชุมประกาศรัชกาลที่ ๔ อธิบายไว้ว่า “ทองคำที่ซื้อขายกันนั้น เรียกตามเนื้อและตามราคา เช่น
- ทองหนักบาทหนึ่งเป็นเงิน ๔ บาท เรียกว่า เนื้อสี่
- ทองหนักบาทหนึ่งเป็นเงิน ๕ บาท เรียกว่า เนื้อห้า
- ทองหนักบาทหนึ่งเป็นเงิน ๖ บาท เรียกว่า เนื้อหก
- ทองหนักบาทหนึ่งเป็นเงิน ๗ บาทเรียกว่า เนื้อเจ็ด
- ทองหนักบาทหนึ่งเป็นเงิน ๘ บาทเรียกว่า เนื้อแปด
- ทองหนักบาทหนึ่งเป็นเงิน ๘ บาท ๒ สลึง เรียกว่า ทองเนื้อแปดสองขา
- ทองหนักบาทหนึ่งเป็นเงิน ๙ บาท เรียกว่า นพคุณเก้าน้ำ
ผมพยายามอ่าน ๙ รอบแล้วก็ยังไม่แจ่มแจ้งมากนัก ความหมายคงจะประมาณว่า ทองคำที่มีน้ำหนัก ๑ บาท มีราคาเท่ากับเงิน ๔ บาท หรือเงิน ๔ บาทในสมัยนั้นสามารถซื้อทองน้ำหนัก ๑ บาทได้ ทองนั้นเรียกว่าทองสี่หรือทองเนื้อสี่ ……………..ทองคำใดที่มีน้ำหนัก ๑ บาท มีราคาเท่ากับเงิน ๙ บาท ทองนั้นเรียกว่าทองเนื้อเก้า หรือทองนพคุณเก้าน้ำ ในเมื่อน้ำหนักทองเท่ากันแต่ทำไมราคาต่างกัน อะไรเป็นตัวชี้วัดในความต่าง ผมยังไม่ได้อ่านข้อมูลที่ไหนมา แต่เข้าใจว่าความบริสุทธิ์ของทองหรือเปอร์เซ็นของทองนั่นเองเป็นตัวแยก เช่นทองเนื้อสี่ซึ่งเป็นทองที่คุณภาพต่ำที่สุด ในน้ำหนักทอง ๑ บาทนั้นอาจจะมีหินดินทรายเงินทองแดงหรืออะไรไม่รู้ผสมอยู่ด้วย ถ้าคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ก็ประมาณ ๑๔ (ไม่ใช่ ๑๔ กะรัตนะ) มั้ง ผมไม่แน่ใจ แต่ถ้าทองเนื้อเก้า คือทองน้ำหนัก ๑ บาทเท่ากับราคาเงิน ๙ บาทนั้น จะเป็นทองที่บริสุทธิ์ไม่มีสิ่งอื่นเจือปน เป็นทองธรรมชาติล้วน
ทำไมถึงเชื่อว่า ทองนพคุณ มีพุทธคุณ
การที่เชื่อว่าทองนพคุณเนื้อเก้านี้มีพุทธคุณ มีอิทธิคุณ มีอานุภาพตามธรรมชาตินั้น ก็อาจจะเป็นไปได้ว่า
- นพคุณนี้ ไปตรงกับพุทธคุณเก้า ที่เรียกนวหรคุณ หรือจะเรียกว่า นวคุณ นพคุณก็ไม่ผิด เพราะ นว นพ ก็มาจากภาษาบาลีที่แปลว่าเก้า ดังนั้น จึงมีความเชื่อกันว่าทองนพคุณ มีพุทธคุณ มีอานุภาพ มีความศักดิ์สิทธิ์ กันภูตผีสิ่งอัปมงคลได้ ทั้งยังเป็นเมตตามหานิยมอีกด้วย
- คนสมัยก่อนนิยมนำทองคำมาสร้างสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มีพระพุทธรูป ยอดเจดีย์เป็นต้น ดังเรื่องที่มีกล่าวไว้ว่า ” ในปี พ.ศ. ๒๒๘๙ ตรงกับรัชสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ครั้งนั้นเจ้าเมืองกุยได้ส่งทองร่อนหนัก ๓ ตำลึง นำมาถวายพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ แต่นั้น พระองค์จึงเกณฑ์ไพร่จำนวน ๒,๐๐๐ คน ไปทำการร่อนทองที่บางตะพานเป็นเวลานานปีเศษ ได้ทองคำหนักถึง ๙๐ ชั่งเศษ หรือเท่ากับน้ำหนัก ๕๔ กิโลกรัม หรือเท่ากับน้ำหนักทองคำ ๓,๖๐๐ บาท และได้นำทองคำนั้นทั้งหมดไปหุ้มยอดมณฑป รอยพระพุทธบาทสระบุรี แต่ยอดมณฑปนี้ได้ถูกโจรจีนเผาหลอมนำเอาทองคำไปหมด เมื่อครั้งเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ ๒ (พ.ศ.๒๓๑๐)” อ่านดูตอนท้ายแล้วน่าใจหาย เมื่อนำทองคำนพคุณมาเกี่ยวข้องกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เกี่ยวข้องกับศาสนา เกี่ยวข้องกับสิ่งที่คนเคารพนับถือ ทองคำนพเก้าจึงกลายเป็นของมีค่าที่ศักดิ์สิทธิ์ด้วย มีพุทธคุณไปด้วย