
พระปิดตาปลดหนี้ หลวงปู่ทองพูล สิริกาโม วัดสามัคคีอุปถัมภ์
พระปิดตา เป็นวัตถุมงคลอีกประเภทหนึ่ง โดยมากจะสร้างในรูปแบบพระเครื่อง หมายความว่าสร้างเป็นองค์พระขนาดเล็กที่สามารถนำมาห้อยคอหรือพกติดตัวได้ พระปิดตาเป็นพระเครื่องที่มีเอกลักษณ์ทแตกต่างจากพระเครื่องประเภทอื่น คือจะเป็นรูปองค์พระนั่งยกพระหัตถ์ทั้งสองขึ้นปิดพระพักตร์ทั้งหมด ไม่ได้ปิดแค่ตา คือปิดทั้งหน้า ได้แก่ ตา จมูก ปาก แต่อาจจะมีพระปิดตาที่ทำออกมาปิดทวารทั้ง 9 ได้แก่ ตา 2 จมูก 2 หู 2 ปาก 1 รวมทั้ง ช่องทางขับถ่ายด้านหน้าและ ด้านหลังอีก 2 รวม เป็นทวารทั้ง 9 เรียกว่าพระปิดตาเช่นกัน แต่อาจจะเรียกเจาะจงเข้าไปว่า พระปิดตามหาอุด เป็นต้น
พระปิดตาปลดหนี้ เป็นชื่อพระปิดตาอีกรุ่นหนึ่ง พระปิดตาที่มีชื่อรุ่นนี้รู้จักกันเป็นครั้งแรกในนามพระปิดตาปลดหนี้หลวงปู่โต๊ะ ซึ่งเป็น 1 ใน 10 พระปิดตาที่ได้รับความนิยมที่สุดของหลวงปู่โต๊ะและสร้างชื่อเสียงให้กับท่านเป็นอย่างมาก
ทราบมาว่า เดิมทีพระปิดตาหลวงปู่โต๊ะรุ่นนี้ไม่ได้เรียกว่าพระปิดตาปลดหนี้ แต่เนื่องจากว่าหลวงปู่โต๊ะท่านจะเมตตาให้พรกับทุกคนที่รับพระปิดตารุ่นนี้ไปว่า “ให้ปลดหนี้” ด้วยเหตุนั้น พระปิดตาหลวงปู่โต๊ะรุ่นนี้จึงได้ชื่อว่า พระปิดตาปลดหนี้
ต่อมา คำว่า ปลดหนี้ จึงนำมาสร้างเป็นชื่อรุ่นพระปิดตาอีกมากมายหลายวัด หลายพระเกจิอาจารย์ แม้ว่ารูปแบบของพระปิดตานั้น ๆ จะมีเอกลักษณ์เฉพาะ คือไม่เหมือนพระปิดตาปลดหนี้หลวงปู่โต๊ะก็ตาม
นอกจากนั้น ครูบาอาจารย์ทั้งหลาย พิจารณาเห็นว่า การเป็นหนี้ เป็นทุกข์ในโลก การอยู่แบบไม่ต้องเป็นหนี้ ถือว่าเป็นความสุขในระดับของผู้ครองเรือนในระดับหนึ่งแล้ว พระเกจิอาจารย์ทั้งหลายจึงได้นำคำว่า ปลดหนี้ มาใช้เป็นชื่อรุ่นของวัตถุมงคลที่สร้างขึ้นมา เป็นต้นว่า เหรียญเต่า หลวงปู่หลิว ต้นแบบแห่งเหรียญพญาเต่าเรือน หลังพระสังกัจจายน์
พระปิดตาปลดหนี้ หลวงปู่ทองพูล สิริกาโม วัดสามัคคีอุปถัมภ์ จังหวัดบึงกาฬ สร้างปี 2557 เป็นอีกหนึ่งพระปิดตาแห่งพระเกจิอาจารย์สายกรรมฐานแห่งภาคอีสาน เป็นพระปิดตาที่สร้างขึ้นมามีลักษณะพิมพ์ที่แตกต่างจากพระปิดตาปลดหนี้หลวงปู่โต๊ะ แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือพุทธคุณที่ผ่านการอธิษฐานด้วยจิตที่เต็มเปี่ยมด้วยเมตตาปรารถนาให้ผู้ที่มีไว้ได้หมดหนี้สิน ทำมาหากินคล่องแคล่วไม่ติดขัด นำมาซึ่งโชคลาภ เมตตามหานิยม ผู้คนนับถือ และแคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง
หมายเหตุ : ขออนุญาตกล่าวถึงนามหลวงปู่ทองพูล ความจริงชื่อนี้น่าจะเขียนว่า ทองพูน เหตุว่า
1.ชื่อนี้เป็นภาษาท้องถิ่น เป็นภาษาโบราณ ภาษาไทยหรือภาษาท้องถิ่นที่คนเฒ่าคนแก่ใช้มาแต่โบราณ โดยจะสะกดตรงตัว เช่น พูน นูน
2.คำว่า พูน แปลว่า เพิ่มให้สูงขึ้นให้มากขึ้น ทองพูน หมายถึงทองคำที่เพิ่มพูนมากขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนคำว่า พูล ไม่รู้แปลว่าอะไร ไม่มีความหมายในภาษาไทย ยิ่งภาษาอีสาน ภาษาลาวก็ยิ่งไม่มีคำสะกดแบบนี้
ผมจึงเข้าใจว่า เดิมที่ชื่อของท่านน่าจะเป็น ทองพูน ต่อมาอาจจะมีศิษย์หรือนายทะเบียนคนใหม่ อาจจะเขียนด้วยความเข้าใจผิด แต่ไม่ได้ความหมายในภาษาไทย เหมือนคำว่า เมฆพัด ร้อยทั้งมักเขียนผิดเป็น เมฆพัตร คำว่า ฉันภัตตาหาร บางคนก็เขียนแปลก ๆ เป็น ฉันท์ภัตตาหาร