เรื่องนี้ผมเขียนจากเรื่องในสมัยวัยเด็กที่ใช้ชีวิตประจำวันในชนบท อยู่ตามป่าเขา ท้องไร่ปลายนา เห็นวิถีชีวิตของชาวไร่ชาวนาตามบิดาตายายที่เคยทำมาแต่เดิม อาจจะเสริมเพิ่มเรื่องให้สอดคล้องกับเหตุปัจจุบันบ้าง แต่สิ่งที่ผมจะไม่กล่าวถึงในบทความนี้ คือข้างในจอมปลอกมีปลวกและนางพญาปลวก ^_^
ตอนเด็ก ๆ ผมมักจะตามครอบครัว ซึ่งมีพ่อแม่และพี่ ๆ ไปเลี้ยงควาย ซึ่งเป็นทุ่งไม่ไกลจากบริเวณบ้านมากนัก วันหนึ่งแม่ใช้ให้ดูจอมปลวกใหญ่สูงประมาณ 2 เมตรเห็นจะได้ พร้อมกับพูดว่าห้ามไปเล่นบริเวณจอมปลวกนั้น ห้ามไปเหยี่ยวหรือไปทำอะไรไม่ดีตรงนั้นเด็ดขาด และแม่ก็เล่าจากที่ได้ยินสืบต่อ ๆ กันมาสรุปได้ว่า
ข้อห้ามเกี่ยวกับจอมปลวก
- มีความเชื่อว่า ตรงไหนที่เป็นจอมปลวกเก่าอายุหลายสิบหรือเป็นร้อยเป็นพันปี ตรงนั้นเป็นที่อยู่ของพระแม่ธรณีหรือบริวารของพระแม่ธรณี หมายความว่าท่านอาจจะไม่ได้อยู่ที่นั่นประจำแต่ก็เหมือนเป็นบ้านของท่าน เป็นปราสาทของท่าน เป็นส่วนหนึ่งของท่านที่ท่านต้องมาแวะเวียนบ่อย ๆ
- ถ้าไปทำการลบหลู่ เช่น ถ่มน้ำลายใส่ เหยียวรด อาจจะเกิดอาถรรพ์ไม่ดีเกิดขึ้น เช่น น้ำลายเหม็นมากผิดปกติ หรือปากเปื่อย ถ้าเหยี่ยวรดอวัยวะเพศอาจจะบวมพองขึ้นภายใน 24 ชั่วโมง เป็นอยู่หลายวันร่วมอาทิตย์กว่าจะหาย แต่ถ้าอยากจะให้หายไว ๆต้องไปทำการขอขมาแม่นางธรณีแล้วนำเอาเศษดินจอมปลวกมาถูกที่กระหม่อม
- แต่ถ้าผมมาคิดเทียบกับปัจจบันนี้ การที่แม่ห้ามไม่ให้ไปเล่นบริเวณจอมปลอกนั้น เพราะกว่าจะเกิดอันตรายหลายประการ อย่างเช่นว่า บริเวณจอมปลวกมักจะมีงูอาศัยอยู่หรือมากินตัวปลวก งูอาจจะทำอันตรายต่อเราได้ อีกประการหนึ่งดินบริเวณจอมปลวกบางแห่งเปราะบางเข้าไม่เหยี่ยมย่ำดินอาจจะล่ม จอมปลวกอาจจะหล่นทับได้ ซึ่งก็เคยมีข่าวเกิดขึ้นอยู่เช่นกัน
- ห้ามสร้างบ้านทับหรือคร่อมจอมปลวกเก่า หรือจอมปลวกใหม่ที่เพิ่งทุบทำลายทิ้งแล้วก็ตาม ต้องปลอยให้เป็นที่ว่างบริสุทธิ์ก่อนถึงจะสร้างได้ และต้องทำพิธีล้างอาถรรพ์เสียก่อน หรือสวดถอนนั่นเอง เรื่องนี้ อันตรายเห็น ๆ ที่จะเกิดขึ้นจากปลวกเมื่อเราสร้างบ้านแล้ว ทำให้บ้านไม่มั่นคง โยกเยกไปมา เมื่อบ้านไม่มั่นคงก็ลุกลามมาถึงครอบครัวก็สั่นคลอน ขาดความสามัคคี สุขภาพกายใจก็แย่ลงไปได้ บางครอบครัวถึงกับแตกแยกกันก็มีครับ
ทำไมจอมปลวกถึงมีความศักดิ์สิทธิ์ให้คุณให้โทษ
- ตามที่กล่าวข้างต้น เชื่อว่าจอมปลวกมีเทวดา ภูมิเทวดา หรือพระแม่ธรณีสิงสถิตอยู่ อาจจะให้คุณให้โทษได้
- ได้ยินมาว่าปลวกมันจะหาดินที่มีส่วนผสมของแร่โลหะพวกทองแดง สำฤทธิ์เหล็ก มาเป็นส่วนประกอบของโครงสร้างจอมปลวก ใต้ดินตรงไหนที่มีทองแดง สำฤทธิ์ หรือ เหล็ก ฝังอยู่ มันจะชอบทำรังปลวกที่นั่น และที่นั่นก็มักจะมีโลหะศักดิ์สิทธิ์โบราณ เป็นต้นว่า พระพุทธรูปเก่า มีดดาบโบราณ ซึ่งเป็นของอาถรรพ์มีความศักดิ์สิทธิ์มักจะมีเทวดาคอยปกปักรักษาหรือเจ้าของเดิมหวงแหนอยู่ ฉะนั้น ถ้าใครไปทำอะไรไม่ดีตรงบริเวณนั้น เช่น บ้วนน้ำลาย เหยี่ยวรดใส่ ก็อาจจะเกิดสิ่งไม่ดีขึ้นได้
- ในพระพุทธศาสนา พระพุทธเจ้าก็ทรงอนุญาตให้ใช้จอมปลวกเป็นเขตแห่งสีมาเพื่อทำสังฆกรรมได้ มีการสวดบอกว่าทิศนี้ มีจอมปลวกนี้เป็นเขตสีมา พระพุทธองค์ทรงเล็งเห็นว่าเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ตั้งอยู่ได้หลายปี และไม่มีใครแตะต้องมัน แต่ถ้าผนวกเข้ากับความเชื่อเราก็อาจจะมีเทวดาสถิตอยู่
- คดปลวก ในจอมปลวกบางแห่งจะมีคดปลวกหรือแร่กายสิทธิ์บางอย่างอยู่ข้างใน พวกพรานหรือหมอไสยศาสตร์นักล่าของกายสิทธิ์ทั้งหลาย เมื่อเห็นจอมปลวกเก่าแล้วก็จะทำพิธีเซ่นไหว้ แล้วทดลองใช้ปืนยิงดู ถ้าปืนยิงไม่ออกก็เชื่อว่าตรงนั้นมีคดหรือแร่กายสิทธิ์อยู่ข้างในจอมปลวกนั้น ก็จะทำการขุดเอามาเป็นเครื่องราง บ้างก็ว่าแร่ชนิดนี้มาจากนอกโลก ตกลงมาบนโลกมนุษย์ ปลวกมาทำรังใส่ บ้างก็ว่าปลวกสร้างขึ้นมาตามธรรมชาติแต่ก็ต้องใช้เวลาหลายร้อยหลายพันปีกว่าที่ดินตรงนั้นจะกลายเป็นหิน
จอมปลวกแบบไหนเฮี้ยนกว่ากัน
แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความทุกจอมปลวกจะต้องศักดิ์สิทธิ์หรือเฮี้ยนเสมอไปนะครับ ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบเหล่านี้ด้วยครับ
- สีดินของจอมปลวก ว่ากันว่าจอมปลวกที่มีสีแดง สีดำ จะดุกว่าจอมปลวกที่มีดินสีขาว
- สถานที่ ที่จอมปลวกตั้งอยู่ อย่างที่กล่าวข้างต้น ถ้าจอมนั้นมีพระพุทธรูปอยู่ มีของโบราณที่เป็นอาถรรพอยู่ด้วย อาจจะมีเทวดารักษาคุ้มครอง หรือเจ้าของเก่าตายแล้วหวงของอยู่ ก็ย่อมมีความแรงเป็นธรรมดา
- ขนาดของจอมปลวก หรืออายุของจอมปลวก ถ้าอยู่มานาน หลายร้อยปี ก็ไม่แน่อาจจะมีอะไรลึกลับสิงสถิตอยู่ก็ได้
เรื่องเล่า อาถรรพ์จอมปลวก
เรื่องที่ 1 อาถรรพ์นำดินปลวกมาถมที่บ้าน
มีเรื่องเล่าว่ามีชายคนหนึ่งกำลังถมที่เพื่อสร้างบ้าน ปรากฏว่าดินที่ใช้ถมที่ไม่พอ เขาจึงไปขุดเอาดินจอมปลวกมาถมที่ (คิดได้ไง ดินปลวกที่มีตัวปลวก?) เมื่อเขาสร้างบ้านเสร็จ เขาอยู่ได้ไม่นานก็ถูกยิงตาย ชาวบ้านต่างเชื่อกันว่า เพราะอาถรรพ์ดินจอมปลวกที่เขานำมาถมที่สร้างบ้าน เรื่องเล่าจาก baanjompra
เรื่องที่ 2 ฉี่รดจอมปลวกลูกกระโปกบวม
คนหนึ่งเขาเล่าว่า ในสมัยเด็กเขาท้าเพื่อนให้ไปฉี่รดจอมปลวก เพื่อนก็ยั่วขึ้นด้วยสิ ก็อย่างว่า ใครจะไปยอมน้อยหน้า ท้าก็ต้องไป ปรากฏว่าตื่นเช้ามาลูกกระโปกของเพื่อนก็บวมทันที แม่เขาต้องพาเขานำธูปเทียนไปขอขมาจอมปลวกถึงหาย เรื่องเล่าจาก palungjit
เรื่องที่ 3 เผาจอมปลวกทิ้ง ขอขมาแล้วก็ไม่เป็นผล
อีกเรื่อง ชายคนหนึ่งไปเผาจอมปลวก ปรากฏว่าไม่กี่วันเขาเดินไม่ได้ ทะเลาะกับครอบครัวบ่อย เดียวล้ม เดียวเกิดอุบัติเหตุ หนักเข้าเรื่อย ๆ จนขาเดินไม่ได้ไม่มีแรง เขานำพระเครื่องอาราธนาทำน้ำมนต์ นำขาลงไปแช่ ปรากฏว่าน้ำที่แช่ขานั้นดำไปหมด แรก ๆ ทำอย่างนี้ก็พอบรรเทาได้ นานเข้าก็เอาไม่อยู่อีก ต่อมาเพื่อนเขาพาไปหาพระ ท่านก็ได้ใช้มีดหมอจิ้มลงไปตั้งแต่โคนขาไล่ลงมาจนมาสุดที่ปลายเล็บ ปรากฏว่ามีเส้นผมและน้ำสีดำ ๆ ไหลออกมา พระท่านแนะให้นำเครื่องเซ่นไหว้ไปขอขมาจอมปลวก ปรากฏว่าของที่นำไปเซ่นไหว้นั้นก็ดำไปหมด สื่อให้รู้ว่าผีจอมปลวกไม่ยอม ในที่สุดต่อมาไม่นานเขาก็หกล้มเสียชีวิต เรื่องเล่าจาก palungjit
บทบาทของปลวกในตำนานพญาคันคากปราบพญาแถน
ตำนานพญาคันคากได้กล่าวไว้ว่า ในอดีตกาลนานมาแล้วได้มีพญาคางคกตนหนึ่งอาศัยอยู่ใต้ร่มโพธิ์ใหญ่ในเมืองพันทุมวดี ในกาลครั้งนั้นเทพแห่งสายฝนนามว่าพญาแถน ไม่ทำหน้าที่แห่งตน ไม่ให้ฝนตกตามฤดูกาลนานถึง 7 เดือน ทำให้เกิดความลำบากยากแค้นแสนสาหัสแก่มนุษย์ สัตว์และพืชพันธุ์ทั้งหลายที่อยู่บนโลกนี้ พากันล้มตายหายไปเป็นจำนวนมาก ส่วนพวกที่แข็งแรงรอดตายได้จึงพากันมารวมกลุ่มกันที่ใต้ต้นโพธิ์ใหญ่อันเป็นที่อยู่อาศัยของพญาคางคก สัตว์ทั้งหลายจึงได้ปรึกษาหารือกันเพื่อที่จะหาวิธีต่อกรกับพญาแถน
และในเบื้องต้นได้ตกลงปลงใจกันให้พญานาคียกกรีฑาทัพไปรบกับพญาแถน แต่ก็ต้องพ่ายแพ้พญาแถนกลับมา ต่อมาจึงให้พญาต่อแตนรวมทัพไปปราบพญาแถน แต่แพ้กลับมาอีกเช่นกัน เมื่อเหล่าสัตว์ทั้งหลายเริ่มจะหมดหวังแล้ว พญาคางคกจึงยกตนขึ้นขออาสาที่จะกรีฑาทัพไปรบกับพญาแถน จึงได้วางแผนในการจัดทัพรบในครั้งนี้ มีบัญชาให้ปลวกทั้งหลายช่วยกันก่อจอมปลวกให้สูงขึ้นไปจนถึงเมืองพญาแถน เพื่อใช้เป็นเส้นทางให้บรรดากองทัพสัตว์ทั้งหลายได้เดินทางไปสู่เมืองพญาแถนโดยสะดวก ซึ่งมีมอด แมลงป่อง ตะขาบเป็นทัพหน้า บัญชาให้มอดทำหน้าที่ในการกัดเจาะด้ามอาวุธทุกชนิดที่ทำด้วยไม้ ให้แมลงป่องและตะขาบซ่อนตัวอยู่ตามกองฟืนที่ใช้หุงต้ม และซ่อนตัวอยู่ตามเสื้อผ้าของทหารพญาแถนเพื่อทำหน้าที่กัดต่อยทั้งหลาย ด้วยอุบายที่แยบคายนี้ บุรีแมนแดนพญาแถนก็พ่ายแพ้ต่อพญาคางคก จึงตกลงกันทำสัญญาสงบศึกกัน โดยมีข้อสัญญากันว่า
- ถ้าหากว่ามนุษย์จุดบั้งไฟขึ้นสู่ท้องฟ้าเมื่อใด ให้พญาแถนต้องสั่งให้ฝนตกในโลกมนุษย์
- ถ้าหากได้ยินเสียงกบ เขียดร้อง นั่นเป็นเครื่องหมายให้รับรู้ว่าฝนได้ตกลงมาแล้ว
- ถ้าได้ยินเสียงสนู (เสียงธนูหวายของว่าว ซึ่งชาวนาภาคอีสานมักจะปล่อยว่างช่วงฤดูเก็บเกี่ยว) หรือเสียงโหวด ให้ฝนหยุดตกเพราะจะเข้าสู่ฤดูเก็บเกี่ยวข้าวแล้ว
เรื่องพญาแถนนี้ผมยังไม่ได้ถอดรหัส พญาแถนอาจจะหมายถึงเจ้าเมือง หรือผู้ที่มีหน้าที่ในการบริหารบ้านเมือง ถ้าทุกวันนี้ก็คือนายกรัฐมนตรี ถ้าไม่ดูแลบ้านเมือง ไม่ดูแลประชาชน ปล่อยให้ประชาชนอดอยาก ข้าวยากหมากแพง คนรวยก็รวยเป็นกระจุก จนกระจาย เหมือนดังฝนไม่ต้องทั่วฟ้า ไม่เป็นไปตามที่ควรเป็น ความทุกข์เข็ญเช่นนี้ สักวันประชาชีคงต้องลุกขึ้นมีต่อกรกับท่านผู้นำเป็นแน่
จอมปลวกกับความเชื่อคนไทยให้คุณและโทษ
สำหรับความเชื่อของคนไทยนั้น จอมปลวกจะให้คุณหรือให้โทษขึ้นอยู่กับว่าจอมปลวกนั้นขึ้นอยู่ทิศทางใดของบ้าน
- จอมปลวกขึ้นทิศตะวันออก หมายถึง บ้านนั้นจะมีข้าวของ เงินทองมากมาย
- จอมปลวกขึ้นทิศใต้ หมายถึง คนในบ้านนั้นจะได้กินของกำนัล ได้รับของจากผู้สูงศักด์
- จอมปลวกขึ้นทิศตะวันตก หมายถึง บ้านนั้นจะเกิดเรื่องหยุมหยิม จะมีเรื่องเดือดร้อน
- จอมปลวกขึ้นทิศตะวันตกเฉียงใต้ หมายถึง คนในบ้านนั้นจะมีความสุข มีสมบัติมาก มีคนยกย่อง
- จอมปลวกขึ้นทิศเหนือ หมายถึง คนในบ้านนั้นจะเป็นใหญ่เป็นโตมีชื่อเสียง
- จอมปลวกขึ้นทิศตะวันออกเฉียงเหนือ หมายถึง ผู้มีอำนาจบารมี จะมาชื่นชอบ
- จอมปลวกขึ้นทิศตะวันออกเฉียงใต้ หมายถึง ให้ระวังไฟจะไหม้บ้าน
- จอมปลวกขึ้นทิศตะวันตกเฉียงเหนือ หมายถึง จะมีความสุข ได้หญิงที่รู้ใจ มีทรัพย์สินและเงินทองเข้ามา
ถ้าจอมปลวกนั้นอยู่ห่างตัวบ้าน 10 เมตรขึ้นไป ก็พอสังเกตการณ์ได้ แต่ถ้าปลวกนั้นลุกลามเข้ามาในบ้านเรื่อย ๆ แล้ว ผมว่าคงไม่เป็นมงคลแน่
การขอขมาจอมปลวก ขอโชคลาภ ขอพรจากจอมปลวก
บทความนี้ไม่ให้ท่านทำเพียงแต่บอกเล่าคนโบราณที่ได้เคยทำมา ซึ่งชาวบ้านที่มีความเชื่อเช่นนี้ก็จะนำเครื่องเซ่นไหว้ต่าง ๆ เป็นต้นว่า ดอกไม้ ธูปเทียน ของหอม อาหารการกิน ไปเซ่นไหว้ หรือผ้าสีต่าง ๆ ไปพันรอบจอมปลวก เมื่อต้องการขอพร ขอให้เกิดโชคลาภความเป็นสิริมงคล หรือ แก้บน ตามที่ต้องการ แต่ถ้าขอหวยจากจอมปลวกนั้น นอกจากเครื่องเซ่นไหว้ตามที่กล่าวข้างต้นแล้ว ก็จะมีจานเทียนดอกไม้ที่เรียกว่าขัน 5 และแป้งฝุ่นสีขาวสำหรับทาจอมปลวกเพื่อหาเลขเด็ด นี่เป็นความเชื่อของแต่ละคน แต่ละท้องที่ ซึ่งนำมาเล่าต่อให้ฟังเท่านั้นครับ