คนไทยในยุคเข็ญ จึงจำเป็นที่ต้องหันมาพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์
เพื่อนคนหนึ่งเล่าให้ฟังว่า ทุกวันนี้ เป็นยุคที่คนไทยยากลำบากขัดสนที่สุด คนรวยก็รวยสุดเพราะมีโอกาสในการทำมาหากินมากกว่าคนอื่น ส่วนคนจนก็จนลงเรื่อย ๆ เพราะขาดโอกาสในการทำมาหากินหรือบางครั้งถูกเอารัดเอาเปรียบจากคนรวยหรือคนที่มีโอกาสมากกว่า คนใหญ่คนโตก็เอาเปรียบสังคมทุกด้านตามแต่ที่โอกาสจะให้ ใช้ตำแหน่งหน้าที่การงานของตนรีดไถเงินจากพ่อค้า ประชาชน นักท่องเที่ยว ดังที่เป็นข่าวให้เห็นทุกวัน ทั้งรีดไถ่นักท่องเที่ยว รับสินบน เปิดเว็บไซต์การพนัน เป็นต้น
เมื่อทุกอย่างบีบคั้นเข้ามา หลายคนจึงหันมาพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งที่ไม่มีอะไรเป็นเครื่องการันตีได้ว่าสามารถช่วยได้ตามประสงค์ แต่เมื่อเรายกท่านให้เป็นองค์เทพแล้วก็สุดแต่ว่าท่านจะเมตตาช่วยเหลือ หนึ่งในองค์เทพที่จะกลับมาเป็นที่พึ่งของประชาชนในยามยากไร้นั่นคือองค์จตุคามรามเทพ
ประวัติขององค์จตุคามรามเทพเป็นมาอย่างไรนั้นเป็นเรื่องซับซ้อนที่ผมจะกล่าวถึงอย่างละเอียดในบทความนี้ เป็นอันว่าท่านเป็นเทพองค์ใดองค์หนึ่งที่นับเนื่องเข้าในเทพชั้นฉกามาวจรภูมิ คืออาจจะเป็นเทพองค์ใดองค์หนึ่งก็ได้ที่มีความเมตตาช่วยเหลือผู้ยากไร้ ซึ่งรูปเคารพแห่งองค์จตุคามรามเทพนั้นเป็นที่ทราบกันดีว่าอยู่ที่ประตูทางขึ้นพระบรมธาตุ วัดพระบรมธาตุ จังหวัดนครศรีธรรมราช
ส่วนวัตถุมงคล รูปเหมือน รูปจำลอง องค์จตุคามรามเทพนั้นถูกสร้างขึ้นมากมายในประเทศไทย ทั้งขนาดเล็กขนาดใหญ่และขนาดพกพาบูชาติดตัว มีทั้งเนื้อโลหะ เนื้อผงว่านต่าง ๆ มากมายหลายรุ่นหลาย สร้างขึ้นมาจนจดจำกันไม่ได้แล้ว แต่ผู้รู้ (เพื่อน) บอกว่าว่า วัตถุมงคลจตุคามที่จะกลับมาได้รับความนิยม (น่าจะหมายถึงกลับมาซื้อขายกันอีกครั้ง) คือจตุคามรามเทพรุ่นหลัก ๆ และรุ่นที่ทันท่านขุนพันธรักษ์ราชเดช อดีตนายตำรวจมือปราบ ผู้ร่วมการจัดสร้างวัตถุมงคลจตุคามรามเทพรุ่นแรก ซึ่งผมเองก็ไม่ได้สอบถามว่ารุ่นไหนบ้างที่เรียกว่ารุ่นหลัก ๆ รุ่นไหนบ้างที่ทันท่านขุนพันธรักษ์ราชเดช แต่เท่าที่ได้ยินมาตอนจตุคามรามเทพดัง ๆ ก็ประมาณว่า
- จตุคามรามเทพ รุ่นแรก ปี 2530
- จตุคามรามเทพ รุ่นบูรณะเจดีย์ราย ปี 2545
- จตุคามรามเทพ รุ่นปฐมอรหันต์สุวรรณภูมิ
- จตุคามรามเทพ รุ่นบูรณะหลักเมืองปี 2547
- จตุคามรามเทพ รุ่นมรดกพ่อ ปี 2547
- จตุคามรามเทพ รุ่นชนะมาร
- จตุคามรามเทพ รุ่นจันทร์ลอย-ฮ่องเต้
- จตุคามรามเทพ รุ่นมั่งมีศรีสุข
- จตุคามรามเทพ รุ่น 9 รอบ 9 พิธี 108 ปีขุนพันธ์
- จตุคามรามเทพ รุ่นโคตรเศรษฐี
- เหรียญพังพระกาฬ
- และจตุคามรามเทพ วัตถุมงคลรุ่นอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับขุนพันธรักษ์ราชเดช
คาถาบูชาจตุคามรามเทพ
กำหนดจิตให้เป็นสมาธิ จากนั้นท่อง (นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ) 3 จบ แล้วให้กล่าวตามบทสวดดังต่อไปนี้
“จะตุคามรามะเทวัง โพธิสัตตัง มะหาคุณัง มะหิทธิกัง อะหัง ปูเชมิ สิทธิลาโภ นิรันตะรัง นะโมพุทธายะ”
คาถานี้แปลความได้ว่า “ข้าพเจ้าขอบูชา ท้าวจตุคามรามเทพโพธิสัตว์ ผู้มีพระคุณอันยิ่งใหญ่ มีฤทธานุภาพไพศาล ขอความสำเร็จและลาภ จงมีแก่ข้าพเจ้า เป็นนิรันดร”
การอธิษฐานขอพรจากจตุคามรามเทพ
การขออธิษฐานจากองค์จตุคามรามเทพนั้นทำได้ โดยมีเงื่อนไข 3 ประการ
- อธิษฐานขอในสิ่งที่เป็นไปได้ โดยไม่ขัดต่อศีลธรรม (เป็นไปได้ หมายถึงตัวเราก็อยู่ในเส้นทางนั้นด้วย เช่น อธิษฐานขอให้สอบได้ ตนเองก็ต้องขยันเรียนขยันศึกษา นี่คือสิ่งที่เป็นไปได้ ไม่ขัดต่อศีลธรรม คือไม่ทุจริตในการสอบ ไม่ติดสินบนใคร ๆ )
- เมื่อได้รับสิ่งที่หวังแล้ว ต้องรักษาสัจจะที่ได้ให้ไว้กับพระองค์ (การจะบนบานหรือไม่บนบานไม่บังคับ แต่สิ่งบนบานหรือให้สัจจะไว้กับองค์จตุคามรามเทพควรเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ ตนเองสามารถทำได้จริงและไม่ขัดต่อศีลธรรมตามข้อหนึ่งด้วยเช่นกัน เช่น ไม่ควรบนว่าจะนำเหล้าสุรามาถวาย เพราะผิดศีลธรรม อย่าไปเชื่อพวกพูดเข้าข้างตนเองว่าองค์จตุคามเป็นกษัตริย์ดื่มน้ำจันทร์ได้ ท่านเป็นกษัตริย์อมตะหรืออย่างไร ถ้าท่านเป็นจริงก็เคยเป็นสมัยเป็นมนุษย์หรือเป็นในยุคหนึ่งสมัยหนึ่ง อีกอย่างกษัตริย์ก็เป็นมนุษย์ มนุษย์ที่ดีควรรักษาศีลไม่ใช่หรือ แม้เป็นเทพ เทพที่ดีก็ควรรักษาศีลเช่นกัน ฉะนั้น การบนหรือถวายสุรายาเมาจึงเป็นเรื่องผิดศีลธรรม เทพไม่ให้เราทำผิดศีลธรรม เราก็อย่านำสิ่งที่ผิดศีลธรรมไปให้เทพเสียเอง)
- ควรจะสร้างกุศลกรรมถวายแด่องค์จตุคามรามเทพ (ข้อนี้เห็นด้วยอย่างยิ่ง จะเป็นมนุษย์ เทพ หรือสัตว์ในภพภูมิใดก็ตาม บุญกุศลย่อมมีส่วนสำคัญต่อเขาเสมอ แต่คนอุทิศบุญก็ต้องทำบุญให้ถูกวิธีด้วย โดยการให้ทาน รักษาศีล ภาวนา แล้วอุทิศบุญอันเกิดจากการทำบุญดังกล่าวให้ท่านเหล่านั้นอนุโมทนาด้วย ไม่ใช่นำขวดเหล้า บุหรี่ หัวหมู ไปวางไว้กลางแจ้งแล้วเชิญให้มารับ แบบนี้ไม่ใช่การอุทิศบุญ)