Skip to content
พระคุ้มครอง

วัตถุมงคล พระเครื่อง เครื่องราง คาถา สิ่งศักดิ์สิทธิ์

  • Home
  • ทำบุญ
  • ธรรมะ
  • คาถา
  • นิทาน
  • นำโชค
  • เรื่องผี
  • ตำนาน
  • หนังสือ
  • เรียกจิต
  • ประเพณี
  • ภาษาวัด
  • ทายนิสัย
  • พระเครื่อง
  • เครื่องราง
  • นานาสาระ
  • ยาสมุนไพร
  • พระสายกรรมฐาน
พระคุ้มครอง

วัตถุมงคล พระเครื่อง เครื่องราง คาถา สิ่งศักดิ์สิทธิ์

สามเรื่องที่คนไทยเข้าใจผิดชนิดสุดขั้ว

พระคุ้มครอง, 18 มกราคม 202316 มีนาคม 2023
เห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์ โปรดแชร์....

สามเรื่องที่คนไทยเข้าใจผิดชนิดสุดขั้ว
สามเรื่องที่คนไทยเข้าใจผิดชนิดสุดขั้ว

เรื่องที่คนไทยเข้าใจผิดชนิดสุดขั้วนั้นมีอยู่มาก หากแต่จะกล่าวเฉพาะในเรื่องที่เกี่ยวกับศาสนา อย่างน้อยมีอยู่ ๓ เรื่อง ได้แก่ ๑ เรื่องสังฆทาน ๒ เรื่องธุดงค์ ๓ เรื่องปฏิบัติธรรม

(บทความนี้นำมาจากเพจของท่านอาจารย์พลเรือตรี ทองย้อย แสงสินชัย ซึ่งจะแสดงที่มาท้ายบทความ)

๑ เรื่องสังฆทาน

คนไทยเป็นจำนวนไม่น้อยเข้าใจว่า “สังฆทาน” คือสิ่งของชนิดหนึ่งที่นำไปถวายพระ

จึงนำสิ่งของชนิดนั้นเข้าไปถวายพระ-พระรูปไหนก็ได้-และเข้าใจว่านั่นคือ “ถวายสังฆทาน” หรือ “ทำบุญสังฆทาน”

ความจริง: “สังฆทาน” คือการที่เราตั้งใจถวายสิ่งของให้เป็นของสงฆ์-เป็นของชนิดใดก็ได้ที่สมควรแก่สมณบริโภคใช้สอย และต้องถวายให้เป็นของสงฆ์ ไม่ใช่ถวายแก่พระรูปไหนก็ได้อย่างที่เข้าใจกันผิดกันมา

อธิบายคำว่า “ถวายแก่พระรูปไหนก็ได้” ที่มีความเข้าใจกันผิดกันมา คือ นำสิ่งของที่เรียกกันผิด ๆ ว่า “สังฆทาน” นั้นไปถวายหลวงพ่อเจ้าอาวาสหรือพระที่ตนรู้จัก เป็นที่เคารพศรัทธาของตน แบบนี้ก็เข้าใจกันว่า “ถวายสังฆทาน” นี่ก็เป็นความเข้าใจผิดอย่างยิ่ง

แต่ถ้า “พระรูปไหนก็ได้” ที่มาปฏิบัติหน้าที่รับของถวายในฐานะเป็น “ผู้แทนสงฆ์” คือรับของนั้นแล้วไปเข้าที่ประชุมสงฆ์เพื่อทำการแบ่งแจกกันตามพระบรมพุทธานุญาต อย่างนี้ถูกต้อง ใช้ได้ เป็นสังฆทาน

แต่ไม่ได้เป็น “สังฆทาน” ที่สิ่งของที่ถวาย อย่างที่เข้าใจกันผิดกันในทุกวันนี้ ที่นำเอาสิ่งของที่เรียกว่า “สังฆทาน” ไปถวายพระองค์ไหนก็ได้ให้เป็นของส่วนตัวของท่าน แบบนั้นไม่ใช่สังฆทาน ไม่เป็นสังฆทาน (เป็นปาฏิปุคคลิกทาน คือเป็นการถวายเจาะจงบุคคล ถวายเป็นของส่วนตัว)

๒ เรื่องธุดงค์

คนไทยเกือบทั้งหมดเข้าใจว่า พระเดินแบกกลด สะพายบาตร สะพายย่าม ไปตามที่ต่าง ๆ นั่นคือ “ธุดงค์”

เมื่อเห็นพระปักกลดพักอยู่ ณ ที่ใดที่หนึ่ง คนไทยก็จะเรียก หรือจะบอกต่อ ๆ กันว่านั่นคือ “พระธุดงค์”

ความจริง: ธุดงค์ คือข้อปฏิบัติพิเศษที่กำหนดขึ้นสำหรับขจัดขัดเกลาความมักมากอยากเสพสุขเกินพอดีตามวิถีชีวิตสงฆ์ ที่พระพุทธองค์ทรงอนุญาตให้ปฏิบัติ แต่ไม่ได้บังคับว่าต้องทำทุกองค์

ข้อปฏิบัติที่เรียกว่า “ธุดงค์” มี ๑๓ ข้อ ดังนี้ –

๑. ปังสุกูลิกังคะ นุ่งห่มเฉพาะผ้าบังสุกุล คือผ้าที่เก็บผ้ามาตัดเย็บย้อมทำขึ้นใช้เอง ไม่ใช้จีวรสำเร็จรูป (refuse-rag-wearer’s practice)

๒. เตจีวริกังคะ ใช้ผ้าเฉพาะ ๓ ผืนที่เรียกไตรจีวร ไม่มีผ้าอื่นเกินไปจากนี้ (triple-robe-wearer’s practice)

๓. ปิณฑปาติกังคะ ฉันเฉพาะอาหารที่ไปบิณฑบาตได้มา ไม่รับนิมนต์ไปฉันที่ใดๆ (alms-food-eater’s practice)

๔. สปทานจาริกังคะ รับบิณฑบาตตามลำดับที่มีผู้ใส่บาตร ไม่เลือกรับเฉพาะราย (house-to-house-seeker’s practice)

๕. เอกาสนิกังคะ ฉันมื้อเดียว คือเมื่อลุกจากที่แล้วไม่ฉันอีกตลอดวันนั้น (one-sessioner’s practice)

๖. ปัตตปิณฑิกังคะ ฉันในบาตร ไม่ใช้ภาชนะอื่นอีก (bowl-food-eater’s practice)

๗. ขลุปัจฉาภัตติกังคะ ฉันอาหารตามปริมาณที่กำหนด คือตั้งใจฉันเท่าไรก็เท่านั้น ไม่รับอาหารเพิ่มอีก (later-food-refuser’s practice)

๘. อารัญญิกังคะ พักอาศัยเฉพาะในป่า ห่างบ้านคนอย่างน้อย ๒๕ เส้น (forest-dweller’s practice)

๙. รุกขมูลิกังคะ พักอาศัยเฉพาะที่โคนไม้ ไม่พักที่อื่น (tree-rootdweller’s practice)

๑๐. อัพโภกาสิกังคะ พักอาศัยอยู่กลางแจ้ง ไม่เข้าที่มุงบัง (open-air-dweller’s practice)

๑๑. โสสานิกังคะ พักอาศัยอยู่ในป่าช้า (charnel-ground-dweller’s practice)

๑๒. ยถาสันถติกังคะ ไปพักที่ไหน เขาจัดที่พักให้อย่างไรก็อยู่ตามนั้น ไม่ต่อรองเลือกที่ (any-bed-user’s practice)

๑๓. เนสัชชิกังคะ อยู่ด้วย ๓ อิริยาบถ คือ ยืน เดิน นั่ง ไม่นอน (sitter’s practice)

(ภาษาอังกฤษในวงเล็บจากพจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม ของท่าน ป.อ.ปยุตฺโต)

จะเห็นว่าทั้ง ๑๓ ข้อ ไม่มีข้อไหนเลยที่กำหนดว่า แบกกลด สะพายบาตร สะพายย่าม เดินไปตามที่ต่าง ๆ เป็นธุดงค์ ไม่ข้อเดินเป็นวัตร แบกกลดเป็นวัตร แต่อย่างไรก็ตามการเดินแบกกลด สะพายบาตร เป็นเรื่องที่น่าอนุโทนา แต่ควรทำความเข้าใจให้ถูกต้อง

(บางท่านอาจจะแย้งว่า นั่นธุดงค์ในตำราในหนังสือที่เรียนกัน แต่ภาคปฏิบัติมันอีกแบบหนึ่ง ซึ่งผมขอย้อนถามว่า แล้วท่านปฏิบัติธุดงค์ตามใคร เรียกว่า ธุดงค์ตามใคร ถ้าปฏิบัติธุดงค์ตามพระพุทธเจ้า เรียกว่าธุดงค์ตามพระพุทธเจ้า ฉะนั้น จึงต้องปฏิบัติตามที่พระพุทธเจ้าบัญญัติไว้ ถ้าเช่นนั้นก็ไม่ต้องมาเรียกว่าธุดงค์)

๓ เรื่องปฏิบัติธรรม

คนไทยเข้าใจว่า “ปฏิบัติธรรม” คือการที่ต้องไปที่วัดหรือสำนักใดสำนักหนึ่งซึ่งที่มีกิจกรรมปฏิบัติธรรม ด้วยการแต่งชุดขาว กินนอนตามเวลาที่กำหนด ปฏิบัติกิจต่าง ๆ ตามวิธีและตามรูปแบบที่วัดหรือสถานที่ปฏิบัติธรรมนั้นกำหนดขึ้น ๓ วันบ้าง ๗ วันบ้าง หรือตามแต่วัดหรือสำนักนั้นจะกำหนดไว้ เมื่อครบกำหนดแล้วก็กลับบ้านได้ แล้วก็เข้าใจว่า “ปฏิบัติธรรม” ต้องทำอย่างนี้ การปฏิบัติธรรมที่คนไทยเข้าใจมาตลอด คือแบ่งเวลาออกจากชีวิตประจำวัน

ความจริง: การปฏิบัติธรรมในพระพุทธศาสนา คือการปฏิบัติอยู่ในชีวิตจริงชีวิตประจำวัน กล่าวโดยรวบยอดคือ ทำพูดคิดทุกอย่างโดยมีสติกำกับจิตตลอดเวลา รู้เท่าทันสภาวะต่าง ๆ ตามความเป็นจริง จะแต่งชุดขาวหรือไม่ขาวก็ปฏิบัติก็ปฏิบัติได้ จะนั่ง นอน ยืน เดิน ก็ปฏิบัติธรรมได้ เมื่อฝึกจนรู้วิธีปฏิบัติแล้ว

ส่วนการปฏิบัติธรรมตามวัดหรือตามสำนักตามเวลาที่กำหนด ๓ วัน ๕ วัน ๗ วัน นั่นคือแบบฝึกเพื่อให้รู้วิธีปฏิบัติ

แบบฝึกเป็นสิ่งจำเป็น ต้องเรียกต้องฝึกทำให้ถูก แต่เมื่อทำถูกทำเป็นแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องไปทำแบบฝึกอีก หากแต่ทำจริง ๆ ในชีวิตจริงกันเลย และไม่ต้องแยกออกจากชีวิตประจำวัน ปฏิบัติได้ทุกเวลา ทุกสถานที่ในชีวิตประจำวัน

แบบฝึก เหมือนห่วงยาง จำเป็นสำหรับคนที่ยังว่ายน้ำไม่เป็น

ว่ายน้ำเป็นแล้ว ไม่ต้องใช้ห่วงยาง

คนไทยปฏิบัติธรรมเหมือนคนที่ยังว่ายน้ำไม่เป็นตลอดกาล

หัดว่ายน้ำเพื่อจะได้ว่ายน้ำเป็น ไม่ใช่หัดว่ายน้ำตลอดชีวิต

กิจกรรมปฏิบัติธรรม ๓ วัน ๕ วัน ๗ วัน ยังจำเป็นต้องมี เพราะคนที่ไม่รู้วิธีปฏิบัติธรรมยังมีอยู่

อุปมาเหมือนวิธีหัดว่ายน้ำ-ไม่ว่าจะหัดหรือสอนด้วยวิธีใดๆ-ยังจำเป็นต้องมี เพื่อฝึกสอนคนที่ว่ายน้ำไม่เป็นให้ว่ายน้ำเป็น แต่ต้องมีเป้าหมายที่-สอนให้ว่ายน้ำเป็นแล้วไม่ต้องมาหัดว่ายน้ำอีก ไปว่ายจริง ๆ เลย

กิจกรรมปฏิบัติธรรม ๓ วัน ๕ วัน ๗ วัน ยังจำเป็นต้องมี เพื่อฝึกสอนคนที่ยังปฏิบัติไม่เป็นให้ปฏิบัติเป็น แต่ต้องมีเป้าหมายที่-สอนให้ปฏิบัติเป็นแล้วไม่ต้องมาฝึกปฏิบัติอีก ไปปฏิบัติจริง ๆ ได้เลย

บทความนี้ผมนำมาจาก นาวาเอก ทองย้อย แสงสินชัย Fanpage
เขียนโดย พลเรือตรี ทองย้อย แสงสินชัย
เมื่อวันที่ ๘ ธันวาคม ๒๕๖๕ เวลา ๑๙:๕๕

บทความอาจจะมีการเพิ่มข้อความหรือตัดบางส่วนออก ท่านผู้สนใจจริง โปรดอ่านเพิ่มเติมที่ท่านอาจารย์ได้โพสต์ไว้

การที่ผมนำบทความนี้มาโพสต์ไว้ ก็เพื่อไว้ศึกษาและเผยแพร่สิ่งที่คนไทยเข้าใจผิดมาตลอดจะได้ทำความเข้าใจให้ถูกต้อง ในเรื่องสังฆทาน การธุดงค์ และการปฏิบัติธรรม

ขอกล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปฏิบัติ คนไทยแยกการปฏิบัติธรรมออกจากชีวิตประจำวันอย่างน่าเศร้าใจ อย่างเช่น หากคนไหนไม่ดื่มเหล่า ไม่เจ้าชู้ พูดเรื่องธรรมะ ฝึกสติสวดมนต์ไหว้พระเป็นประจำ ก็จะถูกพูดแหย่กระแนะกระแหนว่าให้ไปบวชบ้าง ให้ไปอยู่วัดบ้าง ซึ่งความจริงแล้วการงดเว้นจากการดื่มสุรา การพูดแต่ความสัตย์ การไม่เจ้าชู้ การบริหารจิตเป็นต้น ควรมีอยู่ในชีวิตประจำวันจริง ๆ

บางคนก็พูดว่าการปฏิบัติธรรมต้องสละทุกอย่าง แต่งตัวปอน ๆ ไม่มีของหรู ไม่มีรถ ไม่มีโทรศัพท์ใช้ ไม่ต้องหาเงิน ซึ่งผมมองว่าเป็นสิ่งเข้าใจผิด อนาถบิณฑิกเศรษฐี เป็นโสดาบัน ก็ยังต้องทำธุรกิจร้อยล้านพันล้าน มีทรัพย์มากมาย และก็เชื่อท่านอยู่บ้านที่สะดวกสบาย มันสำคัญที่ว่าเรามีอะไร ใช้อะไรแล้ว เรามีคุณธรรมไหม ของใช้ เสื้อผ้า รถ โทรศัพท์ อินเตอร์เน็ต เฟซบุ๊ก ไม่ได้ขัดแย้งหรือเป็นอุปสรรคในการปฏิบัติธรรมเลย


เห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์ โปรดแชร์....

บทความที่เกี่ยวข้อง

การให้ทานการให้ทาน ก็เป็นการปฏิบัติบูชาอย่างหนึ่งเหมือนกัน คาถาเดินทางปลอดภัยทำไมพระไม่หลีกทาง ถวายทางเดินแก่พระสงฆ์ โดยการหลีกทางให้ ได้อานิสงส์ไม่ติดขัด การให้ทานทานอาหารที่เหลือจากพระได้ไหม นำอาหารจากวัดกลับบ้านได้ไหม? ถวายสังฆทาน 323 วัด 4 จังหวัดชายแดนใต้ถวายสังฆทาน 323 วัด 4 จังหวัดชายแดนใต้
ธรรมะคุ้มครอง การปฏิบัติพระธุดงค์สังฆทาน

แนะแนวเรื่อง

Previous post
Next post

สวัสดียามเช้า พระคุ้มครอง

  • คลิป VIDEO
  • คอมพิวเตอร์
  • คาถา
  • ดาวน์โหลด
  • ตำนาน
  • ธรรมะคุ้มครอง
  • นานาสาระ
  • นิทาน
  • นิสัยใจคอ
  • บ้านและสวน
  • ประเพณี
  • พระสายกรรมฐาน
  • พระเครื่อง
  • ภาษาวัด ภาษาไทย
  • ยาสมุนไพรโบราณ
  • วัดธรรมยุตในต่างประเทศ
  • ส่งคำอวยพร
  • สังฆทาน
  • สิ่งนำโชค
  • สุขภาพ
  • อาชีพและครอบครัว
  • เครื่องราง
  • เรียกจิต
  • เรื่องผี
  • แนะนำหนังสือ
  • แบ่งปัน
  • ไม้ประดับ ไม้มงคล

เว็บไซต์แห่งนี้ นำเสนอบทความเกี่ยวกับ วัตถุมงคล พระเครื่อง เครื่องราง มนต์คาถา พิธีกรรมต่าง ๆ
ซึ่งทั้งหมด เป็นที่พึ่งทางจิตใจ เป็นความรู้ เป็นความเชื่อที่สืบทอดต่อกันมา
ทางเราไม่อาจจะพิสูจน์ได้ว่า ความเชื่อเหล่านั้นเป็นจริงหรือไม่
ผู้เขียนบทความ ไม่อาจจะรับรองความเชื่อนั้นว่าจะได้ผลจริง หากท่านนำไปปฏิบัติตาม
หน้านโยบายความเป็นส่วนตัว

บทความต่าง ๆ บนเว็บไซต์นี้ แม้ทางเรานำเสนอโดยการศึกษาจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ จึงมาเขียน ฉะนั้น ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความโดยพยัญชนะ