พระอาจารย์สุพัฒน์ สุขกาโม
วัดป่าประสิทธิ์สามัคคี บ้านต้าย ตำบลบ้านต้าย
อำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร
ท่านพระอาจารย์สุพัฒน์ สุขกาโม นามเดิมท่านชื่อ คำก้อน นามสกุลน้อยพรหม เกิดเมื่อวันพฤหัสบดี ที่ ๒๐ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๗๑ ขึ้น ๙ ค่ำ เดือน ๑ ปีมะโรง เวลา ๑๙.๐๐ น. ณ บ้านดอนมนต์ ตำบลดอนมนต์ อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ โดยมี คุณพ่อทัศน์ น้อยพรหม เป็นบิดา คุณแม่อ่อน น้อยพรหม เป็นมารดา มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันทั้งหมด ๑๐ คน ท่านเป็นบุตรคนที่ ๕
การศึกษา
ท่านพระอาจารย์สุพัฒน์ สุขกาโม เมื่อยังเด็กพอโตที่จะเข้ารับการศึกษาแล้ว บิดามารดาได้ส่งให้ท่านเข้ารับการศึกษาที่โรงเรียนบ้านนาลาว ตำบลร่อนทอง อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ จนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ในสมัยนั้นหมู่บ้านดอนมนต์ ต้องเดินไปเรียนที่โรงเรียนบ้านนาลาว
การบรรพชา
ขณะนั้นอายุของท่านราว ๑๒ ๑๓ ปี ท่านได้พบพระอาจารย์บุญทัน ฐิตปุญฺโญ และหลวงพ่อนิล ญาณวีโร(พ่อของท่านพระอาจารย์บุญยัง ผลญาโณ) ซึ่งครูบาอาจารย์ทั้งสองท่านเป็นพระธุดงค์กรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตตมหาเถระ ได้ธุดงค์มาพักบำเพ็ญภาวนาที่ปราสาทหินบ้านดอนมนต์ ส่วนโยมพ่อได้นำพระอาจารย์สุพัฒน์ไปฝากตัวเป็นลูกศิษย์ของท่านพระอาจารย์ทั้งสอง เพื่อคอยรับใช้อุปัฏฐากติดตามท่าน พออายุของท่านครบ ๑๖ ปี ท่านพระอาจารย์บุญทัน ได้นำท่านไปบรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดโยธาประสิทธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์
ครั้นบรรพชาแล้ว ท่านพระอาจารย์สุพัฒน์ ก็ได้อยู่ศึกษาอบรมข้อวัตรปฏิบัติ อุปัฏฐากท่านพระอาจารย์บุญทัน และได้เรียนนักธรรมไปด้วยจนสามารถสอบไล่ได้นักธรรมชั้นโท รวมเวลาที่ท่านอยู่กับท่านพระอาจารย์บุญทัน เป็นเวลา ๕ ปี ตลอดระยะเวลาที่ท่านพระอาจารย์สุพัฒน์ สุขกาโม ได้พักกับครูบาอาจารย์ท่านก็ได้ทำหน้าลูกศิษย์อย่างสมบูรณ์ไม่ขาดตกบกพร่อง มีการตั้งน้ำใช้น้ำฉัน ปัดกวาดเช็ดถูกุฏิ สรงน้ำ นวดขา เป็นต้น
การอุปสมบท
ท่านพระอาจารย์สุพัฒน์ สุขกาโม ท่านได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ วัดหลวงสุมังคลาราม อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ โดยมีพระครูสิริสารคุณ (อิ่ม) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระสมุห์สาย เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับนามฉายาว่า สุขกาโม ซึ่งแปลว่า ผู้ใคร่ความสุข
ครั้นอุปสมบทแล้ว ท่านก็ได้ไปศึกษาข้อวัตร ปฏิบัติธรรมในสำนักครูบาอาจารย์พระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตตมหาเถระ อาทิเช่น พระอาจารย์บุญทัน ฐิตปุญฺโญ หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี หลวงปู่ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร อำเภอพรรณนานิคม จังหวัดสกลนคร หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี หลวงพ่อแบน ธนากโร วัดดอยธรรมเจดีย์ อำเภอโคกศรีสุพรรณ จังหวัดสกลนคร เป็นต้น
สถานที่พักจำพรรษา
พรรษาที่ ๑ พ.ศ.๒๔๙๒ จำพรรษา ณ วัดมหาวัลย์ อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น
พรรษาที่ ๒ พ.ศ.๒๔๙๓ จำพรรษา ณ วัดวีระธรรม บ.อุ่มเหม้า อ.พังโคน จ.สกลนคร
พรรษาที่ ๓ – ๔ พ.ศ.๒๔๙๔ – ๒๔๙๕ จำพรรษา ณ วัดป่าภูธรพิทักษ์ อ.เมือง จ.สกลนคร
พรรษาที่ ๕ พ.ศ.๒๔๙๖ จำพรรษา ณ วัดวิเวกพัฒนาราม บ.ห้วยทราย อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร
พรรษาที่ ๖ พ.ศ.๒๔๙๗ จำพรรษา ณ วัดป่าภูธรพิทักษ์ อ.เมือง จ.สกลนคร
พรรษาที่ ๗ พ.ศ.๒๔๙๘ จำพรรษา ณ วัดอรัญญวิเวกวัฒนาราม
พรรษาที่ ๘ – ๑๒ พ.ศ.๒๔๙๙ – ๒๕๐๓ จำพรรษา ณ วัดพิชัยพัฒนาราม อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี
พรรษาที่ ๑๓ – ๑๔ พ.ศ.๒๕๐๔ – ๒๕๐๕ จำพรรษา ณ วัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี
พรรษาที่ ๑๕ – ๑๗ พ.ศ.๒๕๐๖ – ๒๕๐๘ จำพรรษา ณ วัดถ้ำกลองเพล อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู
พรรษาที่ ๑๘ พ.ศ.๒๕๐๘ จำพรรษา ณ วัดดอยธรรมเจดีย์ อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร
พรรษาที่ ๑๙ – ๒๐ พ.ศ.๒๕๑๐ – ๒๕๑๑ จำพรรษา ณ วัดประสิทธิ์สามัคคี อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร
พรรษาที่ ๒๑ พ.ศ.๒๕๑๒ จำพรรษา ณ วัดแสงอรุณ อ.โซ่พิสัย จ.หนองคาย
พรรษาที่ ๒๒ – ๒๔ พ.ศ.๒๕๑๓ – ๒๕๑๕ จำพรรษา ณ วัดป่าประสิทธิ์สามัคคี อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร
พรรษาที่ ๒๕ พ.ศ.๒๕๑๖ จำพรรษา ณ วัดแสงอรุณ อ.โซ่พิสัย จ.หนองคาย
พรรษาที่ ๒๖ – ๓๑ พ.ศ.๒๕๑๗ – ๒๕๒๒ จำพรรษา ณ วัดป่าประสิทธิ์สามัคคี อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร
การมรณภาพ
ท่านพระอาจารย์สุพัฒน์ สุขกาโม ท่านได้มรณภาพด้วยอุบัติเหตุเครื่องบินตก ที่อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี เมื่อวันที่ ๒๗ เมษายน พ.ศ.๒๕๒๓ เวลาประมาณ ๑๔.๐๐ น. สิริรวมอายุได้ ๕๑ ปี พรรษาา ๓๑ พรรษา มรณภาพพร้อมด้วยครูบาอาจารย์อีก ๔ รูป คือ
๑.หลวงปู่บุญมา ฐิตเปโม วัดสิริสาลวัน บ้านโนนทัน อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู
๒.พระอุดมสังวรวิสุทธิเถร (หลวงปู่วัน อุตฺตโม) วัดถ้ำอภัยดำรงธรรม อำเภอส่องดาว จังหวัดสกลนคร
๓.พระอาจารย์จวน กุลเชฏฺโฐ วัดเจติยาคิรีวิหาร (ภูทอก) อำเภอศรีวิไล จังหวัดกนองคาย
๔.พระอาจารย์สิงห์ทอง ธมฺมวโร วัดป่าแก้วชุมพล อำเภอส่างแดนดิน จังหวัดสกนคร
ท่านพระอาจารย์สุพัฒน์ สุขกาโม ท่านเป็นพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ กรอบด้วยศีลและธรรม มีศีลาจาริยวัตรที่งดงาม เมื่อท่านได้บำเพ็ญประโยชน์ส่วนตนได้แล้ว ท่านก็ได้ออกมาบำเพ็ญประโยชน์ให้แก่บวรพระพุทธศาสนา และสังคมส่วนรวม มีการเทศนาอบรมสั่งสอนพระภิกษุสามเณร อบรมศีลธรรมแก่ญาติโยมทั้งหลาย ให้รู้จักการดำเนินชีวิตตามหลักธรรมคำสอนของพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ให้เป็นคนดีมีศีลธรรมประจำจิตใจ สอนให้รู้จักการให้ทาน คือการทำบุญสร้างกุศล มีการทำบุญตักบาตร เสียสละวัตถุสิ่งของ เงินทองต่างๆแก่พระสงฆ์ หรือบุคคลอื่น สอนให้รู้จักการรักษาศีล คือการรักษากาย วาจา ของตนเองให้เรียบร้อยไม่เบียดเบียนกัน ให้มีเมตตาต่อกันและกัน รวมทั้งอบรมหลักของการภาวนา คือการรักษาจิตใจของตนเองให้สงบเป็นเป็นหนึ่งเดียว ไม่ให้คิดในสิ่งที่ไม่ดีไม่งาม ทำจิตใจให้ผ่องใส เป็นต้น